Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    [เรื่องแปล] ราชาแห่งราชัน เล่ม 3 สงครามอัศวิน ตอนที่ 3 แน่วแน่ในสิ่งควร

    เล่ม 1 - เล่ม 3 ตอนที่ 2

    http://my.dek-d.com/linmou/story/view.php?id=279158




    ตอนที่ ๓

    แน่วแน่ในสิ่งควร




    ค่าระดับทักษะจะสูงหรือต่ำนั้น ไม่สามารถใช้วิชาตรวจสอบสืบทราบได้ หากตัวผู้เล่นคนนั้นไม่บอกออกมาเอง ก็จะไม่มีใครทราบได้ ดังนั้นทุกคนจึงมักใช้ทักษะพิเศษย่อยหรือผลการโจมตีของผู้เล่นคนนั้นมาคาดคะเนระดับของทักษะกันเป็นหลัก

    แส้เทพสีหราชเป็นเทพศาสตราโดยแท้ เพราะสามารถเปล่งอานุภาพทักษะพิเศษย่อยของทักษะแส้ระดับสูงถึง ๒๐ - ๓๐ ออกมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เฉินเฟิงคาดไม่ถึงเอาเลย คิดถึงตอนแรกที่เขานึกรังเกียจพลังโจมตีต่ำต้อยติดดินของมัน มาตอนนี้ถึงเพิ่งจะรู้ว่าตัวเขามันกบในกะลาแท้ๆ

    หลังจากต่างอิ่มหมีพีมันกันแล้ว เฉินเฟิงค่อยทราบคำตอบของเรื่องหนึ่งที่เขาเคยนึกกังขามาโดยตลอด

    นอกจากตอนที่อยู่ในวิหารมังกรเงิน ทุกครั้งที่เขาส่งเสบียงกรังให้เพื่อนร่วมทางรับประทาน มักจะได้รับการอ้อมแอ้มปฏิเสธเสมอ ทำให้เขาสงสัยมานานว่าทำไมทุกคนถึงยอมทนหิวจนกลับมาถึงเมืองโดยไม่ยอมรับน้ำใจจากเขากันทั้งนั้น ? ตอนแรกเขาหลงคิดว่าพวกเธอเกรงใจเขาเสียอีก มาตอนนี้เขาค่อยเข้าใจว่า เสบียงกรังที่เขารับประทานอยู่เป็นประจำรสชาติมันอุบาทว์ขนาดไหนเมื่อเทียบกับอาหารมื้อนี้ ถึงราคาอาหารมื้อนี้จะตั้ง ๕๐๐ เหรียญเงินก็เถอะ รสชาติก็ห่างกันไกลสุดกู่เกินไปจริงๆ คนที่สติปกติดีทุกคนคงเลือกที่จะยอมจ่ายเหมือนกันทั้งนั้นใช่ไหมล่ะ !

    ทุกครั้งที่เข้าไปในเมืองแล้วพวกเพื่อนร่วมทางเชิญไปรับประทานอาหารด้วยกัน เขามักจะปฏิเสธ เพราะตัวเองทานเสบียงจนอิ่มแล้ว ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสมานั่งรับประทานอาหารในภัตตาคาร

    เฉินเฟิงที่เข้ามาในเกมราชาแห่งราชันเพราะหวังหาเงินมาเลี้ยงปากท้องอดนึกนับถือบริษัทเกมเลจจ์ไม่ได้ที่ไม่ยอมปล่อยกระทั่งหนทางฟันกำไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ แม้ทุกคนจะทราบดีว่าของพวกนี้เป็นสิ่งสมมติที่ถูกสร้างขึ้นมาลวงความรู้สึกทั้งนั้น แต่รสชาติที่สัมผัสได้อย่างเป็นจริงเป็นจังก็ยังเอาชนะสติปัญญาในการไตร่ตรองเหตุผลอยู่นั่นเอง ด้วยเหตุนี้เหล่าผู้เล่นจึงได้แต่ยอมควักเงินในเกมมาเข้าร้านอาหารแต่โดยดี

    เฉินเฟิงเพิ่งจะเติมพลังใส่ท้องจนอิ่มตื้อ อเล็กซ์ก็ส่งข้อความมาบอกว่ามันหิวแล้ว ทำเอาเขาชักจะกลุ้มใจ เพราะเรียกมันออกมาไม่ได้แบบนี้ แล้วจะให้อาหารมันได้ยังไงกันเล่า ?

