บนยอดภูสูง อากาศเย็นยะเยือกจับขั้วใจ บนฟ้า ดวงดาวพราวแสงพร่างระยิบระยับตา จันทร์เสี้ยวเกี่ยวแขวนกิ่งฟ้า มองดูเหมือนอยู่ใกล้ฟ้าแค่เพียงนิดเดียว แต่พอลองเอื้อมมือออกไปกลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า ดาวบนฟ้าอยู่ไกลเกินกว่าจะคว้าลงมาได้
...ลมภูเขาพัดปะทะผิวกาย แจ๊คเก็ตที่สวมอยู่ไม่อาจทานความหนาวเย็นของอากาศยามนี้ได้ มือเล็กๆ ซุนฟืนเข้าไปในกองไฟ ความเงียบงันครอบคลุมไกลออกไปแสงไฟวอมแวม ได้ยินเสียงร้องเพลงและเสียงกีตาร์แว่วมาจากกลุ่มวัยรุ่น นึกในใจ เข้าป่าเพื่อหาความสงบและธรรมชาติของป่ายังอุตส่าห์หอบเอากีตาร์มาร้องรำทำเพลงให้เสียบรรยากาศ
เจ้าของร่างบางนั่งกอดเข้าเกยคางไว้กับเข่าข้างหนึ่ง ดวงตาเหม่อลอย ความเหงาเข้าครอบคลุมทุกอณูใจ แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายในเมืองหลวงหรือท่ามกลางความว่างเปล่าบนภูสูงแห่งนี้ ความเหงายังเป็นเพื่อนที่ดีเสมอ ไม่เคยเลยแม้สักครั้งที่ความเหงาจะห่างไกล แม้บางทีมีเพื่อนพ้องข้างกายหรือใครสักคนในใจ ความเหงาก็เพียงไปเที่ยวเล่นที่อื่น พักเดียวเท่านั้นเมื่อทุกคนจากไปบนหนทางของตัวเองความเหงาก็จะเข้ามาแทนที่ทันทีเหมือนในเวลานี้
เสียงดังเหมือนใครแหวกกอหญ้าดังเข้ามาใกล้ หญิงสาวเพียงชำเลืองมองด้วยหางตาแล้วเอาสองมืออังไฟเรียกความอบอุ่น คนที่แหวกป่าหญ้าคาออกมานั่งลงตรงขอนไม้ตรงข้ามกับเธอ พลางถูมือไปมาแล้วเอามืออังไฟ หักกิ่งไม้โยนเข้าไปในกองไฟ
ไม่ไหว คืนนี้หนาวจริงๆ เขาเปรยขึ้นโดยไม่หันมองหน้าเธอสักนิดแต่กลับล้วงลงไปในย่ามหยิบสิ่งหนึ่งโยนเข้าไปในกองไฟ มันเป็นนกตัวขนาดย่อมที่ตายแล้วและขนปีกที่กำลังไหม้ไฟกลิ่นฉุนจนหญิงสาวต้องเบือนหน้าหนีควัน
ขอโทษที กลิ่นมันแรงไปนิด หลบไปอยู่เหนือลมสิจะได้ไม่เหม็น เขาออกคำสั่งฉอดๆ จนเธอต้องหลบออกมาให้ห่างแต่โดยดี
นึกยังไงปีนภูคนเดียว เขาถามขึ้นลอยๆ จนเธอไม่รู้ว่าเขาพูดเฉยๆ หรือถามเธอ หญิงสาวชี้มือเข้าหาตัวเองแล้วเลิกคิ้ว สงสัย
ก็เรานั่นแหละ เขาพูดขึ้นอีก
ทำไมรู้ เธอเพิ่งพูดเป็นประโยคแรก
เห็น เขาตอบสั้นแล้วเขี่ยนกเผาไฟที่เหลือแต่ตัวกระดำกระด่างไร้แม้ขนเพียงสักเส้น พลางจัดแจงย่างนกตัวนั้น ไม่นานกลิ่นหอมฉุยของนกย่างก็โชยมาเข้าจมูก
ฆ่าสัตว์บนป่าสงวน ผิดกฎหมาย
ไม่มีหลักฐาน เจ้าตัวนี้มันเซ่อ บินมาชนรังมดแดงเข้า จะรอดเหรอ เธอทำตาโตราวกับเห็นอภินิหารอะไรสักอย่างเมื่อรู้ว่านกตัวนั้นถูกมดแดงกัดตาย เขาแบ่งนกย่างมาให้แล้วล้วงขวดเหล้าในย่ามมานั่งจิบไปด้วย
เอาหน่อยไหม เธอส่ายหน้า
รังมดแดง รังเบ้อเร่อ ชนเข้าไปด๊าย เขายังกล่าวโทษนกตัวที่เขาเคี้ยวหยับๆ อยู่ในปาก
นกมันคงตาไม่ค่อยดี อาจจะแก่แล้วเลยตาฝ้าฟาง หญิงสาวผสมโรง
เออนะ ท่าจะจริง แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปตั้งเต็นท์ไม่ห่างจากเธอนัก
