Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    [เรื่องแปล] ราชาแห่งราชัน เล่ม 3 สงครามอัศวิน ตอนที่ 7 แรกเผชิญอัศวิน

    เล่ม 1 - เล่ม 3 ตอนที่ 6

    http://my.dek-d.com/linmou/story/view.php?id=279158




    ตอนที่ ๗

    แรกเผชิญอัศวิน



    เทพมังกรผู้มอบอาชีพปรากฏกายอีกครั้ง พวกเฮยโถวทั้ง ๖ มีท่าทีเกร็งเขม็งเตรียมพร้อมรับศึก ทำให้เฉินเฟิงอดนึกถึงวิหารจันทราเทพไม่ได้ ตอนที่เขาได้อาชีพ เธอก็ทำท่าแบบนี้เหมือนกัน

    ความจริงไม่ว่าใครได้เห็นเทพมังกรผู้มอบอาชีพเป็นครั้งแรก ก็น่าจะมีปฏิกิริยาเหมือนกันทั้งนั้นจริงไหม ?

    เพียงแต่ครั้งนี้เป้าหมายของเทพมังกรผู้มอบอาชีพไม่น่าจะเป็นเฉินเฟิง เพราะเสียงแจ้งจากระบบเพิ่งจะจบเมื่อกี้นี้เอง การต่อสู้ครั้งนี้ ทักษะสังหารด้วยโทสะของเขาได้เลื่อนขึ้น ๑ ระดับ ครบ ๑๐ ระดับพอดี และมีทักษะย่อยแบบถูกกระทำที่ชื่อว่า “โจมตีอย่างบ้าคลั่ง” โผล่มา นอกจากนี้ทักษะเลือดฐาน , เสียสละ , อาวุธหนัก , ขี่ม้า , บุกโจมตี , บุกทะลวง , บัญชาการ , สื่อสาร เลื่อนขึ้นอย่างละ ๑ ระดับ

    ได้เลื่อนระดับทักษะเป็นกองพะเนินก็จริงอยู่ แต่ก็ยังไม่บรรลุเงื่อนไขในการได้อาชีพ

    ระหว่างที่กำลังเดาว่าในคนทั้ง ๖ ใครที่บรรลุเงื่อนไขในการได้อาชีพ เทพมังกรก็ไปมาดุจสายลม ปล่อยลำแสงสีดำออกจากปากโดยที่ทั้ง ๖ ต่างยังไม่ทันตั้งตัว ตำแหน่งที่ลำแสงสีดำสาดใส่ได้เฉลยคำตอบออกมาเป็นที่เรียบร้อย นั่นคือเฮยโถวที่เข้ามาเล่นเกมราชาฯก่อนใครเพื่อน

    คนทั้ง ๕ ต่างร้องอุทานอย่างตื่นตระหนกขึ้นพร้อมกัน เฉินเฟิงยิ้มบางๆ พลางยืนทำหน้าอมภูมิอยู่ด้านหน้าคนทั้ง ๕  ปิศาจหลิวร้อนใจจนเต้นเหยงๆ เหมือนมดบนกระทะ คว้าเฉินเฟิงหมับพลางร้องว่า

    “พี่เฟิง ยังจะยิ้มอยู่ได้ เฮยโถว...เฮยโถวถูกงูยักษ์อะไรก็ไม่รู้นั่นดูดไปแล้ว พี่รีบหาทางช่วยเขาหน่อยสิ !”

    พอเฉินเฟิงได้ยินเข้าก็ยิ่งหัวเราะก๊าก ฉวยโอกาสแกล้งแซวว่า

    “ทำไมน้องปิศาจหลิวถึงเป็นห่วงเฮยโถวมากขนาดนี้กันล่ะเนี่ย ? ปกติเห็นชอบแว้ดๆ ใส่เขาออกจะตาย ไหงตอนนี้ดันออกอาการเป็นทุกข์เป็นร้อนมากกว่าใครเลยล่ะ ?”

    ปรากฏว่าปิศาจหลิวไม่ยักอายม้วนอย่างที่เห็นเป็นประจำ ถึงแม้หน้าจะแดงเรื่อ แต่สองตาวาววับถลึงจ้องเฉินเฟิงเขม็ง สองมือกำแน่นจนสั่นน้อยๆ เฉินเฟิงรีบพูดต่อทันควันก่อนที่เธอจะระเบิด

    “วางใจเถอะ ! เฮยโถวไม่แค่ไม่เป็นอะไรเท่านั้น อีกเดี๋ยวพวกเรายังต้องแสดงความยินดีกับเขาด้วยซ้ำ”

    “โอ๊ะ !” เจี๋ยเต๋ออุทานอย่างตกตะลึง “พี่เฟิง หรือว่า...หรือว่าเมื่อกี้คือเทพมังกรผู้มอบอาชีพ ?”

