Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    รอย... เร้น : (3) เรื่องเร้น

    ก่อนจะไปถึงตอนที่ 3 มีความผิดเกี่ยวกับเรื่องสั้นเรื่องนี้จะสารภาพอย่างหนึ่ง
    คือ ตอนแรกบอกเสียดิบดีว่า เรื่องนี้มีความยาว 3 ตอนจบ แต่จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้ความยาวมี 4 ตอนจบค่ะ
    ต้องขออภัยในข้อผิดพลาดมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

    รอย... เร้น : (1) ร่าง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6165327/W6165327.html
    รอย... เร้น : (2) ร่องรอย
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6187063/W6187063.html

    ----------------------------------------------------------------------  

    รอย... เร้น : (3) เรื่องเร้น

    “อาจารย์ธวัชชัยคะ... ดิฉันเกรงว่าเราอาจจะต้องพับแผนการวันนี้เสียแล้วค่ะ”

    อาจารย์เสาวลักษณ์ซึ่งยืนรอผมออกมาเปิดประตูรับอยู่ที่หน้าบ้านพักเพียงลำพังกล่าวแผ่วเบา ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มของเธอกลับซีดสลดจนกลายเป็นคนละคนกับอาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ที่ช่างพูดช่างคุยและร่าเริงอยู่เป็นนิจที่ผมเคยรู้จัก

    น้ำเสียงและสีหน้าของเธอทำให้ผมอยากเอื้อมมือออกไปจับมือของเธอไว้ แต่ยั้งใจตัวเองเอาไว้ทัน “เกิดอะไรขึ้นครับ อาจารย์”

    “เผอิญอาจารย์เอมอรมีเคสด่วนเข้ามาน่ะค่ะ” เธอบอก “และถึงจะไป ดิฉันคงไม่ได้พบกับคนที่อยากพบแล้ว เพราะช่างที่นัดไว้โทรศัพท์มาบอกอาจารย์ว่า ขอยกเลิกนัด เนื่องจากภรรยาของเขาเสียชีวิตเมื่อคืนนี้”

    ประโยคสุดท้ายของเธอทำให้ผมนิ่งอึ้ง... ไม่ว่าจะพยามปกปิดซ่อนเร้นอย่างไร ความจริงย่อมเป็นความจริงวันยังค่ำ สุดแท้แต่ว่าจะถูกเปิดเผยออกมาเมื่อใด แม้ผมไม่ได้บอกเล่าให้เธอรับทราบ แต่ในที่สุด เธอก็ได้รับรู้ในสิ่งที่ผมละเว้นที่จะไม่บอกกล่าวให้เธอรู้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมจนได้

    “เสียใจด้วยนะครับ” ผมพูดออกมาได้มากที่สุดเท่านี้เอง

    “ขอบคุณค่ะ” อาจารย์เสาวลักษณ์พยายามยิ้มให้ผม แต่ทำได้เพียงแวบเดียวเท่านั้น

    และในเวลาต่อมา เราสองคนต่างยืนมองหน้ากันเงียบ ๆ ...  เธอนิ่งเงียบด้วยความเสียใจ เพราะได้รับรู้ว่าเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นกับคนที่ตนอยากพบไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงในความฝัน ส่วนผมนิ่งเงียบด้วยความอัดอั้น  

    แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้ความอึดอัดใจของตัวเองดำเนินต่อไปนานนัก

    “อาจารย์ทราบไหมครับว่า ภรรยาของช่างไม้คนนั้นเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร” หากคนฟังไม่ทันคิด คำถามนี้ของผมจะเป็นเพียงคำถามธรรมดาคำถามหนึ่ง แต่คนที่อยู่ตรงหน้าผมทราบดีว่า นี่ไม่ใช่คำถามเช่นนั้น

    “อาจารย์ทราบหรือคะ” อาจารย์เสาวลักษณ์สบตาผม “หรือว่า ศพคดีเมื่อเช้า...”

    ผมพยักหน้ารับโดยไม่ปล่อยให้เธอถามคำถามสุดท้ายต่อจนจบประโยค... โล่งใจที่ไม่ต้องปิดบังเรื่องดังกล่าวกับเธออีกต่อไป แต่ก็หนักใจที่จะพูดความจริงที่คงจะทำให้เธอสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย

    “ขอโทษด้วยนะครับ ผมควรจะบอกอาจารย์เสียตั้งแต่แรก แต่...”

