Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    AbGay แผนลับสลับรัก ตอนที่ 12 กระจกที่แตกร้าว

    .

    ตอนที่ 1  ผมอยากเป็นเกย์คร้าบ
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/02/W5113995/W5113995.html

    ตอนที่ 2 อ่างกะปิของเจ้าสัว
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/02/W5117301/W5117301.html

    ตอนที่ 3 ขอโทษ ผมไม่ใช่ผู้ชายขายตัวนะครับ
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/02/W5121851/W5121851.html

    ตอนที่ 4 วิกฤตการณ์กุหลาบเก้า
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/02/W5128007/W5128007.html

    ตอนที่ 5 เสือกับสิงห์
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/02/W5131495/W5131495.html

    ตอนที่ 6 ล่มปากอ่าว
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6191040/W6191040.html

    ตอนที่ 7 คู่รักตัวอย่างแห่งปี
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6201144/W6201144.html

    ตอนที่ 8 สารภาพรัก
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6216603/W6216603.html

    ตอนที่ 9 รุ่นพ่อ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6224972/W6224972.html

    ตอนที่ 10 กูเกลียดกระเทย!
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6249444/W6249444.html

    ตอนที่ 10 ลักพาตัว
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6317555/W6317555.html


    ..









    คีรีย่อตัวลงเก็บกรอบรูปที่หล่นลงมาจากตู้  กระจกของมันร้าว  แต่ไม่สามารถลบเลือนรอยยิ้มสดใสของผู้คนภายในภาพ  เขายิ้มน้อย ๆ ให้กับกลุ่มเพื่อนในอดีต

    บดินทร์ชำเลืองมองเพื่อนของตนระหว่างที่ทำการเก็บกวาดข้าวของอันถูกรื้อกระจุยกระจาย  ตอนนี้เขาเป็นห่วงสภาพจิตใจของคีรีมากที่สุด  สมัยที่ยังเรียนอยู่ด้วยกันเมื่อพบกับสภาพกดดันคีรีเคยทำเรื่องน่าตกใจมาแล้ว

    “คี..”  เขาเรียกเบา ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นิ่งสายตาจับจ้องมองภาพในมือ

    “กูรู้มืงจะพูดอะไร”  คีรีตอบรับโดยไม่มองหน้า  “กูไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบจากมืงนะตี๋”

    “คือว่า..กู”

    “เราจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก”  คีรีเงยหน้าขึ้น  มุมปากของเขามีรอยยิ้มน้อย ๆ ชวนอบอุ่นใจ  “กูกับมืงเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”

    “ใช่”  เจ้าตี๋รับคำง่าย ๆ  “แต่ว่าเรื่องของไอ้มังกรจะเอาไงดี”

    “ไม่เอาไง  เราคงต้องระวังตัวมากขึ้น  มันมีชนักปักหลังอยู่คงไม่กล้าทำอะไรอีกหรอก  กูเองก็ไม่อยากทำอะไรด้วย  อย่างน้อยมันก็ยังถือว่าเป็นอามืง”

    “อาที่ไหนทำกะหลานอย่างงี้วะ”  เจ้าตี๋บ่นอย่างหัวเสีย  “ถ้ากูไม่กลัวเตี่ยแย่  กูเอาเรื่องมันแน่”

    “พูดถึงเจ้าสัว”  คีรีปรารภ  “กูว่ามืงน่าจะกลับไปดูแลเตี่ยสักหน่อยนะ”

    หนุ่มเชื้อจีนสบตากับเพื่อนของเขาทันทีที่สิ้นสุดประโยค  ดวงตาของเขาเจือแววกังขา

    “คี..มืงอยากให้กูไปจากที่นี่ใช่ไหม”

    คีรีหลบตา  “เปล่า..กูแค่เป็นห่วงเตี่ยมืง”

    “งั้นไปอยู่กับกูได้ไหม..”  แววตาของเขาเว้าวอน  แต่ความหวังมีน้อยเต็มทน  “ได้ไหม?”