    ถ้าสัตว์เลี้ยงต้องทนหิวนานเกินไป มันจะตายหรือย้อนเล่นงานเจ้าของได้ ถึงแม้ตอนนี้อเล็กซ์จะย้อนเล่นงานเจ้าของไม่ได้ แต่เกิดมันตายขึ้นมา เฉินเฟิงมีหวังขาดทุนย่อยยับแน่

    ทุกคนต่างตกตะลึงที่สัตว์เลี้ยงส่งข้อความได้ด้วย แต่พอเฉินเฟิงเอาข้อความที่อล็กซ์ส่งมาให้ดู ทุกคนจะไม่เชื่อก็ไม่ได้แล้ว ถึงแม้นานๆ ทีทุกคนก็พอจะเคยได้รับอาการร้องขออะไรบางอย่างของสัตว์เลี้ยงมาบ้าง แต่เทียบกับการส่งข้อความมาบอกเจ้าของได้เองแล้ว การส่งข้อความได้ออกจะน่าตกใจมากอยู่ เพราะความคิดต้องการอะไรบางอย่างของสัตว์เลี้ยงมักจะเลือนรางมาก

    เฉินเฟิงอธิบายเทคนิคในการได้ทักษะสื่อสารพลางมือก็หยิบแส้เทพสีหราชออกมาศึกษาดู เดิมทีพวกขบวนนักเวทและสัตว์ก็เป็นยอดฝีมือด้านการฝึกสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว เมื่อได้ทราบข่าวสารนี้ ก็พากันดีใจแทบคลั่ง

    ยังดีที่ถึงจะเรียกอเล็กซ์ออกมาจากแส้เทพสีหราชไม่ได้ แต่สามารถจะใส่ไอเท็มเข้าไปได้ง่ายมาก ช่องเรียกสัตว์เลี้ยงเข้ามาเก็บแต่ละช่องสามารถใส่ไอเท็มได้ไม่ใช่น้อย แต่ต้องเป็นช่องที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่จึงจะสามารถใส่ไอเท็มได้

    เพื่อป้องกันตัวเองเผลอลืมว่ามีอเล็กซ์อยู่ด้วย เฉินเฟิงจึงใส่อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงเข้าไปรวดเดียว ๑๐๐ ห่อ เมื่ออยู่ในช่องเรียกสัตว์เลี้ยงเข้ามาเก็บ อเล็กซ์จะต้องการอาหารแค่วันละ ๑ ห่อ แบบนี้ก็อยู่ไปได้อีกนานล่ะนะ

    ครั้นจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ ทักษะสื่อสารของนักฝึกสัตว์ก็เลื่อนขึ้นรวดเดียว ๒ ระดับ กลายเป็นทักษะที่ ๒ ที่บรรลุถึงระดับ ๑๐ และได้ “ทักษะพหุสื่อสาร” ทักษะพิเศษย่อยอย่างแรกมา

    บรรดาสมาชิกของขบวนนักเวทและสัตว์ที่ตอนแรกกะจะออฟไลน์ไปพักผ่อนพากันเอาสัตว์เลี้ยงของตัวเองออกมาศึกษากันใหญ่ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้สัตว์เลี้ยงและตัวเองบรรลุถึงความเข้าใจร่วมกัน ส่วนครุโฬเองเคยทดลองมาแล้วหนหนึ่งก่อนหน้านี้ มาครั้งนี้ได้ฟังเฉินเฟิงบอกเทคนิคในการได้ทักษะสื่อสารอีกครั้ง จึงลองทดสอบดูอีกหน ปรากฏว่าผลลัพธ์ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม จึงได้แต่บอกลาขอตัวออฟไลน์ไปพักผ่อนก่อน

    ก่อนจะไป ครุโฬกำชับเฉินเฟิงชนิดย้ำแล้วย้ำอีกว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ห้ามรับปากเข้าร่วมเป็นสมาชิกในขบวนทหารรับจ้างนักเวทและสัตว์เด็ดขาด แม้เฉินเฟิงจะนึกประหลาดใจ แต่ก็รับปากไป เพราะตอนนี้เขาเองก็ยังไม่คิดจะเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มหรือสมาคมไหนอยู่แล้ว