    เข้าออกเรือนอย่างปลอดภัยและอู่ชิวเฟิงทำหน้าเหมือนพอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว และต่างรอคอยคำตอบจากเฉินเฟิง

    เฉินเฟิงพยักหน้า “อืมม์ ถูกแล้วครับ ! ประเดี๋ยวพอกลับไปถึงเมือง ต้องให้เฮยโถวเป็นเจ้ามือเลี้ยงฉลองกันสักมื้อแล้วล่ะ แต่ต้องรออีกประมาณสัก ๑๐ นาทีเฮยโถวถึงจะกลับมา ทุกคนมาช่วยผมเก็บก้อนแร่กับของที่ได้กันก่อนเถอะ ถ้าไม่เก็บเดี๋ยวมันจะหายไปนะ”


    <>::<>::<>


    เหรียญเงิน ๒,๐๐๐ กว่าเหรียญ ม้วนคาถา ๑๐ กว่าม้วน ก้อนอัญมณีและก้อนโลหะ ๑๐ กว่าก้อน สนับมือ ๑ ปลอก และแหวนอีก ๑ วง

    หลังจากปลดผนึก ในม้วนคาถาทั้งหมดมีม้วนคาถาธาตุสายฟ้า ๒ ม้วน สนับมือคือสนับมือเหล็กกล้าแห่งผู้อารักขา ไอเท็มอาวุธประเภทอาวุธสำหรับสู้ประชิดตัว ชั้นสูง ระดับที่ ๗ พลังโจมตี ๓๐๐ จุด คุณสมบัติเสริมเพิ่มระดับทักษะวิชาหมัด ๑๐% พลังป้องกันต่างหาก ๒๐๐ จุด ส่วนแหวนเป็นแหวนป้องกันธาตุสายฟ้า มีคุณสมบัติช่วยลดพลังโจมตีจากเวทมนตร์ธาตุสายฟ้าได้ ๑๕% และเป็นเหมือนกับแหวนทุกวงที่เคยได้มาก่อนหน้านี้ นั่นคือเป็นไอเท็มประเภทเครื่องประดับ ชั้นกลาง ระดับที่ ๔

    เฉินเฟิงมองข้อมูลของสนับมืออย่างตกตะลึง นี่เป็นอาวุธระดับสูงที่สุดที่เขาเคยได้มาในตอนนี้เลยทีเดียว แม้คนทั้ง ๕ จะดีใจเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้กระตือรือร้นมากอย่างที่คิด แถมยังพากันบ่นว่าเวลาผ่านไปช้าจริงๆ ทำไมเฮยโถวถึงไปนานจัง

    ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะแบ่งของที่ได้กันยังไงดี แสงสว่างเจิดจ้าก็พาเฮยโถวกลับมา ทั้ง ๕ ต่างทิ้งไอเท็มทั้งหมดเอาไว้ให้เฉินเฟิงทันที แล้วฮือกันเข้าไปล้อมเฮยโถวถามโน่นถามนี่เป็นการใหญ่

    เฉินเฟิงเห็นไม่มีที่ให้เขาสอดปาก บวกกับเห็นท่าทางไม่สู้จะใส่ใจเรื่องแบ่งไอเท็มของทุกคน จึงหันไปเหม่อมองเศษอานม้าที่เจี๋ยเต๋อพยายามรวบรวมมาให้

    ร่างกายของเฮยโถวโตขึ้นกว่าเดิมหนึ่งขนาดอย่างเห็นได้ชัด ในมือถือขวานยักษ์สองคมติดมาด้วย ทั้ง ๕ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนอกสนใจ แถมยังลูบๆ คลำๆ จนหน้าดำๆ ของเฮยโถวแดงแป๊ดเห็นถนัดชัดเจน

    กว่าเฮยโถวจะตอบคำถามเรื่องของเทพมังกรผู้มอบอาชีพที่ทั้ง ๕ ระดมถามจบ ก็ทำเอาแทบแย่ จากนั้นทั้ง ๖ ถึงค่อยสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเฉินเฟิง

    เจี๋ยเต๋อสันนิษฐานว่าเฉินเฟิงคงเสียดายอานม้านั้น เพราะตอนที่เขาเอาเศษอานม้าไปให้ เห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงผูกพันกับอานม้านั้นเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ทั้ง ๖ จึงพากันเข้ามาปลอบใจเฉินเฟิง

