...
ริมน้ำซอง
เทือกเขาหินปูนทอดยาว
พระอาทิตย์ดวงโต..แก้มแดง
คล้อยเคลื่อนเลื่อนต่ำลงหลังเขา
เงาสะท้อนในน้ำ...งดงาม
...........................................
1.
ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้ง
วังเวียง
มาคนเดียว จะมากับใครได้ในเมื่อเพื่อนตัวดีมีนัดกับหวานใจ ส่วนพี่สาวคนสวยก็ไม่ต่างกัน
มองไปทางไหนเจอแต่คู่รัก เซ็ง! อันที่จริงจะโทษพี่โทษเพื่อนก็คงไม่ได้ ช่วงเวลานี้ใครต่อใครก็อยากอยู่ใกล้แก้วตาหวานใจทั้งนั้นเดือนกุมภาพันธ์ วาเลนไทน์แล้วคนว่างเปล่าอย่างฉันจะอยู่เงียบเหงาเฝ้าห้องทำไม
ลาพักร้อน เขียนโน้ตทิ้งไว้
และออกเดินทางเดินทาง เพียงลำพัง
วังเวียง สปป.ลาว ที่ที่คุ้นเคย
ที่เงียบสงบงาม อาจช่วยให้เจ้าวายร้ายที่มีชื่อว่า เหงา จากไป
เก้าอี้ไม้
ระเบียงไม้
คนแปลกหน้า
อากาศค่อนข้างเย็น
พระอาทิตย์ดวงโต แก้มแดง
กำลังเคลื่อนตัวลงช้าๆลับหลังเขา
ทิ้งประกายส้มเรื่อเรืองให้อาลัยอาวรณ์
สะพานไม้สำหรับข้ามฟาก ยังคงงดงามและคลาสสิก
พรุ่งนี้เถอะนะจะข้ามไปทักทายมิสเตอร์โจและวรรณ
ชาอุ่นๆในแก้วช่วยให้มืออุ่นขึ้น
ส่วนใจ
.ช่างมันเถอะนะ
2.
เก้าอี้ไม้ตัวเดิม มุมเดิม
กาแฟร้อน ขนมปัง อาหารเช้าง่ายๆ
ชาวบ้านหลายคน นักท่องเที่ยวหลายคน เดินข้ามสะพานไม้
สะพานไม้ที่มีด่านเก็บเงินอยู่ตรงกลางแม่น้ำ
บางคนเลือกที่จะเดินลุยน้ำ ช่วงนี้ลำน้ำตื้นเขินคนขายาวก็คงเดินได้ง่ายๆ
น่าเห็นใจเหมือนกัน ถ้าต้องข้ามกลับไปกลับมาหลายเที่ยวก็ต้องเสียตังหลายกีบ
ข้ามไปอีกฟากฝั่งของแม่น้ำเพื่อไปเยี่ยมโจและวรรณ
ยอมเสียเงินสองพันกีบเพื่อข้ามสะพานไม้ ไม่สิ สี่พันต่างหาก ไป-กลับโจและวรรณถามถึงเขา
คงสบายดี คิดว่าเขาคงสบายดี คงตอบมากกว่านี้ไม่ได้เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าหลังจากเลิกคบกัน
เขา จะเป็นยังไง
อยู่คุยกับโจและวรรณเล่นกับเมลินน้อยที่เริ่มโต
เป็นสาวน้อย
เกสเฮ้าส์ของโจมีแขกพักเต็ม แต่ทั้งคู่ยินดีจะจัดห้องพักที่บ้านให้แต่ฉันปฏิเสธ เกรงใจ
แวะทักบุญแทน พ่อค้า อืม
หรือแม่ค้านะ
บุญแทนเจ้าของร้านอาหารเล็กๆที่อยู่ตรงข้ามเกสเฮ้าส์ของโจ
เธอ เอ่อ! เขา ดีใจที่เจอฉัน เราคุยกันด้วยเรื่องราวเก่าๆ มิตรภาพระหว่างเรายังอยู่ดี
โคล่า ราคาต้นทุน นั่นก็มากมายแล้วสำหรับน้ำจิตน้ำใจ
3.
เก้าอี้ไม้ตัวเดิมถูกจับจองโดยผู้ชายคนหนึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังวาดรูป
ฉันเลือกนั่งโต๊ะใกล้ๆเขาเยื้องมาด้านหลังอยากเห็นรูปที่เขากำลังวาด
เขาเงยหน้าขึ้นมองตอนที่ฉันเลื่อนเก้าอี้เสียงดัง
ขอโทษค่ะ
เอ๊ะ!
เขาเองก็ชะงักไปเป็นครู่ ก่อนจะยิ้มให้ คุณน่ะเอง
มาคนเดียวเหรอคะ
ครับ แล้วคุณ
ฉันพยักหน้า มาคนเดียวเหมือนกัน นั่งด้วยได้มั้ยคะ รบกวนหรือเปล่า
เชิญครับ ผมกำลังจะหยุด วันนี้แค่ร่างไว้ก่อนพรุ่งนี้จะลงสี
ฉันเลื่อนเก้าอี้เก็บ แล้วไปเลื่อนตัวใหม่ที่โต๊ะของเขา
เลิกวาดดอกกุหลาบแล้วเหรอคะ
เขาคืออาจารย์สอนวาดรูปที่พี่สาวเคยเรียนด้วย
จำได้ว่าตอนที่ตามไปดูพี่เรียนวาดรูป เขาให้ลูกศิษย์วาดกุหลาบ
ยังจำได้ว่าวันนั้นเขาแย่งกุหลาบและคัดเตอร์ไปจากฉันตอนที่ฉันอาสาจะจัดแจกันให้
ผมจัดเองดีกว่า คงเป็นเพราะท่าทางเก้งก้างทำให้เขาเกะกะตา
ตามไปดูสองสามครั้ง ทุกครั้งเขาให้วาด ดอกกุหลาบ
จนฉันอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเขาวาดอย่างอื่นเป็นหรือเปล่า
เสียงหัวเราะเบาๆของเขาทำให้ฉันอดที่จะหัวเราะด้วยไม่ได้
คุณคงคิดว่าผมวาดเป็นแต่ดอกกุหลาบกระมัง
เขาเก็บอุปกรณ์วาดรูปใส่กระเป๋าหนังใบโต
พักที่ไหนคะ
ที่นี่ คุณล่ะ
อาหารที่เราสั่ง อาหารจานเดียวง่ายๆมาถึงพอดี
ขอบใจ
ขอบใจ
แม่หญิงที่เสริฟยิ้มรับ ยินดี
พักที่นี่แหละ บ้านแฝดห้องที่3 ฉันหยุดก่อนทำหน้าประหลาดใจก่อนพูดต่อ
อย่าบอกนะว่าคุณพักห้องข้างๆ เพราะเมื่อวานห้องนั้นว่าง
เสียใจจริงๆที่ต้องบอกว่าใช่ ผมพักห้องที่4 ติดคุณ เขาว่ายิ้มๆ
ก็ดี ฉันยิ้มนิดๆยักไหล่น้อยๆ
อะไรที่ว่าก็ดี
ก็ดีก็คือก็ดี คุณจะให้เป็นอะไรได้ล่ะ
เขามองหน้าฉันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่พูด
บทสนทนาระหว่างอาหารจึงกลายเป็นบทสนทนาที่ไม่มีเสียง
เราทานกันเงียบๆ นั่งมองเทือกเขาหินปูนที่พร่าเลือนเพราะไอหมอกและความมืด
หลังอาหารค่ำ
เราเดินกลับห้องด้วยกัน มันช่วยไม่ได้จริงๆที่ต้องเป็นแบบนั้น
ช่วยถือมั้ยคะ
ฉันเอื้อมมือไปหวังจะช่วยถือขาตั้งสำหรับวาดรูป
ไม่เป็นไรขอบคุณ ผมถือเองได้
เก็บมือกอดอกไว้เดินเยื้องจากเขาเล็กน้อย
ถึงห้องพัก ไม่มีคำราตรีสวัสดิ์ระหว่างคนเคยพบกันสองคน
ฉันแค่มองเขา และเขาก็แค่มองฉัน ยิ้มให้กันนิดหน่อยก่อนจะเปิดเข้าห้องใครห้องมัน
..