    ผ่านการเดินทางและทำนู่นทำนี่มาสองวันเต็ม เฉินเฟิงเองก็ชักจะเพลียเหมือนกัน แต่เนื่องจากในโลกความจริงเขาได้ตั้งเอาไว้แล้วว่าให้สามารถอยู่ในเกมได้ ๗ วัน บวกกับอยู่ในเกมก็สามารถพักผ่อนได้เหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงไปรับสัตว์เลี้ยงทั้ง ๓ ตัวกลับมา แล้วเช่าห้องเล็กๆ ในโรงแรมพักผ่อน


    <>::<>::<>


    หลังจากได้นอนพักตลอดคืน สมองเฉินเฟิงก็ปลอดโปร่งขึ้นมาก ครั้นหันไปเห็นราชาสุนัขป่าน้อย ก็คิดจะติดต่อเซียวหยาว แต่ปรากฏว่าเธอไม่ได้ออนไลน์ เดิมทีเขาคิดจะมอบราชาสุนัขป่าน้อยให้เธอ จะได้ปลดหนี้ปลดสินกันไป เมื่อเป็นแบบนี้ก็ได้แต่รอให้เธอออนไลน์ล่ะนะ

    เฉินเฟิงเปิดแผนที่โลก แล้วศึกษาเส้นทางต่อไปของตัวเอง

    ครุโฬเคยบอกไว้ว่า น้ำพุเศียรมังกรต้องเอาไปขายที่เมืองชิงจ้างถึงจะมีโอกาสได้ราคาสูงหน่อย ส่วนเซียวหยาวก็น่าจะยังอยู่ที่ฟากตะวันออกของทวีปเหมือนกัน...

    นอกจากนี้เขาเองยังไม่ได้เรียนเวทมนตร์เลย ถึงผู้บวงสรวงจะบอกไว้ว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ใช้แหวนวงนี้ไปถึงได้ทั้งนั้น แต่หลังจากผ่านประสบการณ์เคี่ยวกรำในหลายวันมานี้ บวกกับสีหน้ามีเลศนัยของผู้บวงสรวง ทำให้เฉินเฟิงตัดสินใจว่าขอฝึกพื้นฐานให้แน่นกว่านี้แล้วค่อยไปแท่นบวงสรวงแห่งเวทท่าจะดีกว่า แล้วเฉินเฟิงก็ตัดสินใจมุ่งหน้าไปทางตะวันออก

    หลังจากเติมไอเท็มและอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงจนเต็มอัตรา เป้าหมายแรกของเฉินเฟิงคือเตรียมจะไปฝึกวิชาที่สนามรบโบราณซึ่งเดินทางผ่านมาเมื่อวานซืนนี้ เพราะครุโฬแนะนำไว้ว่าที่นั่นเป็นสวรรค์สำหรับฝึกวิชาของพวกผู้เล่นที่เพิ่งจะได้อาชีพโดยเฉพาะ ตำแหน่งของมันอยู่ตรงกลางระหว่างเมืองเขี้ยวมังกรกับเมืองชิงจ้าง เป็นบึงซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๑๐ ตารางกิโลเมตร สัตว์อสูรส่วนใหญ่จะมีระดับอยู่ที่ ๒๕ - ๓๐

    นานมากแล้วที่ไม่เคยต้องเหนื่อยขนาดนี้ การฝึกวิชาพื้นฐานนี่มันหนักหนาสาหัสจริงๆ เฉินเฟิงอยู่ที่สนามรบโบราณมาแล้ว ๑๐ วัน แต่ละวันต้องสู้กับสัตว์อสูรอย่างน้อย ๑๒ ชั่วโมง พอเหนื่อยก็ไปพักที่ใจกลางบึงซึ่งเป็นเขตปลอดภัยเพียงแห่งเดียว มีลักษณะเป็นป้อมหน้าตาแปลกๆ ที่เกิดจากการประกอบกันของซากกระดูกสัตว์อสูรขนาดยักษ์ พื้นที่วัดโดยรอบกว้างแค่ประมาณเส้นผ่านศูนย์กลาง ๒๐ กว่าเมตร แต่เนื่องจากบรรยากาศมันเย็นยะเยือก ผู้เล่นที่มาพักผ่อนที่นี่จึงมีไม่มากนัก