    ปิศาจหลิวแซวว่า “พี่เฟิง เป็นอะไรไปคะ ? หรืออานม้าสีขาวนี้สาวที่ไหนให้พี่มา ? ถึงได้ทำท่าเสียดายออกขนาดนี้ !” ล้างแค้นกันเห็นๆ...แม้ปิศาจหลิวจะนึกเป็นห่วงท่าทางของเฉินเฟิงอยู่เหมือนกัน แต่ก็อดฉวยโอกาสแก้แค้นที่ถูกแซวเมื่อครู่ไม่ได้

    เฮยโถวผู้ตรงไปตรงมาไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น เขารู้แต่ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ถ้าไม่มีเฉินเฟิงอยู่ด้วย ทุกคนมีแต่ต้องเผ่นกันสถานเดียว พอได้ยินปิศาจหลิวพูดแซวปนกัดเฉินเฟิง จึงดุทันทีว่า

    “นี่...น้องหลิวพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน เท่าที่จำได้เครื่องป้องกันของสัตว์เลี้ยงน่ะแพงจะตาย แถมตอนนี้ยังหาซื้อไม่ได้ด้วย กระทั่งจะซ่อมยังไม่มีที่ให้ซ่อมเลย ! ถ้าไม่เพราะพวกเรากระจอกกันเกินไป พี่เฟิงก็คงไม่ต้องเสียอานม้านี้ไปหรอก นี่ถ้าพี่สะใภ้เป็นคนให้มาจริงๆ พวกเราก็มีความผิดแล้วล่ะ”

    ปิศาจหลิวหน้าแดงเรื่อ แลบลิ้นแผล็บ แล้วแก้ตัวเบาๆ

    “ใครใช้ให้เมื่อกี้พี่เฟิงดันมาแกล้งกันก่อนเล่า...”

    เฉินเฟิงงงไปชั่วครู่ ดูท่าหากไม่อธิบายคงได้เข้าไปผิดไปใหญ่โตแน่แล้ว จึงยิ้มเจื่อนๆ พลางพูดว่า

    “ผมไม่ได้เสียดายอานม้านี้ ถึงมันจะแพงเอาเรื่องก็เถอะ แต่ก็เป็นแค่เครื่องป้องกันเท่านั้น อีกอย่าง พี่สะใภ้เอย สาวๆ อะไรกันน่ะ อย่ามาซี้ซั้วเดาเลยน่า เกิดทำผมหาสาวไม่ได้ขึ้นมาล่ะก็ ผมจะโทษพวกคุณจริงๆ นะ !”

    “เป็นไปไม่ได้มั้ง...ให้ตายพวกเราก็ไม่เชื่อหรอกว่าไม่มีใครเอาพี่” เจี๋ยเต๋อว่า “ดูท่าพี่สะใภ้จะเป็นคนให้มาจริงๆ น่ะแหละ ซวยล่ะสิพวกเรา !”

    คิดไม่ถึงว่ายิ่งอธิบายยิ่งเลยเถิดไปกันใหญ่ รอยยิ้มของเฉินเฟิงยิ่งเจื่อนหนักกว่าเดิม ตัดสินใจเลิกพูดเรื่องนี้ และเปลี่ยนเรื่องว่า

    “พวกเธอไม่เชื่อ ผมก็จนปัญหา เรื่องนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ...เฮยโถว ขอแสดงความยินดีด้วยครับ อาชีพนักรบคลั่งหรือ ? ดูแล้วแข็งแกร่งขึ้นเยอะทีเดียว !”

    “ขอบคุณพี่เฟิง อาชีพนักรบคลั่งถูกต้องครับ ความจริงผมอยากจะเป็นนักดาบ แต่แค่ได้อาชีพมาได้ก็ดีใจมากแล้วล่ะ ยังไงก็สายต่อสู้เหมือนกัน คิดดูแล้วก็คงไม่ต่างอะไรกันนักหรอก จริงสิ ได้ยินว่าร้านตีเหล็กที่เมืองมังกรเมฆพอจะซ่อมเครื่องป้องกันบางอย่างได้ ลองเอาอานม้าที่พี่สะใภ้ให้มาไปซ่อมที่นั่นดูสิครับ อาจจะซ่อมได้ก็ได้นะ ! ส่วนค่าซ่อมพวกเรา ๖ คนจะช่วยกันออกให้เอง พี่จะได้ไม่ต้องกังวลอีกไง”

    น่าเสียดายที่ดูเหมือนทุกคนจะโมเมเอาเองว่าเป็นเรื่องจริงไปเสียแล้ว ขนาดขอให้หยุดแค่นี้ไปหยกๆ เฮยโถวดันพูดขึ้นมาอีกแล้ว เฉินเฟิงหมดปัญญาจะอธิบายเอาจริงๆ จึงได้แต่บอกเรื่องกลุ้มใจเมื่อกี้ของตัวเองออกไปตามตรง

    “ก็บอกแล้วว่าไม่ได้มีใครให้มา อานม้านั้นผมใช้ของแลกมาจากพ่อค้าเร่ที่หน้าหุบเขามรณะเมื่อวานซืนนี้ต่างหาก เมื่อกี้ผมกำลังคิดอยู่น่ะว่าจะเพิ่มพลังป้องกันให้ซวงเว่ยยังไงดี ตอนนี้ผมมีสัตว์เลี้ยงมากเกินไป อาศัยแค่ค่าประสบการณ์มันเลื่อนระดับช้าเกินไป ดูเหมือนจะมีชุดเกราะสำหรับให้สัตว์เลี้ยงใช้โดยเฉพาะอยู่ ไม่ทราบว่าที่ไหนถึงจะมีขายครับ ?”

