Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องของ..เรา

    เรื่องของเรา
    …
    “ กาแฟดำ อย่างเคยสินะ ”
    ฉันดึงสายตาตัวเองจากไอน้ำที่ลอยขึ้นช้าๆและช้า ผละผิวจากลำน้ำปาย
    กระชับผ้าคลุมไหล่ให้แน่นเข้าอีกนิด
    ผู้ชายผมยาวที่ตอนนี้รวบไว้อย่างลวกๆ ผละจากเคาน์เตอร์ ถือแก้วกาแฟสีขาวเดินมานั่งข้างหน้าฉัน
    “ เพื่อน ” เจ้าของรีสอร์ทเล็กๆ ริมปาย  ใช่! เพื่อน…
    “ ถามจริง มาทำไม ”
    กึก! แก้วกาแฟสีขาว กลิ่นหอมเย้ายวน ถูกวางลงตรงหน้า
    “ หอมจัง กาแฟไรนี่ ” ดมกลิ่นกาแฟ ทำจมูกบาน จิบช้าๆ ก็มันร้อน
    “ อะราบีก้า จากขุนวาง ”  ปาท่องโก๋หนึ่งซีกถูกยื่นมาข้างหน้า
    “ จะกินขนมปังจิ้มสังขยา ”  ฉันส่ายหน้า บอกสิ่งที่อยากได้
    เขาส่ายหน้า ก่อนลุกไปหยิบถุงขนมปังกับตะกร้าใส่แยม เนย มาวางลงตรงหน้า
    “ มีแต่นี่ จะกินก็กิน ไม่กินก็ไปซื้อที่ตลาดเอาเอง ” เสียงชักแข็ง
    “ แขกของเธอเขากินอะไร ”  ฉันมองหน้าพ่อหนุ่มผมยาวที่ยังไม่มีรอยยิ้มให้สักนิด
    “ ก็กินเหมือนที่เธอกำลังกินนี่แหละ ฉันเตรียมไว้ที่ศาลาตรงกลางนั่น เขาไม่เรื่องมากอย่างเธอ ”
    เฮ้อ! ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย
    “ ไม่เหมือนฉัน ได้กินกาแฟสด หอมกรุ่น ชงโดยเจ้าของรีสอร์ทที่แสนจะใจดี ” ยิ้มเอาใจ
    “ มาทำไม ”
    “ กาแฟนี่ หอมนะ กินทีไรก็ขม ดมทีไรก็หอม ”  มือของฉันกุมถ้วยกาแฟ หวังจะได้ไออุ่น
    แทนที่ความเย็นยะเยือกจากน้ำเสียงคนตรงหน้า

    กี่ปีนะสามปี ใช่ สามปีก่อน
    ฉันปฏิเสธคำขอแต่งงานจากเขา ผู้ชายคนเดียวกับที่นั่งอยู่ข้างหน้า
    เหตุผล ? ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ ฉันรู้เพียงว่าตอนนั้นฉันยังไม่พร้อม
    ฉันยังสนุกกับงาน สนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงนั้น
    จู่เพื่อนที่สนิทมาก มากเป็นพิเศษ เกิดอยากจะแต่งงาน ขอแต่งงาน
    มึนนิดๆ ทำไมล่ะ การที่เราเป็นเพื่อนกัน ไปไหนต่อไหนด้วยกัน
    มีปัญหาก็ปรึกษาหารือกัน พบกันวันคิดถึง นั่นมันก็ดีอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องแต่งงานกันเลย
    ทำไมต้องผูกยึดติดกันด้วยการแต่งงานด้วย ฉันไม่เข้าใจ

    และ…เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันปฏิเสธ
    หลังจากนั้นเขาก็ทำตัวเหินห่าง ค่อยๆถอยห่างจากฉันช้าๆ
    กว่าฉันจะรู้ตัว ข้างกายก็ว่างเปล่า
    ความเป็นเพื่อนที่เคยมี เขาเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน
    เพื่อนของเขาบอกฉันว่าเขาลาออกและมาทำรีสอร์ทอยู่ที่ปาย
    ปาย…เมืองที่เราเคยมาเที่ยว เมืองที่เราแสนจะประทับใจ
    “ สักวันฉันจะมาทำรีสอร์ทอยู่ที่นี่ เธอจะมากับฉันมั้ย ”  
    ฉันเองตอนนั้นได้แต่หัวเราะไม่ได้ตอบคำถามของเขา เพราะไม่คิดว่าเขาจะจริงจัง
    นั่นสิ!ทำไมฉันถึงคิดว่าเขาจะไม่จริงจัง
    ความจริงเขาจริงจังกับทุกเรื่องต่างหาก ทุกเรื่อง
    …
    ช่วงแรกที่เขาเงียบหายไป ฉันค่อนข้างมึนงงหน่อยๆ เศร้าใจนิดๆ
    ไม่เข้าใจทำไมต้องเป็นแบบนั้น
    ทำไมเราสองคนต้องจบแบบนั้น
    โกรธ … ใช่ … ฉันรู้สึกโกรธ โกรธตัวเอง โกรธเขา
    ได้เลย เมื่ออยากให้เป็นอย่างนั้นก็ได้ ลืมไปเลยว่าเคยมีกันและกัน