    ระหว่างต่อสู้ เฉินเฟิงสั่งให้หลายฝูไปล่อสัตว์อสูรมา ส่วนซวงเว่ยกับอู้คงจะลงมือได้ก็ต่อเมื่อสัตว์อสูรมีมากกว่า ๓ ตัว และรับหน้าที่ป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรหนีไปได้เป็นหลัก ส่วนเฉินเฟิงก็พยายามใช้แส้เทพสีหราชอย่างเอาเป็นเอาตาย

    เขาคิดจะเร่งฝึกให้ทักษะแส้เลื่อนถึงระดับ ๒๐ โดยเร็วที่สุด เพื่อจะลองดูว่าทักษะร้องเรียกจะสามารถเรียกอเล็กซ์ออกมาได้จริงๆ หรือเปล่า เรียกได้ว่าเขาเค้นสมองคิดเพื่อหาทางเพิ่มโอกาสในการใช้แส้ให้ได้มากที่สุดอย่างสุดกำลังจริงๆ  สัตว์อสูรแต่ละตัวถูกเขาโบยตัวละไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ทีจนตายคาแส้ ก็อบลินเองก็โดนไปตัวละไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ แส้

    ใน ๑๐ วันนี้พวกผู้เล่นที่มาฝึกวิชาบริเวณนี้ต่างก็เห็นเขากันทั้งนั้น ตอนแรกที่ได้เห็นผู้เล่นคนหนึ่งนำสัตว์เลี้ยงมาด้วย ๓ ตัว ก็พากันนึกว่าเป็นผู้ฝึกสัตว์มาฝึกสัตว์เลี้ยง แถมอาวุธที่เฉินเฟิงใช้ดันเป็นแส้เสียด้วย ความเร็วในการโจมตีก็ไม่ได้เร็วอะไรมากมาย เหมือนจะเปิดโอกาสให้สัตว์เลี้ยงได้โจมตีด้วย จะได้เพิ่มค่าประสบการณ์ขึ้นอีกหน่อย อันเป็นรูปแบบมาตรฐานในการฝึกวิชาของพวกผู้ฝึกสัตว์

    แต่ต่อมาพวกผู้เล่นที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับเกมราชาฯก็พบว่า ระดับของสัตว์เลี้ยง ๓ ตัวนั้นไม่ต่ำเลย พลังโจมตีของแส้ของคนเป็นเจ้าของนี่สิที่ต่ำมากเสียจนน่าอนาถ กระทั่งก็อบลินระดับแค่ ๒๕ ยังต้องหวดตั้งเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะฆ่ามันสำเร็จ จึงอดรู้สึกทะ:-)ๆ ไม่ได้

    ผู้เล่นใจดีบางคนอดรนทนไม่ได้ ต้องเข้าไปช่วยเตือนด้วยความหวังดีให้เขาเปลี่ยนไปใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพกว่านี้หน่อย เฉินเฟิงจะหันมายิ้มพลางพูดขอบคุณ แล้วฝึกแบบเดิมๆ ของเขาต่อไป

    วิธีการฝึกอันแสนพิลึกนี้ทำให้เฉินเฟิงถูกพวกผู้เล่นตั้งฉายาให้ว่า “นักฝึกสัตว์จอมทารุณกรรมสัตว์อสูร” ในเวลาไม่นาน ฉายานี้บ่งบอกว่าเขาเป็นพวกชอบทารุณกรรมสัตว์ชัดๆ เพราะเห็นๆ อยู่ว่าสัตว์อสูรทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เขาก็ดันไม่ยอมปล่อยให้มันได้ตายแบบสบายๆ  กลายเป็นว่าคนที่รู้จักชื่อของเขามีอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น

    แต่ในภายหลัง เมื่อทุกคนต่างทราบว่าเขาก็คือเฉินเฟิงนั่นเองแล้ว ก็พากันกระจายข่าวลือไปว่าวิธีฝึกแบบนี้คือวิธีลับในการฝึกวิชาให้สำเร็จอย่างรวดเร็วนั่นเอง และแน่นอน เถ้าแก่ร้านขายอาวุธพากันประหลาดใจว่าทำไมอยู่ดีๆ อาวุธสำหรับมือใหม่ถึงได้ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าขึ้นมากะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ

    ไม่ทราบเป็นเพราะวิธีเคี่ยวกรำแบบนี้ได้ผล หรือเป็นเพราะก่อนหน้านี้เฉินเฟิงมีโอกาสลงมือน้อยเกินไปจริงๆ  ใน ๑๐ วันมานี้ทักษะแส้ของเฉินเฟิงได้เลื่อนขึ้นเป็นระดับ ๑๕ แล้ว

    นอกจากนี้ ทักษะสังหารด้วยโทสะของนักรบคลั่งได้เลื่อนขึ้น ๑ ระดับ ทักษะชื่อเสียงของนักผจญภัยเองก็เลื่อนขึ้น ๑ ระดับเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะฉายาใหม่ “นักฝึกสัตว์จอมทารุณกรรมสัตว์อสูร” นี่หรือเปล่า แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เฉินเฟิงไม่ทราบจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีอีกแล้ว

    ต่อมาความเปลี่ยนแปลงของแส้เทพสีหราชทำเอาเฉินเฟิงอดขนลุกไม่ได้ เพราะตอนที่ระดับของทักษะใช้แส้เลื่อนขึ้นถึงระดับ ๑๐ นอกจากจะได้ทักษะย่อยชนิดเป็นผู้ถูกกระทำแบบแปลกๆ ที่ชื่อว่า “แส้ยาวไม่ถึง” แล้ว ระดับของแส้เทพสีหราชก็เลื่อนขึ้นไปอีก ๑ ระดับ

    ตอนนี้แส้เทพสีหราชกลายเป็นอาวุธระดับที่ ๓ พลังโจมตี ๒๐ จุด ช่องเรียกสัตว์เลี้ยงเข้ามาเก็บเพิ่มขึ้นเป็น ๕ ช่อง คุณสมบัติเสริมสามารถใช้ความคิดบังคับให้ยืดหดได้ เพิ่มประสิทธิภาพของทักษะข่มขวัญและทักษะสื่อสารเป็นสองเท่า

    บวกกับผลของประสิทธิภาพในการข่มขู่ ทุกครั้งที่ฟาดใส่สัตว์อสูร จะส่งผลให้มันเคลื่อนไหวช้าลงหลายวินาทีต่างๆ กันไป ถึงแม้เปอร์เซ็นต์สำเร็จจะแปรผันตามระดับของสัตว์อสูร และพลังโจมตีในตอนนี้จะยังน้อยนิดอยู่มากก็ตาม แต่แค่นี้ก็ใช้รับมือสัตว์อสูรในเขตสนามรบโบราณได้เหลือเฟือแล้ว อันที่จริงพูดได้ว่าเป็นฝ่ายเฆี่ยนเอาๆ อยู่ข้างเดียวเสียด้วยซ้ำ สัตว์อสูรส่วนใหญ่จึงถูกทารุณกรรมจนถึงตายจริงอย่างที่ชาวบ้านชาวช่องเขานินทากันนั่นแหละ

    จะยังไงเฉินเฟิงก็ไม่ได้หลอมมาจากเหล็ก ถึงพลังใจจะยังเต็มร้อย แต่การต่อสู้อย่างหักโหมเป็นเวลา ๑๐ วันติดต่อกันก็ทำเอาเขาเหนื่อยแทบอ้วก แถม ๑๐ วันมานี้เขากินแต่เสบียงกรังยาไส้ ทำให้อดคิดถึงอาหารในภัตตาคารไม่ได้

    เฉินเฟิงดูเวลา วิหารจันทราเทพน่าจะเลิกงานได้แล้ว เขารับปากเธอไว้ว่าเธอออนไลน์เมื่อไหร่จะไปฝึกวิชาด้วยกัน ราชาสุนัขป่าน้อยเองก็น่าจะเปลี่ยนเจ้าของได้แล้ว เอาแต่ฝึกวิชาอย่างเดียวมันก็น่าเบื่อเกินไป หาเพื่อนมาไว้เถียงกันเล่นสิจะได้ไม่เหงาปาก

    พอคิดได้ดังนี้ เฉินเฟิงก็ตัดสินใจจะไปพักผ่อนที่เมืองชิงจ้างสักหน่อย นอกจากกะจะไปทานอาหารให้อร่อยสักมื้อแล้ว จะได้ฉวยโอกาสรอไปด้วยเลยว่าวิหารจันทราเทพจะออนไลน์หรือเปล่า

    จากคุณ : Linmou - [ 12 ม.ค. 51 07:12:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom