เดินตามรองเท้า
บทความโดย หลิวยง
แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
บริเวณสถานที่เกิดอุบัติเหตุ เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและเศษซากอวัยวะ มีแต่รองเท้าคู่เดียว ที่ถูกพบไกลออกไปประมาณห้าสิบเมตร อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดี ไม่เสียหายใดๆ เลย
มันเป็นรองเท้าที่ซื้อจากโรมเมื่อครึ่งปีที่แล้วตอนไปเที่ยว ตอนนั้นเขาสวมมันทันที เดินย่ำไปห้าประเทศ เมื่อกลับมาแล้วก็ยังสวมมันทุกวัน เธอบอกเขาหลายครั้งว่า รองเท้าคู่นี้เหมาะกับการเดินทางไกล ไม่เหมาะกับการสวมไปทำงาน แต่เขาก็ไม่เปลี่ยน บอกว่าใส่สบาย แม้กระทั่งได้รับเชิญไปบรรยายที่นิวยอร์ค เขาก็บอกว่าจะสวมมันไป
@
เธอเก็บรองเท้ากลับมาที่บ้าน จับใส่ตู้รองเท้า แต่ก็หยิบออกมา วางไว้หน้าประตูบ้านตรงตำแหน่งที่สามีของเธอถอดไว้ประจำ ก็ดีเหมือนกัน! รู้สึกเหมือนกับในบ้านยังมีผู้ชายอยู่ด้วย ปลอดภัยดี
เพียงแต่ทุกครั้งที่ก้าวออกจากลิฟต์ มองเห็นหน้าบ้าน ก็จะสะดุ้งเล็กน้อย รู้สึกว่ามันคงจะเป็นเหมือนวันเก่าๆ พอเปิดประตูบ้าน ก็จะเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของเขายืนต้อนรับอยู่ข้างใน
กี่ครั้งแล้วนะ ที่น้ำตาของเธอต้องไหล ไหลตั้งแต่หน้าลิฟต์ จนกระทั่งหยดลงบนรองเท้าคู่นั้น
@
วันนั้น เธอได้กลิ่นแก๊ซ จึงโทรศัพท์ไปที่บริษัทเครื่องทำน้ำอุ่น มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาตรวจ บอกว่าเป็นปัญหาการเผาไหม้ไม่หมด ยังมุดออกไปนอกหน้าต่าง เสี่ยงอันตรายติดตั้งท่อระบายอากาศให้เธอ
เด็กหนุ่มขอกระดาษทิชชู่จากเธอมาเช็ดเหงื่อ กระดาษแผ่นบางๆ พอเช็ดเข้าก็กลายเป็นเส้นกระดาษเล็กๆ เธอบอกว่าจะไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาให้
เด็กหนุ่มรีบบอกปฏิเสธอย่างขวยเขิน รีบเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ เธอจะให้ทิป เด็กหนุ่มก็ปฏิเสธแล้วกลับออกไปอย่างกับวิ่งหนี
ผ่านไปสองวันเธอเพิ่งพบว่า รองเท้าที่หน้าประตูเปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นคู่เก่าๆ ขาดๆ เพียงแต่ขนาดใกล้เคียงกัน ดูเผินๆ ก็คล้ายๆ กัน คงจะเป็นเด็กหนุ่มในวันนั้นสวมผิดไปด้วยความรีบร้อน
เธอโทรศัพท์ไปหาบริษัทเครื่องทำน้ำอุ่น แต่โทรได้ครึ่งเดียวก็หยุด เกรงว่าจะทำให้เขาต้องลำบาก อีกอย่างได้ยินเจ้าหน้าที่ดูแลอาคารบอกว่ามีช่างคนหนึ่งมาหาเธอ แต่เธอไม่อยู่บ้าน จึงไม่ได้ปล่อยให้ขึ้นมา
เธอคิดดูอีกที อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ทำให้รู้สึกว่ารองเท้าถูกใส่จนเก่าขึ้น ยิ่งสมจริงกว่าเดิม เพียงแต่ เธอก็คิดถึงรองเท้าของสามีคู่นั้น ป่านนี้ถูกสวมไปถึงที่ไหนแล้ว ภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นผุดขึ้นมาในหัว รูปร่างก็คล้ายกับ เขา เสียเหลือเกิน มิน่าเล่า รองเท้าจึงใส่ด้วยกันได้
@
วันนี้ พนักงานดูแลอาคารกดกริ่งขึ้นมาบอกว่ามีคนมาตรวจแก๊ซ
พอเปิดประตู ก็เห็นหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้น เธอกำลังจะเอ่ยปากตำหนิความสะเพร่าของเขานั่นเอง กลับเห็นเด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่นจ้องมองเข้าไปในบ้าน สูดลมหายใจเข้าตลอดเวลา บอกว่ามีกลิ่นแก๊ซ
เธอไม่รู้สึก คงเป็นเพราะเป็นหวัด ไม่ได้กลิ่นอะไรมาหลายวันแล้ว
เด็กหนุ่มบอกเธอว่าอย่าเปิดไฟ และบอกให้เธอออกไปยืนที่นอกระเบียง เสร็จแล้วก็พุ่งตรงเข้าไปในบ้าน เมื่อตอนออกมาอีกครั้ง สีหน้าของเขาซีดเผือด เด็กหนุ่มนั่งหอบหายใจอยู่ที่ห้องรับแขก แล้วก็ฝืนลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างทุกบาน
เด็กหนุ่มจากไปแล้ว เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองสะเพร่าถึงกับลืมจ่ายเงิน แล้วก็คิดถึงรองเท้า พอก้าวออกมานอกประตู รองเท้าคู่นั้นหายไปแล้ว ในตำแหน่งเดียวกัน กลายเป็นรองเท้าคู่ใหม่เอี่ยมแบบเดียวกับที่สามีสวมใส่ตอนมีชีวิตอยู่ถูกวางเอาไว้แทน
เธอรีบโทรศัพท์ไปที่บริษัทเครื่องทำน้ำอุ่น อีกฝ่ายบอกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ลาออกไปตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้ว
แต่เมื่อครู่เขาเพิ่งมาซ่อมแก๊ซที่บ้านฉัน
อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก บอกว่าอาจมีปัญหา ควรรีบแจ้งความ
ไม่! เธอกล่าว พลางถามว่าเด็กหนุ่มเขาไปไหน
ได้ยินว่าวันสองวันนี้จะไปต่างประเทศ เขามาทำงานกับบริษัทเราหนึ่งปี หาเงินค่าเรียนจนพอ แล้วก็ได้ทุนการศึกษา จะไปเรียนปริญญาโทที่อเมริกา รู้สึกจะเป็นนิวยอร์ค
เธอนิ่งอึ้งไป วางหูโทรศัพท์ลง มองรองเท้าคู่ใหม่ที่นอกประตู อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าสามีของเธอยังไม่ตาย เขายังเฝ้าคุ้มครองเธออยู่ เพียงแค่เดินทางไกลเท่านั้นเอง...
จาก http://www.syzbooks.com/archives/459_news.php?lang=big
จากคุณ :
beer87
- [
29 ม.ค. 51 10:06:06
]