4.
เสียงกุกกักดังจากห้องข้างๆ เสียงเปิดและปิดประตูเบาๆ
เอื้อมมือคว้านาฬิกามาดู หกโมง อืม
หนาวจัง
นอนฟังเสียงห้องข้างๆ มีเพียงเสียงของความเงียบตะโกนตอบ
ลุกขึ้นเปิดประตู สายลมเย็นๆพัดเอื่อยปะทะใบหน้า กลับไปเอาผ้าห่มมาคลุมตัว
กอดตัวเองไว้บนเก้าอี้สีขาวหน้าห้อง เฝ้ามองไอน้ำและสายหมอก ที่ลอยล่องจากแม่น้ำและขุนเขา
มีชาวบ้านตักน้ำในแม่น้ำขึ้นมารดผักที่ปลูกไว้บนตลิ่งริมน้ำ บ้างเหวี่ยงแหหาปลา บ้างจูงจักรยานข้ามสะพาน
เช้าๆอย่างนี้มีแต่ชาวบ้านร้านถิ่น นักท่องเที่ยว คนผ่านทางยังคงเก็บตัวนิ่งในห้องพัก
หอมกลิ่นผักชีจากสวนข้างๆ
กล้องดิจิตอลเล็กๆถูกนำมาบันทึก ความงดงาม
ริมน้ำซอง
มองไอน้ำและสายหมอก
ภูเขาเบื้องหน้าค่อยๆปรากฏเรือนร่าง
งดงาม
ห้องแฝดติดกันเงียบสนิท คงไม่อยู่
14 กุมภา วาเลนไทน์สินะวันนี้
จะมีใครคิดถึงกันบ้างมั้ยนะ
วันนี้ทั้งวันอยู่กับเก้าอี้ หนังสือและโปสการ์ด
เดินไปส่งโปสการ์ดที่ไปรษณีย์
พอสาย นักท่องเที่ยวก็ออกมาเดินถนน หลายเชื้อชาติ คู่รักบางคู่เกาะเกี่ยวเหนียวหนึบ บางคู่ก็นัวเนีย
เฮ้อ!ไม่มีเกรงอกเกรงใจเจ้าของบ้านเมืองบ้างเลย เดินผ่านกลุ่มนักท่องเที่ยวหนุ่มสาว คนไทย
ช่วงหลังคนไทยมาเที่ยวที่นี่เยอะ มีเสียงเล่าขานและบอกต่อ วังเวียงฝาแฝดเมืองปาย
ใครที่เคยไปปายก็คงอยากมาเยือนวังเวียง ฝาแฝดน่ะรึ อืม! แฝดคนละฝา แต่เหมือนกัน
ความเปลี่ยนแปลงก็เหมือนกัน ความเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์จริงๆ
เย็นนี้
ดูเหมือนว่าร้านอาหารริมน้ำซองจะเต็มไปด้วยผู้คน หลากเชื้อชาติ
แขกเยอะกว่าทุกวันนะคะ แวะคุยกับป้าเจ้าของร้านเล็กน้อยก่อนไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม
เฝ้ามองภาพงดงามเบื้องหน้าไม่รู้เบื่อ กล้องดิจิตอลตัวเล็กกดบันทึก
ดูเหมือนว่าวันนี้ร้านดูแปลกตา เทียนไข แจกันสีขาวดอกกุหลาบสีแดง
ดอกกุหลาบ
กำลังจะนึกถึงอยู่แล้วเชียว
เมื่อเก้าอี้อีกตัวถูกใครบางคนเลื่อนดึงออกมานั่ง
ขาตั้ง แผ่นภาพ สีน้ำ
ฉันมองเขาเตรียมอุปกรณ์ เริ่มลงสี มือเรียวยาวแต้มสีนั่น เติมสีนี่
นักท่องเที่ยวบางคนเดินมาดูรูปที่เขากำลังลงสี
เขาทำงานของเขาเงียบๆ ฉันนั่งเงียบๆมองภาพข้างหน้า
จวบจนความมืดเข้าครอบคลุม เทียนไขถูกจุด ดินเนอร์กับคนเคยพบใต้แสงเทียน
ระหว่างเรามีเสียงของความเงียบ
เราแทบไม่รู้จักกัน ความจริงคือเราไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ การที่เคยพบกันสามครั้ง ใช่ๆสามครั้ง
ไม่ได้แปลว่าเรารู้จักกัน วันนี้คนไม่รู้จักกัน ดินเนอร์ด้วยกันใต้แสงเทียน ในคืนวาเลนไทน์
ฉันยิ้มกับตัวเอง จู่ๆก็ขำ
เขามองหน้า
คุณเชื่อโคเปอร์นิคัส ที่บอกว่าโลกกลมมั้ย เพราะโลกกลมเราเลยมาเจอกัน
ที่นี่
ผมนึกว่าอริสโตเติลเป็นคนบอกว่าโลกกลม
นั่นก็ใช่แต่โคเปอร์นิคัสต่างหากที่บอกว่าโลกกลมและบอกว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ส่วนอริสโตเติลบอกว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล แต่เขาก็บอกว่าโลกกลมเหมือนกัน ฉันรื้อฟื้นความรู้เก่า
กาลิเลโอ ก็เชื่ออย่างอย่างนั้น และฉันก็คล้อยตามกาลิเลโอนะที่เขาว่ากฎต่าง ๆ ในธรรมชาติน่าจะเป็นอะไรที่สวยงามและเรียบง่าย
นี่อะไร แค่เรามาเจอกันโดยบังเอิญถึงกับยกทฤษฎีโลกกลมมาพูด
เขาหัวเราะ ผมเชื่อเรื่องโลกกลมและเอ่อ..คล้อยตามกาลิเลโอที่บอกว่าอะไรนะ
ธรรมชาติสวยงามและเรียบง่าย และ
ผมเชื่อเรื่องโชคชะตา ที่นำเรามาเจอกัน
อีก
ถึงคราวที่ฉันนั่งอึ้งเพราะทฤษฎี โชคชะตา
ฉันจะกลับพรุ่งนี้ คุณล่ะ เห็นว่าเคยรู้จักหรอกนะถึงบอก
ผมจะไปหลวงพระบางต่อ
พรุ่งนี้
คำตอบของเขาทำเอาฉันอยากลาพักร้อนต่อ คิดถึงหลวงพระบางขึ้นมาทันทีทีเดียวเชียว
เดินกลับห้องพักด้วยกันเงียบๆ
กลับจากหลวงพระบางเมื่อไหร่ ผมอยากพบคุณอีกจะได้มั้ย เขาว่า
ฉันค่อยๆหันกลับไปมองสบตาเขา
คุณคงต้องไปตรวจสอบทฤษฎีโชคชะตาว่า จะนำพาให้เราพบกันได้อีกมั้ย ฉันว่ายิ้มๆ
ผมเชื่อเรื่องโชคชะตา เขาว่า
คืนนี้
ไม่มีคำราตรีสวัสดิ์ระหว่างคนเคยพบกันสองคน
ฉันแค่มองเขา และเขาก็แค่มองฉัน ยิ้มให้กันนิดหน่อยก่อนจะเปิดเข้าห้องใครห้องมัน
ฉันเชื่อเรื่องโลกกลมและ
โชคชะตา
..
..
จากคุณ :
สิงห์อมบ๊วย
- [
6 ก.พ. 51 08:48:49
]