นี่นาย ที่ออกกว้างทำไมเจาะจงตรงนี้ด้วย
อุ่นดี แล้วเขาก็ไม่ใส่ใจอะไรอีก
เฮ้ นั่งเฉยเลยมาช่วยกันหน่อยสิ เขาร้องสั่งเหมือนรู้จักกันมาแรมปีทั้งๆ ที่เพิ่งนั่งก้นยังไม่ทันร้อน คุยกันหรือก็ยังไม่ทันถึงสิบคำด้วยซ้ำ
เออ รู้จักทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง ไม่ใช่นั่งเหม่อถึงแฟนชาวบ้าน คราวนี้เองที่เธอทำตาขวางและทิ้งสมอบกที่ถืออยู่ลงไปเฉยๆ แล้วเดินไปนั่งผิงไฟเสีย พลางบ่นอุบ ตานี่ปากไม่มีหูรูดเอาเสียเลย
หลังจากที่เขากางเต็นท์เสร็จก็มานั่งแหมะลงตรงข้ามกับเธอ
ชื่ออะไร เขาถาม
ถามทำไม เธอย้อน
อ๊าว ถามชื่อเสียงเรียงนามเขาถามกันไปทำไมล่ะ เออ ประหลาดคน เขายังมีหน้ามาว่าเธออีก
ทิม ทับทิม
โบราณ ร่ำๆ จะโยนท่อนฟืนใส่หน้าอยู่แล้ว ผู้ชายอะไรปากยังกับตะไกร
ดวงดาวเต็มผืนฟ้า นานๆ ก้อนเมฆสีดำจะลอยปกคลุมเสียทีหนึ่งแล้วไม่นานนักก็ลอยห่างออกไป ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็นจัดลง เสียงกีตาร์เงียบลงและแมลงกลางคืนแข่งขันกันส่งเสียง นานๆ จะได้ยินเสียงนกเค้าโมงร้องแว่วมา
ไปนอนไป เขาออกคำสั่งหน้าตาเฉย และก็แปลกที่เธอเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพียงล้มตัวลงนอนก็หลับสนิทเป็นตาย อาจจะเพราะความอ่อนเพลียจากการเดินขึ้นภูเมื่อกลางวัน
ตื่นได้แล้ว นอนเอาบ้านเอาเมืองหรือไง ว่าแล้วก็ใช้กิ่งไม้ฟาดลงเต็นท์ของเธอ หญิงสาวงัวเงียออกมาจากเต็นท์ก็เห็นเขานั่งเสนอหน้าในชุดเตรียมพร้อมออกเดินทางอยู่หน้าเต็นท์
ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นกัน ทิมดูนาฬิกาข้อมือ เพิ่งตีสี่
กว่าจะไปถึงก็หกโมงเช้าพอดี ไปเร็วล้างหน้าแปรงฟัน จะอาบน้ำเลยก็ได้นะ ประโยคหลังนั่นดูเหมือนจะเป็นการประชดประชันเสียมากว่า อากาศปลายธันว์บนยอดภูสูง ใครอาบน้ำได้ก็เก่งล่ะ
ไม่นานนักทั้งคู่ก็ออกเดินทางจากที่ทำการอุทยานไปยังจุดหมายคือผานกแอ่นเพื่อที่จะดูพระอาทิตย์ขึ้น ชายหนุ่มเดินนำหน้าซึ่งจนเดี๋ยวนี้เธอก็ยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย
นี่ นี่รอด้วยสิจะรีบไปตอนหมูหรือยังไง เธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินให้ทันเขา
อ๊ะ รู้ได้ยังไงว่าเราเป็นหมอสัตว์ แล้วเราก็ไม่ได้ชื่อนี่ นี่ เลิกเรียกนี่ นี่ได้แล้ว ได้ยินทีไรใจสั่น นึกว่าเจ้าหนี้ตามมาถึงบนนี้
ก็ไม่บอกชื่อ จะให้เรียกว่ายังไงล่ะ
ภูวา ชื่อภูวา
เรียกภูเฉยๆ ได้ไหม
จะเรียกพงษ์ศักดิ์ก็ไม่ว่า
ชื่อนายหรือ
เปล่า ชื่อพระบิดา ที่มหาลัยเขาเรียกกันอย่างนี้ สะดุ้งไหวสะเทือนอกดีนักแล
เอาบรรพบุรุษมาล้อเล่น ตกนรกไปสิบชาติ
จุดหมายเห็นอยู่ลิบๆ ฟ้าเริ่มแจ้ง ถ้าหากมาช้ากว่านี้เพียงไม่กี่นาทีบางทีอาจไม่มีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยก็ได้ สายหมอกลอยเอื่อยเหมือนขี้เกียจ ปกคลุมพื้นภูเหมือนเดินอยู่บนก้อนเมฆ เกล็ดน้ำค้างจับตามเส้นผม หน้าชาเพราะความเย็น เมื่อถึงผานกแอ่นทั้งคู่ถึงกับตะลึง
อุแม่เจ้า คนหรือนี่ แล้วมากันตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า เต็มพรืด เขาอุทานเสียงดัง เสียงกดชัตเตอร์ แสงแฟลตดังแข่งกันเหมือนนางงามจักรวาลปรากฏโฉมเมื่อพระอาทิตย์เคลื่อนกายโผล่พ้นทิวไม้
ทิม ทางนี้ เขาดึงแขนเธอไปยังอีกมุมหนึ่งที่มองเห็นตะวันขึ้นชัดเจนโดยไม่ต้องเบียดเสียดกับคนอื่นให้เสี่ยงตกภูตาย เธอกดชัตเตอร์เอาบ้างขณะที่เขานั่งมองตะวันดวงกลมโตเคลื่อนกายช้าๆ
ไม่ถ่ายรูปหรือ ทิมถาม
กล้องตัวไหนจะเก็บภาพได้คมชัดเท่าสมองกับสองตา ว่าแล้วก็ใช้นิ้วชี้เคาะที่ขมับขวาของตัวเอง ไม่นานนักก็ออกเดินทางจากผานกแอ่น
ไปกินข้าวที่น้ำตกเพ็ญพบ เขาวางโครงการแล้วนำทางเธอ ทับทิมเองยังงง นี่เธอกลายเป็นเพื่อนร่วมทางเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เอาเถอะไหนๆ ก็ไหนๆ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเดินคนเดียวแหละน่า ในตอนนี้เจ้าตัวความเหงาที่แสนจะซุกซนไม่รู้ว่าหลบลี้หนีหน้าหายไปไหน บางทีอาจจะไปอยู่เป็นเพื่อนคนเดียวดายสักคนก็เป็นได้
ทิม เขาเรียกชื่อเธอ
มาคนเดียวไม่กลัวหรือ เขาถามไถ่ ชวนพูดคุย
เกิดหนเดียวก็ตายหนเดียว คงเป็นคำตอบที่เพียงพอสำหรับเขาเพราะหลังจากนั้นเขาก็ไม่ปริปากถามอะไรอีกเลย เราเดินถึงน้ำตกโผนพบ น้ำตกธารสวรรค์และถึงสระอโนดาดสระน้ำเล็กๆ กลางภูเขามีฝูงปลาตัวเล็กว่ายวน
อะเฮ้ย นี่สูงจากระดับน้ำทะเลถึงพันสองร้อยแปดสิบแปดเมตร มีปลาได้ไงเนี่ย ว่าแล้วก็ใช้ไม้ยาวฟาดลงบนพื้นผิวน้ำ ทับทิมถึงกับส่ายหน้า นี่ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งจะจับฟาดให้ก้นลายคนอะไรซนอย่างกับลิงกลับชาติมาเกิด จากสระอโนดาดเราย้อนไปทางสระแก้วและผ่านลานพระพุทธเมตตาก่อนถึงที่พักในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
พรุ่งนี้เราเลียบริมผากัน เขาวางโครงการ
มาบ่อยหรือ
ไม่บ่อย ปีละสองหนปลายฝนกับต้นหนาว เขาตอบเรื่อยๆ เหมือนเป็นเรื่องปรกติเสียเต็มประดาที่หอบสังขารขึ้นมาบนยอดภูสูงในแต่ละครั้ง เขาง่วนอยู่กับการก่อกองไฟและต้มน้ำด้วยหม้อสนามเพื่อชงกาแฟ ทับทิมมองเหม่อยังกองไฟ ถอนหายใจแช่มช้า
คิดถึงแฟนล่ะสิ ผู้หญิงนี่ไม่มีอะไรเลยหรือไงนอกจากคิดถึงแฟน เขาพูดฉอดๆ อยู่คนเดียวโดยไม่มองสักนิดว่าทับทิมกำลังร้องไห้
ทิม เขาเรียกชื่อเธอเบาๆ
ขอโทษนะ ทับทิมซุกหน้าลงกับเข่า เช็ดน้ำตากับหัวเข่า เออหนอ น้ำตาเช็ดหัวเข่าที่โบราณว่าไว้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ความรักที่ไร้ขอบเขตและเหตุผลทำให้ทิมเป็นไปได้ถึงเพียงนี้
ภู ทำไมผู้ชายถึงชอบผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกันได้ เขาไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยหรือไงนะ จะว่าเป็นคำถามหรือก็ไม่แน่ใจหรือจะเพียงเปรยขึ้นมาเฉยๆ ก็เหมือนจะต้องการคำตอบ ภูวายื่นถ้วยกาแฟให้เธอแล้วซุนฟืนเข้าไปในกองไฟอีก
ชอบผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่าเขารักทุกคนนี่ อย่างเรา เราก็ชอบผู้หญิงทีละหลายคนเหมือนกัน ผู้หญิงน่ารักน่าชอบออก อย่างทิมเราก็ชอบ
เฮ้ย ทับทิมสะดุ้ง เขาพาลเธอแล้ว
ฟังให้จบก่อนดิ่ วู้ ใจร้อน เราชอบทิมเพราะทิมกล้าหาญชาญชัยกว่าหญิงอื่น มาปีนภูคนเดียวโดยไม่ห่วงสวัสดิภาพของตัวเอง และยังยอมเดินร่วมทางกับชายหนุ่มรูปงามที่ทิมไม่เคยรู้จักมักจี่มาก่อน นี่ถ้าเป็นชายอื่นล่ะก็แม่ทับทิมเอ๋ย เธออาจจะไม่รอดไอ้ตะเข้กลัดมันบนภูนี่ก็ได้ ทับทิมยังเงียบเฉย
เป็นน้องเป็นนุ่งพ่อจะจับมัดกับเสาบ้านไม่ให้ไปไหนสักสามวันเจ็ดวัน
พูดพอหรือยัง ทับทิมเสียงดังจนเขาหุบปากสนิทไม่ปริปากพูดอะไรอีกเลยสักคำเดียว
ไม่โดดผานกแอ่นตายก็บุญแล้ว เธอบ่นอุบอิบในลำคอ
ต๊าย ยัยโง่ ลองแม่โดดสิพ่อจะได้แช่งไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเลยเทียว กะอีแค่อกหักแล้วจะตายเนี่ยสุดจะโง่เลยแม่คุณ อยากตายแล้วแถขึ้นมาทำไมถึงบนภู ยืนขวางถนนให้รถเหยียบตายมิง่ายกว่าเรอะ แล้วท่อนฟืนก็ลอยปะทะกับหน้าผากอย่างแม่นยำ ชายหนุ่มเอามือกุมหน้าผากเลือดไหลหยดตามง่ามมือ
ตายละ หัวแตก ทับทิมทำอะไรไม่ถูก
ผ้าสะอาดๆ ไปหามา เขาตวาด ทับทิมตกใจรีบคว้าผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ตากอยู่มาให้เขาปิดแผล
มียาในย่าม เขาชี้มือเข้าไปในเต็นท์นอนของตัวเอง ทับทิมกุลีกุจอหายา จัดการทาให้เสร็จและปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ยา
อย่างนี้หรือเปล่าคนรักของเราถึงได้มีคนอื่น ทับทิมเงียบ นิสัยใจร้อนวู่วามของเธอเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้พิสาระอา เขาอาจจะทนจนหมดความอดทนแล้วก็ได้ หรืออีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่ได้รักเธอเลยแม้สักนิดเดียว ทับทิมเป็นเพียงหนึ่งในผู้หญิงหลายคนที่พิสาบอกว่า เป็นคนรัก เธอถอนหายใจ
ขอโทษนะทิมถ้ามันทำให้ทิมไม่สบายใจ เราแค่อยากให้ทิมคิดอะไรให้กว้างๆ ชีวิตคนเราเกิดหนเดียวตายหนเดียวก็จริงแต่ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ก็ควรทำตัวให้มีค่า ในโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่ทิมยังไม่เคยพบเจอ ยังมีอีกตั้งมากมายหลายอย่างให้ค้นหาและเรียนรู้ ทำไมปล่อยให้ชีวิตจมอยู่กับเพียงบางสิ่งที่มันทำให้ทิมต้องเป็น ทุกข์ด้วยล่ะ ภูวาพูดจบเขาเองยังงง เพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดเข้าท่า
ไปนอนไป คำพูดที่เขาเคยใช้กับเธอตอนนี้เธอยืมมาใช้บ้าง อย่างเด็กว่าง่าย ภูวาคลานเข้าเต็นท์เงียบเชียบ
จากคุณ :
ดาริกามณี
- [
31 ม.ค. 51 16:19:09
]