ผมบอกกับตัวเองว่าต้องอดทน
ผมไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น แม่จากพวกเราไปตั้งแต่ผมยังเด็ก แม่ไม่ได้เสียชีวิต เพียงแต่แม่คิดว่าการอยู่กับพวกเราทำให้ชีวิตของแม่ต้องเสียอะไรไป ผมไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ รายได้จากงานรับจ้างของพ่อแทบไม่พอส่งเสียให้ผมได้เรียนสูงนัก ปริญญาด้านจิตวิทยาที่ได้มาจากทุนการศึกษาและญาติๆเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผม มีค่าในสังคม ผมไม่มีบ้านหลังใหญ่โต บ้านเช่าหลังนี้มีที่เพียงพอให้พ่อได้มีความสุขกับต้นกล้วยไม้ในเวลาที่ผม ออกไปทำงาน
ทุกเช้าพ่อจะตื่นมาทำกับข้าวตอนที่ผมกำลังอาบน้ำ แต่งตัวเสื้อเชิตผูกไทค์ ผมได้แต่คิดกับตัวเองว่า ทำไมเราต้องแต่งตัวแบบนี้ เพราะเราอยู่ในสังคมงั้นหรอ เมืองไทยเมืองร้อนจะให้ผู้ไทค์ไปทำไม ไทค์นี้มีประโยชน์อะไรกันนะ มันทำให้เราแตกต่างจากคนขับมอไซค์รับจ้าง หรือแค่มีให้เราต้องระวังไม่ให้มันหล่นลงไปในชามเวลากินบะหมี่เกี๊ยว เลิกสงสัยได้แล้ว เดินไปที่โต๊ะนั่งกินข้าวเช้ากับพ่อ ผมไม่เคยรู้สึกเบื่ออาหารเดิมๆที่พ่อทำ ไม่ใช่สิ ผมเบื่อมันไม่ได้ต่างหาก เราไม่มีสิทธิ์เลือกมาก กินให้อิ่มซะแล้วขึ้นรถเมล์ไปทำงาน
"ตั้งใจทำงานนะลูก"
ประโยคเดิมๆแบบนี้ทุกวันตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้าทำงานในที่แรกจนที่นี่ ที่ๆ 5 แล้วมั้ง พ่อก็ยังพูดแบบเดิมๆ จริงๆแล้วสมัยเรียนพ่อก็จะพูดทำนองนี้แหละ แต่เปลี่ยนจาก 'ทำงาน' เป็น 'เรียน' แทน ผมไม่สนใจประโยคนี้อยู่แล้ว จะสนทำไมในเมื่อผมเป็นคนตั้งใจอยู่แล้ว บ้านเราไม่ได้มีอย่างใครๆ ผมจึงต้องอดทนและตั้งใจ เงิน เงินเท่านั้น เงินสำคัญสุด
ในมหานครตึกสูงตระหง่าน มองออกจากหน้าต่างชั้นห้าสิบที่รองเท้าหนังสีดำของผมเหยียบอยู่นี้ภาพเส้น ขอบฟ้าข้างหน้าไม่เคยเป็นเส้นตรงหากแต่เป็นเส้นหยัก หยักจากชั้นดาดฟ้าของตึกนับไม่ถ้วน ผมก็เป็นเพียงแค่จุดเล็กๆที่อยากเติบโตเป็นจุดที่ยิ่งใหญ่เพียงแค่ว่าจุดๆ นี้ทำได้แค่เจ็ดพันบาทต่อเดือน น้อยกว่าเงินค่าขนมนักศึกษาบางสถาบันได้จากพ่อแม่ไปเรียนเสียอีก งานเอกสารที่ผมเกลียด แต่ผมต้องก้าวขึ้นไป ไปเรื่อยๆ
