ความขัดแย้งที่งดงาม
ขับรถบนทางหลวงสายเพชรเกษม ผ่านสองข้างทางถนนเพชรเกษม สายจะเข้าเมืองกรุง (ช่วงนครปฐม-กรุงเทพฯ)
เห็นต้นไม้สองต้นเป็นพุ่มงดงามอยู่เคียงกัน
ต้นหนึ่งสีเขียวสด สีของใบออกเหลืองทองเล็กน้อย คือไทรทอง แน่ ๆ จำชื่อได้
อีกต้นที่เคียงกัน สีของใบเป็นสีเขียวแบบเขียวใบไม้แท้ ๆ เขียวเข้ม ใบดูแข็งแรง รูปทรงใบเดียวกัน น่าจะเป็นต้นไทรเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าชื่อเฉพาะพันธ์อะไร ใบเจ้าจึงเขียวแก่ก่ำ ขนาดนี้
มองผาดเดียว สะดุดตายิ่งนัก..เนื่องด้วยสีสันตัดกันฉับ กลางแสงแดดแผดจ้า เวลาเจ้าทั้งสองอยู่เคียงกันแล้วงดงามนัก ดูเหมือนคนรักกัน ยืนต้นเคียงกัน แปลกตา จับตาไปจนจับใจ
เมื่อนั่งรถไปถึงชานเมืองกรุงเทพฯ ก่อนจะเข้าถึงตัวเมืองที่จอแจ ฉันแลกที่จากการเป็นคนขับไปเป็นผู้โดยสาร ใช่แล้วค่ะ หลังจากขับรถเป็นมานานแสนนาน หลังจากสะดวกสบายกับการมีสารถีประจำตำแหน่ง จนสารถีประจำตำแหน่งขบถ..เพราะตัวสารถีคนที่ว่า ตำแหน่งใหญ่โตขึ้น มีสารถีประจำตำแหน่ง(กับเค้าด้วย) เดี๋ยวนี้จึงหยิ่ง....ไม่(ค่อย)ยอมขับบริการเรา ขอปลดระวางว่างั้นเถอะ
เมื่อกี้ ค้างไว้ว่า..หลังจากขับรถเป็นมานานแสนนาน บัดนี้ฉันเริ่มคิดที่จะหัดขับเข้า-ออก เมืองกรุง ให้เป็น ..เอาแค่เป็นก่อน ไม่ต้องเก่ง..จำทางให้ได้ จำจุดที่ควรจะเริ่มเบี่ยง จำจุดที่จะเริ่มเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทาง...จำสิ่งที่ต้องจำว่า บางเส้นทางถ้าเราเลือกขับไปแล้ว จะวกหรือยูเทอร์นกลับไม่ได้ ถ้าขับเลยหรือเลือกทางผิดไป...เราจะต้องตรงไปอย่างเดียว อีกไกล
จุดหมายในกรุงเทพฯ คือวัดชนะสงคราม
ใช่ครูสอนขับรถของฉันบอกว่าเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการคิดการใหญ่ของฉันครั้งนี้
และฉันแอบตั้งใจไว้ด้วยว่า เปลี่ยนตัวเราเองเสียที เลิกกลัวการขับรถ เลิกรอคนอื่น เลิก...อีกหลายต่อหลายเลิก...ตีกลองลั่นฆ้อง ประกาศสงครามหน่อยก็คงจะดี
หลังจากกราบพระในพระอุโบสถ มีเวลาเดินเที่ยว และถ่ายรูป..ได้มุมสวย ๆ ของท้องฟ้าพอสมควร มากด ๆ ดู เตะตาเตะใจเข้ากับภาพ ๆ หนึ่งคือ ภาพยอดของวิหาร วิหารหนึ่งของ พระอุโบสถ มีสองยอดที่ดูเด่นที่ ยอดสองยอดนั้น ชี้ปลายสุดของยอดแหลม(น่าจะเรียกว่า..ช่อฟ้า..)ไปคนละทิศ..ตรงข้ามกัน และฉากหลังมีท้องฟ้าสีฟ้าอ่อน ปนเปกับเทา ชมพู ส้มทองของฟ้าเวลาใกล้ตะวันกล่าวอำลา ภาพนี้สวยมาก ๆ
หากสิ่งที่จับจิตจับใจฉันนั้น ไม่ใช่ที่ความสวยงามของภาพเพียงอย่างเดียว เป็นเพราะความหมายที่ภาพนี้ชักจูงนำพาให้ฉันคิดไปถึง...ความขัดแย้ง หรือความคิดเห็นบางความคิดเห็นที่ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน....เหมือนต้นไทรสองต้นแรกที่ฉันขับผ่านแม้เพียงแว่บเดียว จากข้างถนนสายทางหลวง ในช่วงแรกที่ออกเดินทาง ต้นหนึ่งเหลืองทองทั้งต้น อีกต้นเขียวแก่ทั้งต้น แต่ทั้งสองต้นยืนต้นอยู่เคียงกัน ราวตระกองกอดกันก็ไม่ปาน..ดูสวย สงบ มีความสุข พาให้ผู้พบเห็นอย่างฉันเพียงแว่บเดียว ถูกกระตุกใจ และความคิดสะดุด....