    “ไม่ใช่ความผิดของอาจารย์ธวัชชัยหรอกค่ะ...” อาจารย์เสาวลักษณ์ยิ้มเศร้า ๆ ให้ผม “ถ้าเป็นตัวดิฉันเอง ดิฉันก็คงลำบากใจเหมือนกันที่จะบอกกับญาติของผู้ตายว่า ญาติของเขาถูกฆ่าตาย”

    เธอหัวเราะเบา ๆ กับท่าทีฉงนใจของผมที่มีต่อคำพูดดังกล่าวของเธอ “ศพที่ถูกส่งมาให้ทางนิติเวชชันสูตรส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่อุบัติเหตุ ก็ถูกฆ่าตาย หรือฆ่าตัวตายไม่ใช่หรือคะ…”

    ใช่ เธอพูดไม่ผิด แต่เพราะเหตุใดกัน เธอถึงได้กล่าวอย่างมั่นใจถึงเพียงนั้นว่า ญาติของเธอเสียชีวิตเพราะผู้อื่นเป็นคนลงมือฆ่า ไม่ใช่เพราะการฆ่าตัวตาย หรือุบัติเหตุ...

    “คนอย่างน้อยไม่มีทางฆ่าตัวตายได้หรอกค่ะ ดิฉันรู้จักเขาดี” อาจารย์เสาวลักษณ์เอ่ยราวกับอ่านใจผมออก “และถ้าเป็นอุบัติเหตุ นายบุญทันก็ควรโทรศัพท์บอกให้ดิฉันทราบ ไม่ใช่ปกปิดความจริงกันแบบนี้”

    สายตาของเธอที่จับจ้องอยู่ที่ผม คือ สายตาของคนที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าพร้อมสำหรับการรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะร้ายหรือดีแล้ว

    “อาจารย์ช่วยเล่าผลการชันสูตรให้ดิฉันทราบได้ไหมคะ”

    ผมไม่ได้ตอบรับคำขอดังกล่าวในทันที แต่มองเธอเป็นเชิงถามว่า แน่ใจแล้วหรือ... เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนยันความปรารถนาดังกล่าว ผมจึงพยักหน้าแทนคำตอบตกลง และเชิญเธอเข้าไปในบ้านพักเพื่อพูดคุยเรื่องที่เธอต้องการทราบ

    วินาทีแรกที่ได้รับทราบรายละเอียดของเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอผู้นั้น อาจารย์เสาวลักษณ์นิ่งงันไปพักหนึ่ง แต่ก็สามารถคุมสติของตนเองเอาไว้ได้ และบังคับใจให้รับฟังสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสงบได้จนตลอดเรื่อง แม้ดวงตาทั้งคู่ของเธอจะเริ่มแดงก่ำ และมือทั้งคู่ที่วางอยู่บนตักจะกำแน่นด้วยพยายามที่จะสะกดกลั้นน้ำตาและความรู้สึกภายในเอาไว้ก็ตาม

    หากเธอจะร้องไห้ นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด และสมควรที่ผมจะให้ความความเห็นใจในการที่เธอสูญเสียญาติของตนไปอย่างกะทันหัน แต่เธอกลับเลือกที่จะไม่แสดงความอ่อนไหวออกมาให้ผมเห็น

    “แล้วอาจารย์จะทำอย่างไรต่อไปครับ” ผมถาม

    อาจารย์เสาวลักษณ์ช้อนสายตาที่ทอดนิ่งอยู่ที่มือทั้งสองของตนขึ้นมองผม “ดิฉันอยากไปพบนายบุญทันที่บ้าน... ถึงจะทำอะไรไม่ได้และอาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ในเมื่อทางตำรวจเองก็บอกว่าค้นแล้วไม่พบร่องรอยอะไร แต่ดิฉันก็ยังอยากไปที่นั่น ไปให้เห็นกับตาว่า ไม่มีอะไรจริง ๆ อย่างที่เขาว่า”

    “อาจดูเหมือนว่าดิฉันจริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้อยเขามากเกินไป แต่ถ้าไม่อย่างทำอย่างนี้ ดิฉันคงไม่สบายใจไปตลอดวัน และคงไม่ทราบว่าจะกลับไปบอกข่าวกับคุณป้า แม่บุญธรรมของเขาอย่างไร” เธอหัวเราะเสียงขม “ดิฉันคงต้องขอตัวสักที วันนี้ รบกวนอาจารย์มากเหลือเกิน ขอบคุณมากนะคะที่กรุณาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบ และต้องขอโทษด้วยที่ชวนอาจารย์ออกไปเที่ยวเสียดิบดี แต่กลับเป็นฝ่ายยกเลิกนัดเสียเอง”

    เธอกล่าวลา แล้วหยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตรงไปยังหน้าประตูบ้านพักโดยมีผมเดินตามไปด้วย

    “ถ้าผมขอไปเป็นเพื่อนอาจารย์ด้วย อาจารย์จะรังเกียจไหมครับ...”



    (มีต่อนะคะ)

    จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ 7 ม.ค. 51 23:48:26 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom