เมื่อปฏิทินรูปสาวสวยยืนสะอิ้งกายข้างรถหรูที่แขวนอยู่ข้างฝาถูกฉีกถึงแผ่นสุดท้าย
นั่นย่อมหมายถึงคิมหันตฤดูที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาใกล้ หน้าร้อนของที่นี่ กลางคืนจะ
หดสั้นแต่กลางวันจะขยายยาวออกไปเรื่อยๆ เพิ่งเริ่มตีห้าฟ้าก็สว่างพอมองเห็นเส้นลายมือ
แต่กว่าพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าสิ้นแสงตะวันก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่า บัดนี้เวลาก็เปลี่ยนเป็น
day light saving time กันแล้ว เวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าเมืองไทยสามชั่วโมงก็ต้องหมุนเข็ม
นาฬิกาเลื่อนออกไปเป็นสี่ชั่วโมง
ประเพณี 'เย็นเฮ' ของผมและผองเพื่อนก็ค่อยๆ ซากันไปเพราะอยู่ในช่วงสอบปลายภาค
ตารางสอบเทอมนี้ถี่กระชั้นกันชนิดสามวันสี่วิชา แม้จะเป็น open book ครึ่งหนึ่ง แต่ก็ตก
อยู่ในสถานะที่ประมาทไม่ได้เพราะทุกวิชาวัดผลกันที่ปลายภาคทั้งนั้น แม้คะแนนเก็บจะ
อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทว่าหากปลายภาคไม่ผ่านก็ต้องลงทะเบียนเรียนใหม่ในรายวิชา
นั้นๆ สถานเดียว เรื่องที่จะยื่นอุทธรณ์บีบน้ำตาร้องไห้หรือซื้อเหล้าให้อาจารย์ก็อย่าไป
หวังเสียให้ยาก เพราะในกรณีหลังนอกจากจะไม่สัมฤทธิ์ผลแล้ว เผลอๆ อาจจะถูกยกเลิก
วีซ่าเพราะส่อแววทุจริตอีกต่างหาก
กระทั่งเทศกาลสอบมหาโหดสิ้นสุดลง ทางมหาวิทยาลัยก็ประกาศวันปิดภาคฤดูร้อน
เหล่าสหายพากันวิ่งวุ่นจองตั๋วเครื่องบิน (ก็สายการบินที่บอกว่ารักคุณเท่าฟ้าแต่พอ
ไฮซีซั่นกลับโก่งราคาค่าตั๋วจนเลือดซิบนั่นแหละครับ) ไอ้เบิร์ดไอ้เฮงไอ้หมูกระทั่งไอ้อ๋า
ต่างเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเตรียมตัวไปซัมเมอร์เมืองไทยกันเป็นทิวแถว ทั้งๆ ที่ตะละหน่อ
เพิ่งกลับมาจากเมืองไทยหยกๆ เมื่อปิดเทอมที่แล้วมานี่เอง ส่วนซาไกพลัดถิ่นคือผม
ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ เพราะไม่มีปัญญาและค่าโสหุ้ยพอที่จะกลับไปซ่าได้อย่างใครเขา
" ค่าครองชีพที่นี่มันแพงนี่โว้ย ใช้ที่นี่เดือนเดียวกลับไปอยู่เมืองไทยได้ตั้งสามเดือน
ถึงจะหักค่าเครื่องบินแล้วก็ยังคุ้ม อีกอย่างข้าจะได้กลับไปเดินยืดมาดนักเรียนนอกด้วย "
ไอ้เฮงให้คำตอบหลังแก้วเบียร์เมื่อถูกผมปุจฉา ส่วนไอ้เบิร์ดทำตาลอยฝัน
" เมีย เอ๊ย แฟนเก่าข้าที่เลิกกันไปมีคนใหม่ตอนเรียนจบ เขาโทร.มาบอกข้าเมื่อไม่กี่วันนี่เอง
ว่าตอนนี้หัวใจกลับมาว่างอีกครั้ง อา.. ถ่านไฟเก่าที่จวนมอดดับจะกลับมาประทุเปรี๊ยะปร๊ะ
ลุกโชนโชติช่วงสว่างวงศ์และคงจะเร่าร้อนรุนแรงกว่ารักก่อนตามธรรมเนียมของวัวเคยขา
ม้าเคยขี่ ข้ากำลังตัดสินใจว่ากลับไปครั้งนี้ควรร้องฮี้ๆ หรือร้องมอๆ "
" ตุ๊ยย สำนวนมากนัก ระวังลูกปืนผัวใหม่มันจะประทุเปรี๊ยะปร๊ะเข้าใส่เอ็งก็แล้วกัน ข้าน่ะ
ไม่เชื่อน้ำมนต์หรอก ไอ้พวกชิ่งหนีจนย้วยแล้วกลับมายูเทิร์นนี่หนะ มีแต่พวกผัวเผลอ
มาเจอกันทั้งนั้น "
ไอ้อ๋าขัดคอขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ราวกับมันเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เสียเต็มประดาทั้งๆ ที่
ในชีวิตมันไม่เคยมีแฟนเอาแต่เที่ยวสถานเริงรมย์ยันป้าย ทำเอาไอ้เบิร์ดตาเขียวปัด
ร่ำๆ จะเปิดศึกวันทรงชัย เล่นเอาผมต้องรีบห้ามเพราะกลัวมันจะกัดกันเองก่อนกลับบ้าน
ยังดีที่มันแยกกันกลับคนละเที่ยวบินเพราะหาตั๋วไปพร้อมกันไม่ได้ เพราะกระแดะ
มาจองเอาวันสองวันนี้ ไม่เช่นนั้นคงไปแง่งใส่กันบนฟ้า แต่ผลเสียที่ตามมาจากการ
ที่มันกลับคนละวันกันก็คือผมต้องพลอยวุ่นวายเลี้ยงฉลองเฮฮาปาร์ตี้เมากันแประ
ต้องไปส่งกันที่สนามบินนับสิบเที่ยว จะไม่ให้เป็นสิบยังไงไหวเล่าครับ ใครจะกลับที
ก็เลี้ยงส่งกันที เมาจนแทบไม่มีสติสตางค์ มีผมคนเดียวที่ได้แค่จิบๆ ตามน้ำ
เพราะถูกวางตำแหน่งให้เป็นสารถีเพราะชำนาญทางและคุ้นเคยกับอีแก่คันบุโรทั่ง
เป็นอย่างดีพอจะแก้ไขได้งูๆ ปลาๆ หากเครื่องมันจะรวนไม่ยอมทำงานขึ้นมา
อนึ่งกฎหมายจราจรของที่นี่เขาเข้มงวดมาก หากเมาเกินพิกัดแล้วยังซ่าส์ไปขับ หาก
ถูกจับจะโดนตัดแต้ม โดนปรับเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงเอาการ ดีไม่ดีโดนยึดใบขับขี่
ก็หมดหนทางทำมาหากินเท่านั้นเพราะที่นี่จะไปไหนมาไหนก็ต้องใช้รถยนต์เป็นหลัก
หากจะรอบริการรถสาธารณะนั้นไม่ทันกินเป็นแน่
ไอ้หมูเดินทางกลับคนแรกดันลืมพาสปอร์ต ไอ้เบิร์ดไปอีกวันแทนที่จะถือเป็นบทเรียน
กลับทะเล่อทะล่าลืมไวน์ที่ซื้อไว้จิ้มก้องผู้หลักผู้ใหญ่ ไปส่งมันสองคนล่อเข้าไปสี่เที่ยว
ไอ้เฮงดีหน่อยไม่ลืมอะไรแต่ดันไปผิดวัน เครื่องเขาออกวันจันทร์เวลาศูนย์ศูนย์หนึ่งห้า
คือเลยเที่ยงคืนวันอาทิตย์ไปสิบห้านาที มันผ่าไปเช็คอินสี่ทุ่มวันจันทร์ ในสมองมันยัง
นับวันอย่างโหรไทยสมัยโบราณ พอเข้าไปยื่นตั๋วพนักงานเช็คอินจึงบอกให้หายโง่ว่า
เที่ยวบินของคุณเขาออกไปตั้งแต่เมื่อคืนโน่นแล้ว มาทำ spear อะไรกันตอนนี้ ก็ต้อง
แล่นไปสนง.สายการบินในวันรุ่งขึ้นขอให้เขาออกตั๋วใหม่ ไปรอสแตนบายด์ที่สนามบิน
ตั้งแต่นกฮูกโห่คือสองทุ่ม กว่าจะได้ที่นั่งก็ห้าทุ่มลุ้นกันตัวโก่ง เช็คอินเป็นคนสุดท้ายของไฟล์
พอถึงรอบไอ้อ๋าจอมเซอะซะ ผมต้องลงทุนคุมตัวมันเหนียวแน่นตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่าง
จนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วค่อยขับรถไปส่งมันที่สนามบินก่อนเวลาถึงสี่ชั่วโมง โหลด
กระเป๋าเสร็จเวลาเหลืออีกบานเบอะ ไอ้อ๋าจึงชวนไปนั่งตอกเบียร์ดูเครื่องบินขึ้นลงบ้าง
แอร์โฮสเตสที่เดินเชิด(ขออภัย)ผ่านไปมาบ้าง ปากก็วิจารณ์ไปตามประสา นั่งกันเพลิน
จนเขาประกาศชื่อไฟนอลคอลไอ้อ๋าจึงค่อยสะเงาะสะแงะเดินเข้าเทอร์มินอลไป ส่วนผม
น่ะหรือครับ เมาจนเดินไม่ตรงทางอย่างนั้นหากยังอาจหาญขับรถกลับบ้านก็คงจะไม่ได้
อยู่บำรุง หากไม่จูบเสาไฟฟ้าหรือหลักกิโลเมตรข้างทางก็คงจะโดนตำรวจซิวไปนอน
ตบยุงเล่นๆ ในมุ้งสายบัว โทษฐานเมาแล้วขับ จึงทิ้งรถไว้สนามบิน กลับรถบัสประจำทาง
มานอนที่แฟลต รุ่งเช้าพอสร่างก็ขึ้นรถบัสกลับไปสนามบินอีกรอบเพื่อขับรถกลับมา
ทุลักทุเลเหลือกำลัง
จากคุณ :
Storm_In_Teacup
- [
28 ม.ค. 51 07:23:00
A:58.168.237.171 X: TicketID:166018
]