    เจี๋ยเต๋อพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่มีที่ไหนขายครับ ในบอร์ดสนทนาบอกว่าสงสัยต้องรอเปลี่ยนแพทช์ (patch)(1)ครั้งหน้าโน่นแหละถึงจะมีขาย ตอนนี้มีแต่ได้มาจากการฆ่าสัตว์อสูรเท่านั้น เร็วๆ นี้รู้สึกว่าจะมีแนวโน้มออกมามากขึ้นทุกทีด้วย ขอถามอะไรหน่อยนะครับ ดูชุดเครื่องป้องกันของพี่แล้วน่าจะเป็นนินจานะ แล้วทำไมถึงมีสัตว์เลี้ยงมากขนาดนี้ล่ะ ? กระทั่งสัตว์เลี้ยงระดับสูงอย่างมนุษย์หมาป่ายังมีเลย พวกเราเองเจอนักฝึกสัตว์มาก็หลายคน อย่างมากพวกนั้นมีสัตว์เลี้ยงกันแค่คนละ ๑ - ๒ ตัวเท่านั้น แถมระดับของสัตว์เลี้ยงพวกเขาต่ำกว่าระดับของสัตว์เลี้ยงของพี่เฟิงตั้งเยอะด้วย”

    เฉินเฟิงหัวเราะ “หาซื้อไม่ได้หรอกเหรอ ? อย่างนั้นก็น่าเสียดาย ค่อยดูแล้วกันว่าเถ้าแก่ร้านตีเหล็กจะซ่อมให้ได้หรือเปล่า ส่วนเรื่องอาชีพน่ะไม่ต้องไปกังวลมากนักหรอก ผมเองค่อนข้างจะอยากเป็นนักฝึกสัตว์อยู่เหมือนกัน ถึงตอนนี้จะได้อาชีพนินจาแล้วก็เถอะ แต่เรื่องได้อาชีพมันไม่จำกัดหรอกนะว่ามีได้กี่อาชีพ ดังนั้นโอกาสจึงยังมีอยู่ เฮยโถว คุณเองก็ยังเป็นนักดาบได้อยู่นะ...จริงสิ เฮยโถวได้อาชีพแล้ว พวกคุณเองก็น่าจะเกือบได้อาชีพกันแล้วมั้ง ? ทุกคนอยากได้อาชีพอะไรกันบ้างหรือ ? มาช่วยกันวิจัยวิธีฝึกทักษะได้นะ เพราะพูดตามตรง ได้กับยังไม่ได้อาชีพนี่มันต่างกันมากจริงๆ”

    ข่าวสารที่เฉินเฟิงบอกทำเอาทั้ง ๖ เชื่อไม่ลงไปพักใหญ่ หลังจากรุกถามไปหลายรอบถึงค่อยยอมหยุด และยิ่งนึกนับถือความใจกว้างของเฉินเฟิงอย่างหมดหัวใจ

    เนื่องจากมีประสบการณ์มาแล้วหลายครั้ง เฉินเฟิงจึงเริ่มจะชินกับปฏิกิริยาของพวกผู้เล่นตอนที่ได้รู้ข่าวนี้ หลังจากรอจนสติสตังของคนทั้ง ๖ กลับคืนมาเป็นปกติ เขาค่อยถามถึงอาชีพที่แต่ละคนอยากจะเล่นอีกครั้ง

    หยกม่วงพูดขึ้นทันทีว่า “ฉันอยากจะเป็นอัศวินค่ะ แต่ทุกคนบอกให้ฉันเป็นจอมเวทไม่ก็นักบวชกันทั้งนั้น ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย ทำไมผู้หญิงเป็นอัศวินไม่ได้หรือยังไง ? พี่รู้หรือเปล่าคะว่าจะเป็นอัศวินต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง ? ตอนนี้รู้แล้วว่ามีอาชีพได้มากกว่า ๒ ดังนั้นฉันตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องได้อาชีพอัศวินให้ได้”

    จากคุณ : Linmou - [ 9 ก.พ. 51 06:45:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom