รอย... เร้น : (1) ร่าง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6165327/W6165327.html
รอย... เร้น : (2) ร่องรอย
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6187063/W6187063.html
รอย... เร้น : (3) เรื่องเร้น
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6209798/W6209798.html
หมายเหตุ : ตอนสุดท้ายนี้มีความยาวมากกว่าตอนก่อน ๆ อยู่พอสมควรนะคะ
---------------------------------------------------------------------------------------
4. ความลับที่หลงเหลือ
ปากกาน่ะครับ อาจารย์ ร.ต.ต. ประพจน์ขยายความ ไม่ทราบว่าผมทำหล่นหรือเอาไปวางทิ้งไว้ที่ไหนตอนไปค้นหาพยานหลักฐานที่บ้านนายบุญทัน มารู้ตัวตอนจะจดบันทึกเพิ่มเติม กะว่าจะกลับเข้าไปเอา แต่คิดดูแล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ดีกว่า จะได้มีข้ออ้างสำหรับกลับมาอีกรอบ...
เหตุผลของเขาก็น่าฟังอยู่ แต่ผมยังอดกังขาไม่ได้ว่า ในเมื่อเขายังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แท้จริงของคุณนวลเพ็ง เพราะระหว่างที่เขาทำการตรวจค้นบ้านของผู้ต้องสงสัยนั้น ผมกำลังทำการชันสูตรศพของเธออยู่ แล้วเขาจะทราบได้อย่างไรว่าควรจะค้นหาสิ่งใด เมื่อไม่รู้ว่าควรจะค้นหาสิ่งใด ทำไมเขาจึงบอกผมและผู้หมวดศักรินทร์ว่า ค้นหาจนทั่วแล้วแต่ค้นไม่พบ และเมื่อค้นไม่พบ เพราะเหตุใดเขาจึงต้องย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง
ไหนตอนแรกผู้หมวดบอกผมกับผู้หมวดศักรินทร์ว่า ไม่พบร่องรอยอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ รอยเลือด ร่องรอยการต่อสู้ ทั้งที่ค้นอย่างละเอียดที่สุดแล้วอย่างไรล่ะครับ ผมถามเรื่องที่ผมยังข้องใจ
ที่เราค้นไม่พบก็เพราะเราไม่รู้จะค้นหาอะไรนั่นละครับ อาจารย์... เขาตอบผมพร้อมหัวเราะเบา ๆ ก่อนเป็นฝ่ายเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาเสียเองด้วยการขอให้ผมแนะนำสุภาพสตรีที่ยืนอยู่ข้างผมให้เขารู้จัก
หลังจากอาจารย์เสาวลักษณ์และผู้หมวดประพจน์พูดคุยเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้ตายกันพอสังเขป ผู้หมวดก็มองนาฬิกาข้อมือแล้วเปรยเบา ๆ ป่านนี้แล้ว เจ้าของบ้านยังไม่มาถึงเลย
คุณนวลเพ็งเคยให้กุญแจสำหรับเข้าบ้านหลังนี้กับอาจารย์หรือเปล่าครับ เขาถาม
อาจารย์เสาวลักษณ์ส่ายหน้า ไม่ค่ะ เวลาดิฉันไปหาก็กดกริ่งให้น้อยออกมาเปิดรับ... น้อยมักจะอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งตอนตะวันลับฟ้าไปแล้ว เขาจะไม่ออกไปไหนเลย เพราะที่นี่สงบก็จริง แต่ก็เปลี่ยวเอาเรื่อง
ที่นายบุญทันไม่เข้าบ้าน จะเป็นไปได้ไหมว่าเขาหนีไปแล้ว ผมว่า
คงจะไม่หรอกค่ะ อาจารย์ธวัชชัย เธอบอก การที่เขากล้าบอกตำรวจให้มาค้นบ้านแสดงว่า เขาต้องมั่นใจจริง ๆ ว่าตำรวจจะค้นไม่พบอะไรแน่ ๆ ... ถ้าเขาหนีไปทั้งที่ตำรวจค้นบ้านเขาแล้วไม่พบอะไรที่เป็นพิรุธเลย การกระทำที่ว่าจะกลายเป็นข้อพิรุธยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดเลยนะคะ
แต่กับคนที่ตัดสินใจแก้ไขปัญหาอย่างผิดพลาดมาตลอดอย่างนายบุญทัน ตามที่อาจารย์เล่าให้ผมฟัง ก็น่าจะมีความเป็นไปได้ที่เขาจะตัดสินใจผิดพลาดอีกไม่ใช่หรือครับ ผู้หมวดประพจน์แย้งขึ้นอย่างใจเย็น
ความคิดเห็นของเธอและเขาต่างมีเหตุผลน่ารับฟัง ซึ่งคงจะมีแค่เวลาเท่านั้นที่ใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ โดยเราตกลงกันว่า หากนายบุญทันเจ้าของบ้านยังไม่กลับเข้ามาภายในหนึ่งชั่วโมงนับจากนี้ เราต่างคนจะต่างแยกย้ายกันกลับไปเพื่อคิดอ่านหาทางแสวงหาความจริงในเรื่องดังกล่าวกันต่อไป
แต่ดูเหมือนว่าเราไม่ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ทฤษฎีนานถึงเพียงนั้น เพราะในอีกไม่กี่นาทีถัดมา รถกระบะที่ผู้หมวดประพจน์และอาจารย์เสาวลักษณ์บอกผมว่าเป็นของนายบุญทันขับเข้ามาจอดที่หน้าประตูรั้ว
เขาลงจากรถมาด้วยท่าทางประหลาดใจที่ได้พบผู้ที่มาเยือนที่พักของตนอย่างไม่คาดหมาย แต่เมื่อเห็นอาจารย์เสาวลักษณ์เข้าเท่านั้น เขาก็รีบยกมือขึ้นไหว้เธอทันทีด้วยสีหน้าตื่น ๆ และท่าทีเกรง ๆ ก่อนที่จะไหว้ผู้หมวดประพจน์และผมเป็นรายถัดไป
เท่าที่ผมกะจากสายตา นายบุญทันคงมีอายุพอ ๆ กันกับผม แต่เขาอาจดูแก่กว่าอายุจริงไปบ้างด้วยผิวที่กร้านแดด รูปร่างของเขาสันทัดค่อนข้างสูง มือทั้งคู่ใหญ่ หยาบ แขนท่อนล่างที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นที่เริ่มเก่าซีดก็ดูแข็งแกร่ง คงเพราะทำงานที่ต้องใช้มือและใช้กำลังแขนมากอย่างงานเลื่อยไม้ ไสไม้มามาก
เขาเป็นคนหน้าตาดีใช้ได้ ดูเหมือนไม่ใช่คนฉลาดมากนัก แต่ก็ไม่ใช่คนเบาปัญญา ไม่อย่างนั้นคงเจรจากับลูกค้าหรือคิดสร้างสรรค์ทำงานเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้ ท่าทางนอบน้อม พินอบพิเทาที่เขาแสดงต่ออาจารย์เสาวลักษณ์ ซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ และน่าจะตัวเล็กกว่าภรรยาของเขาด้วยซ้ำไปทำให้ผมรู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นลูกน้องหรือลูกไล่ของคนอื่นเสียจนเคยตัว และทำให้เขาดูน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก
คุณเล็กมาที่นี่มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ ช่างไม้ถามด้วยภาษาไทยภาคกลางเจือสำเนียงถิ่นเหนือ
บุญทันก็รู้ดีว่าฉันไม่เคยมาที่นี่ด้วยเหตุผลอื่นนอกจากมาเที่ยวหาน้อย อาจารย์เสาวลักษณ์กล่าวกับเขาเรียบ ๆ ด้วยสีหน้าและท่าทางปกติ มีเพียงริมฝีปากที่ปราศจากรอยยิ้มเท่านั้นที่ทำให้ผมรู้ว่าเธอกำลังพยายามควบคุมความรู้สึกของตนเองเอาไว้อย่างเต็มที่ แต่พอมาถึง บ้านก็ปิด ไม่มีใครอยู่สักคน... น้อยไปไหน ทำไมบุญทันกลับมาแค่คนเดียว มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ
คือ... คุณน้อย... บุญทันอึกอัก ทำหน้าเหมือนไม่อยากตอบคำถาม และเหลือบมองผู้หมวดประพจน์เป็นระยะ ก่อนจะพูดโพล่งออกมา คุณน้อยเสียแล้วครับ คุณเล็ก
แม้จะทราบความจริงในเรื่องดังกล่าวจากผมและทำใจมาได้พักหนึ่งแล้ว แต่อาจารย์เสาวลักษณ์ก็ยังอดทำตาแดง ๆ เหมือนคนจะร้องไห้เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายบอกไม่ได้
เพราะอะไรกัน... เสียงของเธอแผ่วเบาและแหบแห้งจนแทบไม่ล่วงพ้นลำคอ
สามีของผู้ตายสบตากับเธอได้แวบหนึ่งก็ต้องหลบตา ผมไม่ดีเองครับ คุณเล็ก... เรามีปัญหาทะเลาะกันนิดหน่อย ผมก็เลยขับรถออกจากบ้านไปเพื่อจะได้ไม่ต้องฟังคุณน้อยว่าผมอย่างทุกที แต่คราวนี้ ผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะออกจากบ้านไป แล้วก็ถูกพวกจี้ปล้นทำร้ายเอา จนกระทั่ง...
พอก่อน... บุญทัน อาจารย์เสาวลักษณ์ยกมือขึ้นห้าม ใบหน้าของเธอเผือดลงจนน่าตกใจ ทำท่าเหมือนจะทรุดลงไปเสียให้ได้ ผมจึงเข้าไปประคองเธอไว้ และหันไปบอกอดีตลูกจ้างของครอบครัวของเธอ
ผมว่าบุญทันไปเปิดบ้านให้พวกเราเข้าไปเสียก่อนจะดีไหม
ชั้นล่างของเรือนไม้หลังเล็กของนวลเพ็งและบุญทันที่เจ้าของบ้านเปิดให้พวกเราเข้าไปเป็นส่วนที่ต่อเติมเป็นห้องเพิ่มขึ้นมาจากบริเวณใต้ถุนบ้านเดิม โดยก่ออิฐบล็อกก้อนใหญ่เป็นผนัง และปูพื้นด้วยปูนซีเมนต์ขัดมันเพื่อให้สะดวกในการเช็ดถูกทำความสะอาดเอาเศษขี้เลื่อย หรือเศษไม้จากการไสไม้ออกไป
ห้องที่ต่อเติมขึ้นนี้เป็นห้องใหญ่ห้องเดียว แต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องทำให้ห้องดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนจากกัน โดยส่วนหน้าของห้องซึ่งมีขนาดเล็กและแคบกว่าเป็นส่วนของงานตัดเย็บเสื้อผ้า โดยมีอุปกรณ์เย็บผ้า คือ จักรเย็บผ้า หุ่นผ้าสำหรับวางแบบเสื้อ และชุดรับแขกหวายสำหรับรับแขกบางรายที่มารอรับชุดที่บ้าน และถัดจากตู้กระจกสูงใส่เสื้อผ้าไปด้านหลังก็เป็นส่วนของงานช่างไม้ ซึ่งมีชั้นวางไม้กระดาน และไม้ท่อนประเภทและขนาดต่าง ๆ สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ ชั้นเก็บเครื่องมือช่างต่าง ๆ โต๊ะพร้อมโป๊ะไฟสำหรับร่างแบบ ม้ายาวและโต๊ะยาวสำหรับรองเลื่อยเรียงอย่างเป็นระเบียบชิดผนังสองฟากของห้อง โดยกลางห้องเป็นที่โล่งสำหรับทำงาน และลึกเข้าไปด้านในสุด คือ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เช่น โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ ทั้งที่ทำเสร็จแล้วและรอซ่อม
อาจารย์ ค่อยยังชั่วขึ้นบ้างหรือยังครับ ผมรับแก้วน้ำจากเจ้าของบ้านยื่นส่งให้คนที่เอนพิงพนักชุดรับแขกหวาย เธอรับแก้วมาจิบน้ำนิดหนึ่งแล้วก็ยิ้มฝืด ๆ ให้ผมกับผู้หมวดประพจน์ที่ยืนมองเธออยู่
ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่เป็นห่วงกันไปหมด
อาจารย์เสาวลักษณ์ขยับตัวขึ้นนั่ง และหันไปหาอดีตช่างไม้ที่เคยทำงานให้กิจการที่บ้านของเธอ บุญทันนั่งลงเถอะ ฉันมีอะไรอยากถามเรื่องน้อยอีกหน่อย
ครับ คุณเล็ก ชายหนุ่มปฏิบัติตามอย่างว่าง่ายด้วยการลากม้านั่งสามขาตัวหนึ่งมานั่งในฝั่งตรงข้ามกับชุดรับแขกที่เราสามคนนั่งอยู่ด้วยกัน ค้อมไหล่ลงนิดหนึ่ง ประสานมือวางไว้บนตัก ก้มหน้ามองมือตัวเองโดยไม่สบตาของคนที่พูดกับเขาเมื่อครู่เลย
ทำไมบุญทันถึงคิดว่าน้อยออกไปจากบ้านระหว่างที่บุญทันไม่อยู่ล่ะ อาจารย์เสาวลักษณ์ซัก น้อยขับรถไม่เป็น เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวจะออกไปนอกบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ เพื่ออะไรกัน... บุญทันอยู่กับน้อยมานาน จะไม่รู้เชียวหรือว่าน้อยไม่ชอบออกจากบ้านหลังเวลาตะวันตกดิน
บุญทันเหลือบตามองคนที่ถามเขาอยู่แวบหนึ่งแล้วหลุบตาต่ำลงเหมือนเดิม ก็ตอนผมกลับเข้าบ้านมา คุณน้อยไม่อยู่แล้วนี่ครับ ผมก็เลยคิดว่าคุณน้อยอาจจะโทรศัพท์ให้คุณเล็กออกมารับไปที่บ้าน เพราะนอกจากคุณเล็กแล้ว ผมก็เห็นว่าไม่มีใครที่คุณน้อยจะติดต่อด้วย แต่นึกไม่ถึงว่าเรื่องมันจะออกมาเป็นอย่างนี้
เขานั่งปิดมือที่ประสานกันอยู่บนตักไปมา ไขว้ข้อเท้าสองข้างเข้าหากัน และเริ่มเขย่าขาข้างหนึ่ง ยกเว้นแต่ คุณน้อยจะมีใครอีกคน... อีกคนที่...
เสียงของเขาแห้งหายไปทั้งที่กล่าวยังไม่จบประโยค และทำให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ผมกับอาจารย์เสาวลักษณ์หันมาสบตากัน ส่วนผู้หมวดประพจน์เปลี่ยนท่าจากนั่งไขว่ห้างเป็นนั่งกอดอก โดยยังคงวางหน้านิ่ง แต่ขณะเดียวกันก็จับจ้องยังบุคคลที่นั่งอยู่บนม้านั่งตรงหน้าเราทั้งสามไม่วางตา
นี่บุญทันกำลังจะบอกฉันว่า บุญทันสงสัยว่าน้อยมีคนอื่นใช่ไหม...
(มีต่อนะคะ)
แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 51 23:21:40
จากคุณ :
ปิยะรักษ์
- [
23 ม.ค. 51 00:52:04
]