คุยกันประสาคนรักสัตว์
กายครับผมรักกาย
ผมชอบดูรายการสารคดีทางช่อง National geographic มากครับยิ่งตอนนี้ถ้าใครดูจะมีสองตอนที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งคือ Show real asia เป็นเรื่องราวของสาระการใช้ชีวิตและวิถีความเชื่อของคนเอเชียเรื่องของภูตผีสัตว์ที่คนเรานับถือดูแล้วตื่นตาตื่นใจครับเพราะแต่ละชาติในทวีปเอเชียก็แสนจะแปลกประหลาดกันทั้งนั้น อีกเรื่องคือสารคดีชื่อ Animal like us สาระของเรื่องคือมีการเปรียบเทียบให้เห็นว่าสัตว์จะมีชีวิตที่เหมือนกับเรา เวลาป่วยเรามีหมอรักษาแต่สัตว์จะรักษาตัวเองอย่างไร หรือสัตว์ก็มีพ่อหมอรักษาโรคเหมือนกับเรา ดูแล้วทึ่งครับสนุกและตื่นตาตื่นใจเพราะสัตว์เองก็มียุทธวิธีที่เราคาดไม่ถึงเช่นกันว่าเค้าจะสามารถรักษาโรคต่างๆ ของเค้าได้เช่นกัน อ่านแล้วอยากดูล่ะซิครับหวังครับว่าทีวีบ้านเราคงจะมีซักช่องที่เสนอรายการดีๆ อย่างนี้เด็กๆ ดูแล้วจะได้ชื่นใจไม่ใจแตกไปกว่านี้ ฮ่าๆ มีคนชอบให้ผมเล่าเรื่องเจ้าหมากาย ลาบราดอร์ รีทีฟเวอร์ คู่ใจของผมและมีหลายๆ คนอยากเห็นตัวจริงว่าหมากายมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ได้เห็นแน่ๆ ครับตอนนี้เราจะมีรายการทีวี ทางช่อง TTV 2 และช่อง MVTV1 รายการ คนรักสัตว์เลี้ยง ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ 15.30-17.00 น. ครับ
วันนี้ขอเล่าเรื่องหมาตัวเองอีกซักครั้งเพราะในอีกแง่มุมหนึ่งของหมากายมันก็มีช่วงชีวิตที่ผกผันและน่าหวาดเสียวไม่น้อยครับ กายกับผมรู้จักกันมาเกือบ 10 ปีแล้วครับ ผมไปรับกายมาเลี้ยงพร้อมๆ กับจ่ายเงินค่าตัวของมันไป 5000 บาท เป็นราคาค่างวดที่ถูกมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ผมกับกายได้ผูกพันกับถึงวันนี้ กายมาด้วยอายุเพียง 42 วัน มันหลับและขี้เซามากตอนนี้มันนั่งมาในรถยนต์ของแฟนผมในตอนนั้น เธอกับผมต่างก็ชอบเจ้าหมาน้อยตัวนี้มาก เรารู้นะครับว่ากายมีอัณฑะเพียง 1 ใบ ในอนาคตเราต้องทำผ่าตัดเอาลูกอัณฑะออกไปจากในช่องท้องและทำหมันให้สิ้นกายจะได้ไม่ผสมพันธุ์กับหมาตัวเมียตัวไหนให้กำเนิดลูกที่ไม่สมประกอบออกมา ในขณะนั้นผมอาศัยอยู่บ้านคุณลุงและคุณป้าผมครับสองท่านก็รักสุนัขมาก แต่ผมเองทราบดีว่าการที่เราจะเลี้ยงกายในบ้านจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคตแน่ๆ เลยขออนุญาตท่านเลี้ยง ท่านก็อนุญาตนะครับเพียงแต่ผมเองก็รับรู้ในใจว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรในอนาคตผมเองก็ต้องรับผิดชอบ วันแรกที่ผมเอากายมาที่บ้านมันยังหลับตาพริ้มเลยครับ พอมาถึงบ้านผมปลุกมันแล้วอุ้มให้ลุงกอดและเล่นกับมันเพราะอย่างน้อยถ้ามันถูกใจเจ้าของบ้านมันคงอยู่กับผมนานแน่ๆ ลุงเป็นคนใจดีครับเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะและเป็นคนที่รักหมามาก กายเป็นหมาในบ้านตัวที่ 7 ครับเพราะที่บ้านผมมีหมาเดิมอยู่ 6 ตัว มียอร์คเชีย เทอเรีย 4 ตัวและเยอรมัน เชพเพริดร์ 1 ตัว และหมาไทยข้างถนนขาขาดวาสนาดี 1 ตัวที่อาศัยอยู่ก่อนหน้า แน่นอนครับ กายมันตัวใหม่ทำให้ทุกคนในบ้านชอบ ลุงกับป้าผมบอกว่าผมจะต้องสอนและดูแลกายให้ดีเพราะถ้าเละคงต้องส่งกายไปอยู่บ้านที่เพชรบุรี ผมกับกายเลยติดกับแจทุกงาน หมาตัวน้อยถูกส่งขึ้นไปอยู่บ้านห้องใต้หลังคาของผม นอนอยู่กับผมทั้งวันและเวลากินผมก็อุ้มมันลงมาเพราะมันยังเล็กมากๆ
ผมฝึกกายตั้งแต่เด็กๆ ครับ เริ่มจากพามันลงไปฉี่และอึในสนามหญ้า จำได้เลยครับวันแรกผมตื่นแต่ตี 5 ตื่นมามีหมาตัวน้อยนอนซุกที่รักแร้ผม ปากมันยังมีกลิ่นน้ำนมจริงๆ ผมจับตัวมันเขย่าเบาๆ มันตื่นงัวเงียขึ้นมาผมรีบอุ้มลงมาจากห้องพามันไปที่สนามหญ้าให้มันฉี่ครั้งแรกจากนั้นก็ปล่อยให้มันเดินเล่นซักพักผมเองก็กลับขึ้นไปนอนต่อจนหกโมงเช้าลงมาเก็บมันซึ่งกายจะมานอนรออยู่ที่เชิงบันได ตลกจริงๆ ครับ มันไม่สนใจอะไรนอกจากผม ผมจะชงกาแฟทานตอนเช้าจากนั้นก็จะเอาอาหารมาใส่จานให้กายกินไปด้วยและเราก็เริ่มนั่งดูมันกินทีละคำ หมาน้อยสีทองของผมมันกินเก่งกินหมดและเลียปากแผลบๆ ผมเอาจานมันไปล้างและหลอกล่อให้มันไปเล่นที่สนามเช่นเดิม กายมันก็เดินวิ่งไปวิ่งมาซักพักมันก็โก่งก้นอึแล้ว กิจวัตรของผมอย่างหนึ่งการกวาดขี้หมาผมไม่รังเกียจนะครับเพราะได้ประโยชน์มากเลยจากการที่เราเก็บอุจจาระหมาทุกวัน เราจะทราบเลยว่าตัวไหนกินดีถ่ายดี เพราะอึมันก็ฟ้องอยู่แล้ว จากนั้นผมจะอุ้มกายขึ้นห้องรอผมอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ปีแรกผมไปทำงานโดยนั่งรถเมล์สองแถว ผมจับกายใส่กระเป่าเป็นเป้ครับเอามันใส่เป้แล้วแขวนด้านหน้าอกมันก็หลับอีกเช่นเคยไม่ยุ่ง เรานั่งรถไปกับสองคนจนถึงปลายทางถึงโรงพยาบาลสัตว์ที่ผมทำงานอยู่จากนั้นผมก็ปล่อยกายให้เล่นและนอนใต้โต๊ะผม มันก็เล่นนะครับแต่โดยส่วนใหญ่จะนอนที่เท้าผมพอผมลุกขึ้นไปทำงานรักษาทีมันก็ตื่นทีนั่งตาแป๋วมองผมตลอดเวลา เราทำกันอย่างนี้กว่าเดือนครึ่งครับ ผมเริ่มอุ้มกายไม่ไหวเพราะมันอายุ 3 เดือนแล้วเริ่มตัวหนักและซนจากที่เคยนอนเก่งไม่แล้วครับมันตื่นและสนใจไปหมด ผมเองไม่ยอมแพ้นะครับอุ้มไม่ไหวก็เลยเอาสายรัดอกมาใส่และเริ่มหัดจูง ผมหัดให้กายเคยชินและเริ่มเดินออกไปนอกบ้านถนนซอยเล็กๆ ผมคิดว่าการมันชอบและออกเดินตัวตั้งเลยครับมันตื่นเต้นพอๆ กับผมเพราะผมเองพบว่าการจูงหมาเดินในซอยนั้นไม่ใช่เรื่องหมูๆ เพียงแต่เดินผ่านบ้านแรกเท่านั้นครับ เสียงหมาเห่ากรรโชกเจ้ากายและตามเห่าจากรั้วด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง จากนั้นเสียงมันก็เริ่มส่งต่อไปจากบ้านแรกไปบ้านที่สองไปบ้านที่สามตามต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เสียงเห่าทำให้หมาในซอยที่ไม่มีเจ้าของตื่นและสนใจ ผมหยุดครับเพราะมาทราบอีกทีเราก็ตกอยู่ในฝูงของหมาจรจัดซัก 10 กว่าตัวได้ ผมจำได้ดีว่า ตัวเองก้มเก็บไม้อันโตๆ ยาวอันหนึ่งขึ้นและเริ่มกวาดไม้ให้ไกลๆ ไล่หมาออกไปให้ห่างจากกาย ได้ผลครับหมามันหนีและเราก็เดินแหวกทางไปเรื่อยๆ มันก็ตามเห่าเราไปเรื่อยๆ วันนั้นนอกจากหมาแล้วยังมีชาวบ้านในซอยออกมาดูนอกบ้านก็เยอะเชียวครับต่างก็บ่นพึมพำในใจว่าทำไมมันถึงหนวกหูอย่างนี้ พอเห็นเจ้ากายกับผมก็ต่างเข้าใจและเอาใจช่วยว่ามันจะรอดไหมเนี่ย ผมเดินจนถึงปากวอยครับและเรียกรถสามล้อไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ทำงานของผม นั่งสามล้อเย็นใจหายเหนื่อยและปลื้มใจว่าเราเนี่ยเยี่ยมจริงๆ เห็นไหมเอากายมาด้วยได้ นั่งคิดไปเพลินๆ มานึกได้ เอ๋ กลางคืนเราก็ต้องเจออีกรอบนี่หว่า คิดผมก็สยองแล้วครับเพราะผมทำงานเลิกสองทุ่ม ขืนเดินเข้าซอยแบบเมื่อเช้ากายกับผมคงถูกสรรเสริญแน่ๆ เพราะมันคงหนวกหูสนั่นซอย แต่ทำไงได้ครับผมกับกายเป็นของคู่กันไปแล้วนี่ หวังว่าชาวบ้านคงเห็นใจในความรักของผมกับเจ้าหมาน้อยและหวังว่าท่านคงเคยชินในไม่ช้านั่งคือสิ่งที่ผมหวังครับ
จากคุณ :
นายสัตวแพทย์ทศพร นักเบศร์
- [
24 ม.ค. 51 10:08:14
A:58.9.4.103 X:
]