บนเสื่อในบ้านเช่าหลังเล็กหน้าทีวี โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆถูกใช้เป็นโต๊ะอาหาร กับข้าวข้างหน้าพ่อทำบ้าง ข้างบ้านแบ่งมาให้บ้าง เริ่มบทสนทนาหลังจากลูกชายคนเดียวตักข้าวใส่จานแล้วยื่นให้พ่อ ช้อนของพ่อ ชิ้นเนื้อจากถ้วยแกงเขียวหวานถูกตักลงในจานเขี่ยข้าวด้วยส้อมแล้วยกเข้าปาก
"พ่อครับผมอยากเปลี่ยนงาน"
"เอาอีกแล้วหรอลูก ครั้งนี้ก็ครั้งที่ 5 แล้วนะ" พ่อตอบหลังเคี้ยว
"ก็ที่ๆทำอยู่นี่มันได้แค่เจ็ดพันเองพ่อ มันไม่พอค่าใช้จ่ายที่บ้านเราเลย"
"แต่ทุกวันนี้เราก็พออยู่ได้นะ"
"ผมคิดว่ามันไม่ตรงกับที่ผมเรียนมาด้วยแหละพ่อ"
"เอาหน่าลูกจะมีซักกี่คนที่ได้ทำงานตรงตามที่เรียนมา"
"นั่นก็จริงพ่อ แต่ผมอยากลองอีกที"
"เอาก็ได้ ตามใจลูก"
"ตามใจลูก" พ่อตอบแบบนี้เสมอ
งานที่ใหม่ ความหวังใหม่ ความฝันใหม่ แต่ผมยังเหมือนเดิม
ชั้นที่เจ็ดสิบสองใจกลางกรุง ที่นี่ทำให้ผมมองคนข้างล่างดูเป็นจุด จุดเล็กๆที่บางครั้งมันทำให้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองได้บินอยู่เหนือคนอื่น วันนี้ผมสนุกกับงานที่ผมทำ เงินเดือนมากขึ้นแลกกับเวลาที่ผมต้องบินนานขึ้น ยังไม่แค่นั้นงานพิเศษตอบปัญหาทางโทรศัพท์ที่ชั้นเจ็ดสิบสามตอนหกโมงเย็น เป็นทางเดียวที่ทำให้ผมจะได้ติดต่อกับคนอื่นบ้าง ช่วยคนที่เค้ามีปัญหา ผมมีความสุขกับมันผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพ่อเลย อีกสองวันผมจะย้ายบ้าน ผมดูคอนโดมิเนียมเอาไว้ที่หนึ่ง ชั้นสิบเก้าจากพื้นดิน ใกล้ที่ทำงาน การตกแต่งใช้ได้และราคาไม่สูงเกินไป ชีวิตของเราต้องดีขึ้น หวังว่าพ่อคงจะยิ้มเมื่อเห็นมัน
DAY#1 LINE#13 นานา, 27 ปี, หญิง
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"หวัดดีค่ะ หนูอายุ 27 ปีค่ะ กำลังจะแต่งงานเร็วๆนี้ค่ะ"
"ครับ"
"หนูมีปัญหาคือ หนูไม่มีอารมณ์อย่างว่าเลยค่ะ ทำไงดีคะ"
"อารมณ์แบบนั้น... อาจมาจากร่างกายหรือความเครียดก็ได้ครับ ยังไงลองปรึกษาแพทย์ดูดีกว่าครับ"
"แล้วคือหนูปฏิเสธเค้าบ่อยๆน่ะค่ะ แล้วบางทีหนูสังเกตเห็นเค้าแปลกๆไป"
"บางทีอาจต้องเปิดใจคุยกันกับเค้านะครับ จะได้เข้าใจกัน"
"ขอบคุณค่ะ ต้องวางแล้วนะ เค้ากลับมาแล้ว"
DAY#2 LINE#26 กฤษ, 17 ปี, ชาย
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"สวัสดีคับพี่ ผมมีปัญหาอ่ะคับ ตอนนี้อ่านหนังสือสอบไม่ทันแล้วคับ กลัว ent ไม่ติดทำไงดีครับ"
