เรื่องของการไปที่ไหนก็ต้องเข้า 'ถึง' สถานที่นั้นๆ ของชายชาติอาชานัยไทยเรา
ดูเหมือนจะทำกันจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่รุ่นคุณปู่
ไม่ว่าจะหนุ่มหรืองั่กแต่ตราบใดที่ยังเป่าขี้เถ้าฟุ้ง หากมีโอกาสเปลี่ยนสถานที่
ไปต่างบ้านต่างเมืองลับหูลับตาคนรู้จัก ที่สำคัญที่สุดคือไกลตานางยักษ์ที่บ้าน(หากมี)
ดูจะสดชื่นระริกระรี้กระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษเหมือนดังนกน้อยที่ถูกขังกรงโดดเดี่ยว
กินแต่ข้าวเปลือกกับกล้วยน้ำว้ามานานพลันมีโอกาสหลุดกรงได้กินไข่แดงอีกครั้ง
กระนั้นเทียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนโสดไม่ว่าจะโสดเฉพาะกิจหรือโสดจริงๆ หากยังอยู่ใน
วัยฉกรรจ์เลือดลมพลุ่งพล่านพลังเปี่ยมล้น การได้เฮฮาปาร์ตี้และมีของมึนเมาเป็น
ตัวเร่ง ประเดี๋ยวเดียวแอลกอฮอร์ลง jeaw พากันไปเปรี้ยวตามสถานบริการต่างๆ
ซึ่งแทบทุกสถานที่ในโลกนี้ขอให้เป็นเมืองมีผู้คนก็ย่อมจะมีบ้านคุณป้า คุณน้า ที่มี
ลูกสาว(ในนาม)สวยๆ ไว้ให้บริการ อุปทานย่อมจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีอุปสงค์ โดย
เฉพาะไทยแลนด์แดนพุทธของเราดูเหมือนจะมีเยอะและโด่งดังกว่าประเทศใดในโลก
จนช่วงหนึ่งเคยได้รับสมญานามที่ไม่พึงปรารถนา ด้วยอภินันทนาการจากฝรั่งอั้งม้อ
เขามาแล้ว แต่ก็อย่างว่าละครับ บ้านเราจะทำอะไรก็เหมือนไฟไหม้ฟาง เป็นเรื่อง
อะไรขึ้นมาทีก็ออกมารณรงค์ป้องปรามตามปราบกันเสียพักหนึ่ง พออะไรๆ ซาลงไป
มีอะไรใหม่ๆ เข้ามาเป็นกระแสข่าวคนก็เลิกติดตามหันไปใส่ใจเรื่องใหม่แทนแบบว่า
ไม่ยอมให้ตัวตกเทรนด์ ด้วยเหตุนี้เองผักชีจึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่ขายดีที่สุดของเมืองไทย
เพราะเอะอะก็เอาไปโรยหน้ากันซะเรื่อย
สำหรับนักเรียนไทยในต่างแดน หากเป็นชายทั้งแท่งไม่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนละก็
เกือบร้อยทั้งร้อยย่อมต้อง 'ถึง' ในถิ่นที่ตนเองไปใช้ชีวิตนักเรียนนอก ศึกษาเล่าเรียน
ในบ้านเขาเมืองเขา อย่างน้อยๆ ก็สักครั้งล่ะน่า บ้างก็ว่าเป็นการเอาดุลย์คืนเพราะเรา
เสียเปรียบเขามาเยอะแล้ว บ้างก็สารภาพกันตรงๆ ว่าอยากลอง บางคนแค่ขยับๆ
พอเป็นประสบการณ์ให้ได้นึกครึ้มในใจเล่นๆ ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตตูก็เคย 'เฉาะฝรั่ง'
เอาจิ้มพริกกะเกลือหรือแช่ชะเอมกะเขาเหมือนกัน ผมเคยสัมภาษณ์นักเรียนไทย
เพศชายที่มาศึกษาต่อประเทศออสเตรเลียแดนจิงโจ้ ในระดับ ป.โท เป็นการสุ่มเก็บ
ตัวอย่างประกอบการเขียนสารคดีแบบเรื่อยเปื่อยชิ้นนี้ ส่วนใหญ่จะให้การตรงกันว่าจะ
เหลวไหลปล่อยตัวเผลอใจอย่างมากก็ไม่เกินสองสามครั้่ง ครั้งแรกเป็นการชิมลาง
หรือลองของ ครั้งสุดท้ายพอเรียนจบก็จะลับอาวุธเป็นการทิ้งทวนก่อนจาก ไม่ค่อย
จะได้ซ่าส์มากเหมือนตอนอยู่เมืองไทยหรอกครับ เพราะค่าบริการของน้องๆ เมืองนอก
แพงมาก อย่างอุจจาระสุกรอุจจาระสุนัข อัตราความสุขครึ่งชั่วโมง คูณด้วยอัตรา
แลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยพอไปเที่ยวอาบอบนวดชั้นกลางๆ บ้านเราได้สบายทั้งคืน
อีกประการพอปิดเทอมนักเรียนไทยจะแห่กันกลับเมืองไทยจนแน่ดเอี้ยดทุกเที่ยวบิน
ด้วยเหตุผลเดียวกันคือคิดถึงบ้าน และเมื่อกลับบ้านแล้วก็คงจะไปถ่ายพลังที่อัดล้น
จนแห้งถัง ค่าที่อดอยากปากแห้งมานานตอนอยู่เมืองนอก พอกลับมาเรียนอีกที
ก็สูญสิ้นความกระตือรือร้นในเรื่องอย่างว่า แทนที่จะเปลืองเวลาไปกับสิ่งที่ไม่ควรเสีย
ก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบไวๆ เอาปริญญากลับไปอวดคนที่เมืองไทยดีกว่า
จากคุณ :
Storm_In_Teacup
- [
20 ม.ค. 51 14:13:20
A:121.219.98.93 X: TicketID:166018
]