ทำไมเรา..เช่นคู่รัก เพื่อนรัก เพื่อนร่วมงาน พี่น้อง พ่อ แม่ และลูก ฯลฯ จะต้องมีความคิดเหมือนกันทุกอย่าง หรือไม่จำเป็น
ความคิด ความชอบ ความเกลียด ความคิดเห็น ของเรา ๆทั้งหลายอาจจะคิดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เราอาจจะมีความคิดแปลกแยกออกไป ฉีกแนว
ทำไมเราจะต้องการ การยอมรับจากคนรอบ ๆ ข้างด้วย
ทำไมเราจึงระมัดระวังกลัวว่าคนอื่นเขาจะตีความหมายของเราผิดไปจากที่เราคิดไว้
ทำไมเราจะต้องนับถือคน ศาสนา นิยมชมชอบพรรคการเมือง ฯลฯ ใกล้เคียงกัน
เราถึงจะเป็นพวกเดียวกันได้..อย่างนั้นหรือ
ความชอบที่ไม่เหมือนกันนัก เลื่อนขึ้นไปจนอาจ ชอบต่างกัน
ฉันขับรถเวียนซ้ายองค์พระปฐมเจดีย์เป็นประจำ
เธอขับรถเวียนขวาองค์พระฯทุกครั้ง
แต่เราก็กลับมาบ้านหลังเดียวกันเพราะทางเป็นวงเวียน คล้ายวงกลม วนมาบรรจบกัน
ฉันขับรถไม่เก่ง
เธอต้องเป็นคนขับให้มาโดยตลอด
เห็นไหมว่าแล้วพอถึงเวลา..ฉันก็ขวนขวายขับจนได้
ขึ้นต้นไม่เหมือนกัน..
แต่สุดท้ายก็เบนมาใกล้กัน
ความขัดแย้งอาจมีน้อย ๆ เห็นไม่ชัด จนมากขนาดเห็นได้แม้ระยะทางไกล ๆ
แต่เราก็อยู่รวมกันได้
เหมือน ไทรทองเมื่อเคียงคู่อยู่กับไทรเขียวเข้ม
เหมือน ยอดช่อฟ้าของวิหาร(ส่วนหนึ่งของพระอุโบสถ วัดชนะสงคราม) ที่ดูสง่า ขรึม ขลัง มลังเมลือง งดงามยามทาบทาไปกับท้องฟ้า คราใกล้ตะวันลับลา
กลับชี้ยอดอันสวยงามไปคนละทิศทางกัน
หากเมื่อถ่ายภาพมา..สวยจับใจ
โลกสร้างมา ความเหมือน ความต่าง ความมืด ความสว่าง ...ทุกสิ่งอยู่รวมกันได้
เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ในโลกนี้
....ความขัดแย้งที่งดงาม....
จากคุณ :
บังอร-บังเอิญ
- [
2 ก.พ. 51 19:12:19
]