"ใจเย็นๆครับ น้องอยากเข้าคณะอะไรครับ เหลือเวลาอีกกี่เดือน"
"ไม่ถึงสองเดือนแล้วคับพี่ ทำไงดีคับ อยากเข้านิติศาสตร์มากๆ ตอนนี้เครียดมากๆเลย"
"เวลานี้ถ้าน้องอ่านไม่ทันก็น่าหาโจทย์มาลองทำได้แล้วนะครับ จะช่วยได้เยอะ"
"ทำโจทย์เลยหรอครับ แล้วถ้าทำไม่ได้ทำไงคับพี่ยากมากเลย"
"ไม่ต้องกลัวครับน้อง ลองทำไปก่อน ไม่ได้เนื้อหาส่วนไหนค่อยลองไปทบทวนดูจะเร็วกว่ามาอ่านทั้งหมดแล้วไม่ทำโจทย์นะ"
"ผมคงต้องไปลองดูซะแล้ว ของคุณมากคับพี่"
"ขอให้ติดคณะนิติศาสตร์นะครับน้อง"
วันนี้เราย้ายของมาที่คอนโดแล้วครับ พ่อเค้าดูจะมีความสุขกับที่นี่นะ เห็นยิ้มตลอดเลย คงชอบความสะดวกสบายของที่นี่เหมือนผม ที่ระเบียงผมทำที่แขวนกล้วยไม้ไว้ด้วยนะ มองออกไปจากห้องเห็นดอกกล้วยไม่สีชมพูตัดกับสีท้องฟ้าให้ความรู้สึกแตกต่าง จากไม้ฝาและหลังคาสังกะสีเมื่อสมัยอยู่บ้านเช่าอย่างชัดเจน พ่อยิ้มอีกทีแล้วบอกว่า 'ต่อจากนี้ฉันจะเป็นมนุษย์ตึกแล้วหรอเนี่ย' ผมคิดไม่ออกว่ามันแปลว่าอะไรแต่ช่างมันเหอะ ผมต้องไปทำงานแล้ว
DAY#5 LINE#42 มาลี, 54 ปี, หญิง
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีค่ะ ตอนนี้ดิฉันมีปัญหาค่ะ"
"เป็นอะไรครับ"
"ตอนนี้รู้สึกเวียนหัวค่ะ จะเดินเหินก็ต้องเกาะฝาบ้านไปลำบากมากเลย คนแก่ก็อย่างนี้แหละน้า"
"อืม แล้วตอนนี้คุณป้าอยู่กับใครครับ"
"ป้ามีลูกสาวกับลูกชาย ตอนนี้เขาไปเรียนกันน่ะ เสาร์อาทิตย์ถึงกลับมาเยี่ยม"
"อาการแบบนี้อาจจะเป็นเกี่ยวกับความดันนะครับ เสาร์นี้ลองให้ลูกๆพาไปหาหมอสิครับ"
"ป้าก็ว่าอย่างนั้นแหละ ขอบคุณมากๆนะหนุ่ม"
"ไม่เป็นไรครับ ขอให้หายไวๆนะครับ สวัสดีครับ"
DAY#8 LINE#74 ไอ, 26 ปี, หญิง
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"สวัสดีค่ะ อยากปรึกษาเรื่องความรักหน่อยน่ะค่ะ"
"ว่ามาเลยครับ"
"คือหนูเกิดไปชอบผู้ชายคนนึงที่ทำงานด้วยกันน่ะค่ะ เราไปไหนมาไหนด้วยกัน ดูหนัง เดินห้าง กินข้าว"
"แล้วเป็นไงต่อครับ"
"คือ ตอนนี้หนูชอบเค้าไปแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าเค้าไม่สนในเลย เค้าบอกว่าเค้าคิดกับเราแค่เพื่อนร่วมงาน แล้วเค้าก็ไม่คิดจะมีครอบครัว หนูควรจะทำไงดีคะ"
"เรื่องความรักมันเกี่ยวกับคนสองคนนะครับ อย่างที่เค้าบอก ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง คิดซะว่าคุณโชคร้ายแล้วกันครับ"
"หนูร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้"
"ร้องไห้ออกมาเลยครับ ไม่ต้องยื้อไว้หรอกถ้าเค้าไม่ได้รักเรา"
"ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ ขอบคุณนะคะ"
DAY#12 LINE#134 ป๊อด, 23 ปี, ชาย
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"หวาดด ดี ด"
"สวัสดีครับ"
"อารายของเมิงวะ"
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"สัด กุม่ายได้กินเหล้า เหล้า"
"ขอโทษนะครับ ต้องวางสายแล้วครับ"
"คู วายย"
DAY#14 LINE#141 นิด, 62 ปี, หญิง
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"สวัสดีค่ะ อยากปรึกษาอะไรหน่อยครับ"
"มีอะไรครับคุณป้า เล่ามาเลย"
"ลูกดิฉันน่ะค่ะ"
"เป็นอะไรครับ"
"วันๆเค้าเอาแต่ทำงาน กลับมาบ้านก็ดึกๆดื่นๆ พักหลังๆมานี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย"
"อืม เค้าขยันทำงานหาเงินไม่ดีหรอครับ"
"อันนั้นมันก็ดี เพียงแต่ดิฉันคิดว่ามันมากเกินไปเท่านั้นเอง ตอนนี้ที่บ้านเราก็มีทุกอย่างแล้ว บ้าน รถ ผ่อนครบหมดแล้ว"
"ครับ เคยลองคุยเรื่องนี้กับเค้ารึยังครับ"
"ป้าไม่กล้าหรอก ป้าไม่กล้าขัดเค้าน่ะ ยิ่งตอนนี้เค้าไม่รู้เลยว่าพ่อเค้ากำลังป่วย"
"อืมครับ ผมว่าอันนี้ยิ่งต้องคุยแล้วล่ะครับ"
"ป้าจะทำไงดี ตอนนี้ปวดหัวไปหมดแล้ว ป้าอยากให้เค้ารู้ว่าเราไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากครอบครัว"
"เอาเป็นว่าลองหาโอกาสหยุดพักร้อนนี้ไปเที่ยวกันสิครับ บรรยากาศอาจจะช่วยทำให้อะไรดีขึ้นนะครับ"
"นั่นสินะ ป้าลืมไปสนิทเลย ขอบคุณมากๆนะ ตอนนี้ป้าคิดออกแล้ว"
"ขอให้โชคดีนะครับ สวัสดีครับ"
"สวัสดีค่ะ"
DAY#15 LINE#149 เล่ย, 18 ปี ชาย
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"หวัดดีคับพี่ ผมมีเรื่องอยากระบายหน่อย"
"เอาเลยน้อง มีไร"
"วันนี้ผมทะเลาะกับครูมาคับ"
"ทะเลาะ ? เรื่องอะไรครับ"
"อาจารย์:-) ไม่เข้าใจผมเลย"
"ใจเย็นๆน้องชาย ค่อยๆเล่า"
"แบบว่าผมอ่ะ อยากเรียนหมออ่ะพี่ แล้วอาจารย์แนะแนวเสือกบอกว่า หน้าอย่างเธอเรียนไม่ได้หรอก ตอนนั้นผมโคตรจี๊ด เกือบเหนี่ยวไปแล้ว"
"ใจเย็นน่าน้อง พี่ว่าอาจารย์เค้าหวังดีนะ"
"หวังดีหรอพี่ จารย์มันดูถูกผมอย่างเนี้ยอ่ะ"
"น้องเคยไปทำไรอาจารย์ไว้ปะ แล้วที่สำคัญน้องคิดว่าจะสอบได้ ?"
"ก่อนหน้านี้ผมเพิ่งสละสิทธิ์โควตาทันตะไปไง ผมมั่นใจว่าจะได้แพทย์รอบใหม่นี้"
"น้องอยากเป็นจริงๆรึเปล่าล่ะ พี่เดาว่าน้องน่าจะแบบ พฤติกรรมไม่เหมาะสมกับจะเรียนแพทย์ประมาณนี้"
"ไม่เหมาะไงอ่ะพี่ ถ้าผมสอบติดเค้าก็รับจริงมั๊ย"
"ก็จริงครับ แล้วน้องอ่านหนังสือถึงไหนแล้ว"
"ก็เรื่อยๆแหละพี่ อ่านสือ:-)น่าเบื่อ เดี๋ยววันหน้าโทรมาอีกนะพี่"
"โชคดีนะครับน้อง"
DAY#15 LINE#151 อาจารย์ดาว, 48 ปี หญิง
"สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
"สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นอาจารย์ค่ะ โรมาปรึกษาหน่อยค่ะ"
"สวัสดีครับอาจารย์ มีเรื่องอะไรครับ"
"วันนี้ดิฉันมีเรื่องกับลูกศิษย์น่ะค่ะ"
"อื้ม"
"ลูกศิษย์คนนี้เค้าสอบติดโควตาน่ะค่ะ ดิฉันแนะนำว่าให้ตัดสินใจเอาซะ เพราะว่าถ้าจะไปรอสอบรอบใหญ่นั้นมันเสี่ยงเกินไป"
"อ้อ เค้าสอบติดอะไรครับ"
"เค้าสอบติดทันตะค่ะ แต่เค้าบอกว่าอยากสอบแพทย์ ดิฉันดูแล้วไม่คิดว่าเค้าจะติดทันตะด้วยซ้ำ วันๆเห็นเอาแต่เล่นบอล ในห้องก็ไม่ค่อยเข้าเรียนด้วย ดิฉันรักลูกศิษย์เลยไม่อยากให้เคาไปเสี่ยง"
"อาจารย์ครับ ต้องเข้าใจนะครับว่าเด็กเค้ามีความฝัน มีไม่กี่ครั้งหรอครับที่เด็กจะมีโอกาสเลือกทางเดินของตัวเอง"
"แล้วถ้าเค้าพลาดล่ะคะ ทะเยอทะยานมันไม่ได้ดีเสมอไปใช่ไหมคะ"
"อันนี้ผมเข้าใจครับ ยังไงลองคุยกับเค้าดีๆโดยไม่ใช้อารมณ์ดีมั๊ยครับ ให้เค้าเข้าใจว่าเราหวังดีจริงๆ"
"สำหรับเด็กคนนี้คงจะยากล่ะค่ะ "
"ลองอีกทีนะครับ ให้เค้าได้หยุดคิดอีกซักนิด แต่ไม่ต้องบอกว่าเค้าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้"
"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฟัง"
"สวัสดีครับ"
สายสุดท้ายของวันที่สิบห้าในการทำงานพิเศษบนชั้นเจ็ดสิบสามจบลง เก็บของใส่กระเป๋า เดินตรงไปที่ลิฟต์คนเดียว ผมรู้สึกถึงทุกย่างก้าวที่รองเท้าหนังสัมผัสกับพื้นเนื่องจากทั้งชั้นเหลือ ผมทำงานอยู่คนเดียว นั่นสินะใครจะอยู่จนดึกแบบผม
เดินผ่านตลาดโต้รุ่งแวะซื้อกับข้าวซักสามถุง ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสิบเก้าของคอนโดมิเนี่ยม คลายไทค์ที่คอออกเล็กน้อย เปิดประตูเข้าไป อ้าว พ่อดูทีวี ไม่ใช่สิ ทีวีดูพ่ออีกแล้ว จัดแจงใส่อาหารลงในถ้วยแล้วปลุกพ่อมากินกันสองคนเหมือนเคย
ช้อนของพ่อตักชิ้นหมูกรอบจากจานผัดคะน้าใส่ปากเคี้ยว ผมวางแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะแล้วเริ่มการสนทนา
"พ่อครับ ผมลาออกจากงานพิเศษแล้วนะ"
ชายวัยเกือบเจ็ดสิบที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมค่อยๆยิ้ม
จากคุณ :
ไม่มีสมาชิกชื่อนี้
- [
13 ม.ค. 51 00:56:19
]