    ข่าวคราวของเขาส่วนใหญ่ฉันจะได้ฟังจากเพื่อน ไม่ใช่จากเขา
    ที่อยู่ของเขา ฉันก็ได้จากเพื่อน ไม่ใช่จากเขา
    เขายังติดต่อกับเพื่อนในกลุ่ม
    แต่ไม่ติดต่อหาฉัน ที่เคยเป็นยิ่งกว่าเพื่อน เพื่อนสนิทมาก เพื่อนที่เขาขอแต่งงาน

    เพื่อนๆไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา
    อย่าว่าแต่เพื่อน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา
    ….
    “ มาทำไม ”  น้ำเสียงขุ่นๆนั่นปลุกให้ฉันตื่นจากความคิด
    “ ใครๆเขามาปายทำไมล่ะ ”  
    “ เธอไม่เหมือนใครๆที่มา มาทำไม ”  เขาว่า
    “ ไม่เบื่อรึไงถามคำถามเดิมอยู่นั่น ” ฉันมองหน้าเขา ไม่สิมองที่ตาของเขา
    “ ฉันอยากอยู่เงียบๆ สักพัก … เธอจะนั่งอยู่เงียบๆสักพักได้มั้ย ”  ฉันว่า
    อาจเป็นเพราะดวงตาของฉันมันคงฟ้องว่าเจ้าของของมันรู้สึกเหนื่อยล้าเพียงใด
    คนเสียงแข็งจึงเงียบเสียงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ จิบกาแฟเงียบๆ

    ปล่อยให้ความเงียบรายรอบระหว่างเรา

    “ ฉัน … ”  เสียงของฉันมันถูกกลืนหาย เมื่อหันมองผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ
    และพบว่าเขาจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว
    มีอะไรบางอย่างที่ฉายจากดวงตา ความอ่อนโยน ห่วงใย
    แว้บเดียวเพียงแว้บเดียวจริงๆ  นั่นก็มากพอแล้วสำหรับฉัน
    “ ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ เพลียจัง ” ฉันลุกขึ้นจะเก็บแก้วกาแฟไปล้าง
    แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือของใครอีกคนเอื้อมมาแตะหลังมือ
    “ ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวฉันเก็บเอง เธอไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเถอะ เมื่อวานก็มาถึงค่ำ
    ขับรถคนเดียวอีกต่างหาก  พักผ่อนตามสบายนะ ”
    มีกระแสของความห่วงใยเบาบางอยู่ในคำพูดนั้น   ฉันสัมผัสได้
    …
    มาทำไม คำถามนี้ฉันมีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว
    ขอเวลาอีกนิดหนึ่งเถอะ เย็นนี้ฉันจะบอกเขา
    จะบอกทุกเรื่อง โดยเฉพาะ เหตุผลที่ต้องมา ถ้าเขาอยากได้คำตอบนัก
    และถึงไม่ถามอีก ก็จะบอก
    แต่ตอนนี้….ขอเวลาตั้งตัวอีกนิด

    …
    เสียงเดินลากรองเท้าเล่นของฉันเรียกให้คนผมยาวที่กำลังจัดโต๊ะอาหารเงยหน้าขึ้นมอง
    “ ไปไหนมาทั้งวัน ฉันนึกว่าเธอจะนอนๆนั่งๆอยู่แถวนี้ ”
    ฉันยิ้มให้เขาบางๆ เสียงไม่เย็นเหมือนเมื่อเช้าค่อยดีขึ้นมาหน่อย มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะ
    “ ไปไหว้พระ ไปเดินเล่นแถวๆนี้ ปายเปลี่ยนไปเยอะเลย
    การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์จริงๆ แต่ปายก็ยังงดงามในใจฉัน ”
    ฉันเห็นเขาชะงักเป็นครู่
    “ ไปอาบน้ำก่อนมั้ย แล้วมาทานข้าวกัน ” เขาว่า และยิ้มให้ เขายิ้มให้ !

    อาหารมื้อค่ำผ่านไปท่ามกลางความเงียบ
    เขาไม่ถาม ไม่มีน้ำเสียงเย็นชา ดูแลตักอาหารเอาใจใส่อย่างดี
    ฉันรู้ เขากำลังรอเวลา รอเวลาให้ฉันเริ่ม

    หลังอาหารเย็น เราย้ายไปนั่งหน้าทีวี เปิดรายการอะไรไม่รู้
    ไม่มีใครดู เปลืองไฟ ฉันกดรีโมทปิด เขามองหน้า
    ฉันเดินไปกดน้ำร้อนลงแก้วที่มีถุงชา เดินกลับมานั่งบนเบาะนุ่มใกล้ๆเขา

    “ พรุ่งนี้ ฉันจะกลับแต่เช้า กลัวมืดบนเขา  ” ฉันเริ่ม สองมือกุมถ้วยชา
    หวังว่าเขาจะไม่รู้ว่ามือฉันสั่น หวังว่าเขาจะคิดว่ามือฉันสั่นเพราะอากาศเย็น
    ไม่ใช่เพราะความรู้สึกข้างใน
    “ เมื่อหลายปีก่อน ….มีคนๆหนึ่งเข้ามาในชีวิตฉัน เขาคอยดูแล
    เป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา    เวลาฉันโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเขาก็จะมีวิธีทำให้ฉันหายโกรธ
    เราสนิทกันมาก  ฉันมีความสุขทุกวันที่มีเขาอยู่ใกล้  แล้วอยู่มาวันหนึ่ง
    เขาก็มาพูดอะไรบางอย่างกับฉัน      มัน..... เอ่อ.. มันทำให้ฉันรู้สึกสับสน
    ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดหรือทำอะไรโง่ๆออกไป  คนๆนั้นค่อยๆถอยห่างและหายไป ”
    ฉันหยุดยกน้ำชาขึ้นจิบ เขาไม่พูดอะไรสักคำ
    “ สามปีที่ผ่านมา  สามปีที่ฉันใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ไม่มีเขา
    ฉันคิดว่าฉันอยู่มาได้ ตั้งสามปีเก่งจัง แต่ความจริงคือ สามปีที่ผ่านมามันแย่มากๆ
    ไปดูหนังก็ไม่สนุก  ทำเค้กก็ไม่มีคนช่วยกิน บ่นก็ไม่มีคนฟัง ฉันไม่รู้ว่าผ่านสามปีนั้นมาได้ยังไง
    เขามักพูดว่า  คนแปลกๆอย่างฉันคงมีแค่เขาเท่านั้นแหละที่จะอยู่ด้วยได้
    มันแย่จัง   ความรู้สึกเคยชินอย่างนี้ไม่ดีเลย ไม่ดีต่อฉันเลย ”
    ฉันหัวเราะเบาๆ ทั้งที่ไม่มีเรื่องให้ขำสักนิด
    เขายังจ้องมองฉันเงียบๆ อุปทานหรือเปล่าไม่รู้ ฉันคิดว่าฉันเห็นแววตาอ่อนโยนคู่เดิม
    “ ฉัน…คือ…ฉัน…. ” แก้วน้ำชาอยู่ในอุ้งมือ ช่วยทำให้อุ่นขึ้นมาก
    ฉันสูดหายใจลึกๆหนึ่งเฮือก รู้สึกเหมือนขาดอากาศ
    “ ฉันขอโทษ ฉัน… ”
    “ ฉันไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้า ”
    มีบางอย่างดูดกลืนคำพูดบางประโยคที่ฉันอยากจะพูดหายไป
    มีบางอย่างทำให้นัยน์ตาของฉันพร่า

    “ ไม่รู้สึกว่าพูดช้าไปหน่อยเหรอ…”
    ฉันหันไปมองหน้าเขา ใบหน้านั้นปราศจากความรู้สึก นิ่งสนิท
    ไม่… ไม่นิ่งแน่  ฉันแอบเห็นประกายบางอย่างในดวงตาของเขา
    “ เคยไปโรงเรียนสายมั้ย คนไปสายต้องถูกทำโทษ เธอมาสายต้องถูกลงโทษ
    สายตั้งสามปี โทษหนัก … ”  ฉันได้แต่นิ่ง มองสบตาของเขา
    มีบางอย่างวิบวับอยู่หลังดวงตาคู่นั้น
    “ ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียวและจะไม่พูดกับเธออย่างนี้อีก โอกาสสุดท้ายสำหรับเธอ …
    แต่งงานกับฉันนะ ”  คนที่นั่งเงียบมาตลอดเย็นนี้ เพิ่งจะพูด
    พูดไม่กี่ประโยค แต่เป็นประโยคที่ฉันรอคอยจะฟัง ...อีกครั้ง
    เขายื่นมือมาให้ฉัน ยิ้มให้นิดๆอย่างอบอุ่น …
    ..
    ฉันปัดมือเขาออกไป เขาชะงักไปครู่
    เพียงชั่วพริบตาเดียว
    และโถมตัวเข้าหาเขา โอบกอดเขาไว้ด้วยสองแขนเล็กๆ
    พยักหน้า ส่งเสียงปนสะอื้นเบาๆกับไหล่ของเขา
    “ แต่งสิแต่ง ฉันจะแต่งกับเธอ กับเธอเพียงคนเดียว ”
    ...

    จากคุณ : สิงห์อมบ๊วย - [ 6 ม.ค. 51 11:37:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom