 |
...แคบ!!!...
แม้กระทั่งจนถึงเวลานี้ มัน ก็ยังตามมารบกวนจิตใจผม อย่างไม่หยุดหย่อนเอาเสียจริง ๆ เสียงนั้นยังแว่วดังอยู่ในรูหู ก้องกังวานอยู่ในรูหู แต่กลับจับสำเนียงความหมายไม่ได้ชัดเจน ภาพนั้น ยังประทับอยู่ในสองตา กับอากัปกริยาความเคลื่อนไหวทั้งหลายทั้งปวง ทั้งภาพและเสียง มัน ยังเคลื่อนไหววนเวียนอยู่กับประสาทการรับรู้ของผม คล้ายกับว่า มัน แทรกซึมเข้ามายึดครองพื้นที่ความทรงจำ ในทุกอณูที่สัมผัสได้ นับตั้งแต่เวลานั้น จนถึงเวลานี้ มัน ยังตามมารบกวนจิตใจของผม อย่างไม่รู้หยุดหย่อนเอาเสียจริง ๆ
แกรก..... ยังไม่ทันสิ้นเสียงของวัตถุสองสิ่ง ที่กระทบถูกกันเบา ๆ กระจกหน้าต่างข้างคนขับ ของรถยนต์สีบรอนซ์เงิน ก็เลื่อนลงโดยกลไกอัตโนมัติ หลังจากที่ถูกกดปุ่มซ้ำ ๆ ให้เลื่อนลงอย่างรวดเร็ว ทำไมไม่หลบวะ มันหลบไม่ได้ จะให้หลบไปไหน ก็แล้วทำไมไม่ขี่ไปก่อน ผมก็หยุดให้ไปก่อนแล้วไง กลัว กลัวอะไรวะ แมร่ง.... เฮ้ย... ผมนะแก่จะเป็นพ่อคุณได้แล้วนะ จะเอายังไงวะ คุณอยู่ที่ไหนวะ ไปเลยไป ๆๆๆๆๆ แมร่งเอ๊ย กล้วย...เอ๊ย... แมร่งเอ๊ย.... กล้วย...พ่อมรึงสิ..อ้ายห่า...
ผมนึกทบทวนเหตุการณ์ และนึกทบทวนถึงบทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างผมกับชายแก่ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสาย ๆ ของวันนี้ หลังจากที่กดปุ่มเพื่อเลื่อนกระจกรถยนต์ข้างคนขับขึ้นมาจนปิดสนิท และขับรถยนต์สีบรอนซ์เงินคันนั้น เลี้ยวออกจากซอยมาอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับเสียงของชายแก่ ที่ไล่หลังโหวกเหวก จับใจความไม่ได้ เล็ดลอดผ่านกระจกรถยนต์ข้างคนขับ ที่กำลังเลื่อนตัวขึ้นมาช้า ๆ จนปิดสนิท ระหว่างทาง ผมกับหญิงสาวข้าง ๆ ต่างนั่งเงียบ ๆ อยู่กับภวังค์ของตัวเอง ผมครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นึกทบทวนอย่างช้า ๆ ผมจำได้ว่า หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ผม แทรกเสียงขึ้นมาเป็นระยะ พร้อมกับมือไม้ที่ยกขึ้นพนมไว้กับอก เพื่อสื่อสารไปถึงชายแก่ ที่อยู่ระหว่างการปะทะคารมกับผม เสียงที่หลุดออกจากปากของเธอ คือเสียงขอโทษ และมือที่พนมอยู่ ก็เพื่อแสดงอาการขอโทษ ดูเหมือนในห้วงเวลานั้น ทั้งผมและชายแก่ จะไม่ได้ยิน และไม่ได้เห็นสิ่งที่เธอทำอยู่
ผมนึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนึกเลยไปถึงเหตุการณ์ ก่อนหน้าเหตุการณ์จะเกิดขึ้น ผมและเธอเดินลงมาจากห้องพักแคบ ๆ เพื่อเข้ามาอยู่ในรถยนต์สีบรอนซ์เงินแคบ ๆ ที่จอดอยู่ในช่องจอดรถแคบ ๆ มีรถยนต์จอดอยู่เรียงกันเป็นแถว เว้นช่องแคบ ๆ ไว้ให้เปิดประตูรถแคบ ๆ เพื่อเบียดแทรกตัวเข้ามาอยู่ในตัวรถ ผมนั่งอยู่ฝั่งคนขับ และเธอนั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับ เราอยู่ในรถยนต์สีบรอนซ์เงินแคบ ๆ เพื่อเดินทางไปสู่ห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ ที่ถูกจัดเป็นสถานที่ทำงาน ณ มุมหนึ่งของเมืองหลวงอันกว้างใหญ่
เดี๋ยวนะ ลืมโทรศัพท์ หญิงสาวพูดเบา ๆ ขณะมือง่วนอยู่กับการค้นหาในกระเป๋าผ้าใบเขื่อง แล้วพูดต่อ หลังจากค้นหาไม่พบ รอแป๊บนะ ขอขึ้นไปดูบนห้องก่อน สงสัยลืมหยิบลงมา
ระหว่างนั้น ผมขยับรถ เดินหน้าถอยหลังสองสามครั้ง หลังจากเปลี่ยนใจ ไม่ขับออกไปทางซอยซ้ายมือ เพื่อจะกลับรถ และขับออกไปทางซอยขวามือ เหมือนอย่างที่ทำเป็นประจำ แล้วผมก็จอดรถ รอให้เธอลงมา พร้อมกับเหลือบดูเวลา จากนาฬิกาตัวเลข ที่อยู่ในช่องแคบ ๆ บริเวณคอนโซลรถ ช้าจริง จะเที่ยงแล้วนะเนี่ย เฮ้อ เข้างานสายอีกแล้ว ผมคิดในใจ แต่ปล่อยให้ความรู้สึก แสดงออกบนใบหน้า อย่างที่ผมก็รู้สึกได้ ไม่นานนัก หญิงสาวก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่รถ เปิดประตูแล้วเริ่มลงมือทำการค้าหาอีกครั้ง อยู่นี่เอง โทษที ลืมเปิดเสียง หญิงสาวบอกเบา ๆ แล้วรีบเข้ามาอยู่ในรถ และผมก็ใส่เกียร์เหยียบคันเร่งกระชากรถ เคลื่อนตัวออกจากตรงนั้นในทันที
เอี๊ยด..... ผมแตะเบรคอย่างรวดเร็ว และรถก็หยุดอยู่กับที่อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มองเห็นชายแก่กำลังขี่จักรยานสวนทางอยู่กลางถนน มุ่งมาข้างหน้าช้า ๆ โดยไม่มีทีท่าจะหยุดหรือหลบให้ ขณะที่รถยนต์สีบรอนซ์เงินจอดนิ่งอยู่กลางถนน จักรยานที่มีชายแก่ปั่นมา ยังคงมุ่งตรงมา กระทั่งเกือบถึงบริเวณหน้ารถยนต์สีบรอนซ์เงิน ห่างกันประมาณไม่ถึงหนึ่งเมตร ชายแก่หยุดรถ แล้วลงมาจากอานจักรยาน จูงช้า ๆ เข้าข้างทางด้านขวา ด้านซ้ายมีรถยนต์จอดอยู่อีกหนึ่งคัน ผมตัดสินใจใส่เกียร์ เหยียบคันเร่ง เพื่อเคลื่อนรถไปข้างหน้า ตรงช่องว่างแคบ ๆ ระหว่างชายแก่ที่จูงจักรยานด้านขวา กับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านซ้าย
(ยังมีต่อ...) หมายเหตุ : ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
จากคุณ :
นายทิวา
- [
17 ม.ค. 51 15:35:39
]
|
|
|
|
|