    คนฟังหัวเราะเบา ๆ  “ทำไมไม่เอาไปถามคุณมาศวะไอ้ตี๋”

    “กูกำลังถามมืงอยู่”

    อารมณ์สับสนตีรวนปั่นป่วนในอก  มือซึ่งมีเศษแก้วกระจกกรอบรูปกำรวบเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว  หยดสีแดงหยาดลงพื้นช้า ๆ ทีละหยด

    “กู...”  คีรีอาจจะตอบปฏิเสธ  แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น  เขาขยับเข้าใกล้อย่างรวดเร็วและทาบริมฝีปากร้อนลวกลงไปยังเรียวปากของอีกฝ่าย  คีรีตัวแข็งทื่อ  มือของเขากำแน่นกว่าเดิม  สักพักกระแสพายุอารมณ์อันไม่อาจยับยั้งก็ทำให้เขาตอบสนอง  เศษแก้วเปื้อนเลือดตกผล็อยลงกับพื้น  แขนของชายหนุ่มสองคนกระหวัดกอดเกี่ยวลูบไล้ทั่วหลัง  ชั่วระยะที่นานราวกัปกัลป์  ทั้งคู่จูบกันจนลืมหายใจ

    บดินทร์ถอนกายออกมาก่อน  ใบหน้าของเขาเป็นสีแดงจัด  หอบน้อย ๆ จากการพยายามระงับอารมณ์

    “กู..กูไม่ได้เมา  ไม่ได้ถูกยา  มืงเข้าใจใช่มั้ยคี”

    คีรีเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน  ริมฝีปากของเขาบวมช้ำจากการถูกบดขยี้  แววตาเหม่อลอย  แต่เมื่อสติเข้าครองเขาก็พยายามพูดอย่างช้า ๆ ชัด ๆ

    “มืงเป็นเพื่อนที่กูรักที่สุด  กูยอมให้มืงได้ทุกอย่าง  ถ้ามืงอยากมีอะไรกับกู  กูให้ได้  แต่หัวใจ..กูให้คนอื่นไปหมดแล้ว”

    บดินทร์กัดฟันจนกรามนูนเป็นสันบนดวงหน้าเกลี้ยง  เขาหลับตาลงอยู่ครู่หนึ่ง

    “กูขอโทษ..กูไม่น่าทำแบบนี้  มืงก็เป็นเพื่อนที่กูรักมาก  กูรักมืงมากจนไม่รู้..ไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

    คีรีแตะบ่าของเพื่อน  “ไม่เป็นไรนะ”

    “มือมืงเจ็บนี่!”  อีกฝ่ายมองเห็นรอยแผลเหวอะหวะบนฝ่ามือของเขาจนได้  และพยายามจะจับมือของเขามาดูให้ชัด ๆ  แต่คีรีดึงกลับ

    “เฮ้ย  เดี๋ยวกูทำแผลให้”

    “ไม่เป็นไร  ขอไปล้างแผลก่อน”  เจ้าของใบหน้าคมลุกขึ้นแล้วก้าวข้ามกรอบรูปกับเศษแก้วบนพื้นไปที่ห้องน้ำ  เจ้าตี๋เดินตามไปจะเข้าไปช่วยแต่เพื่อนของเขาปิดประตูล๊อกจากข้างใน

    ...เงาในกระจกของห้องน้ำ  ผู้ชายตัวโต ๆ คนหนึ่ง  คนที่เคยเข้มแข็งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น  ผู้ชายคนนั้นทรุดตัวลงนั่งพิงประตูแล้วเริ่มต้นร้องไห้









    มือที่กำลังจะเคาะชะงักค้าง  คีรีเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี  แผลของเขาล้างน้ำเปล่าเรียบร้อยแล้ว  รอยยิ้มน้อย ๆ เจืออยู่บนใบหน้าของหนุ่มหน้าคมเหมือนจะบอกอีกฝ่ายว่าไม่เจ็บเท่าไหร่

    “ส่งมือมา”  คนพูดสีหน้าจริงจัง  แต่คีรีแหย่ด้วยน้ำเสียงทะเล้น

    “เฮ้ย  ไม่ใช่น้องหมานะเว้ยจะได้นั่งลงกระดิกหางแล้วส่งมือให้  เอามานี่ดีกว่าเดี๋ยวกูทำเอง”

    หนุ่มหน้าตี๋ไม่ฟัง  คว้าข้อมือได้ก็ลากคนตัวสูงไปนั่งบนเตียงด้วยกัน  ก็น่าแปลกที่คนดื้ออย่างคีรีกลับยอมให้เจ้าตี๋บังคับเอาได้

    “หงายมือขึ้น”  เจ้าของใบหน้าใสส่งเสียงจุ๊ ๆ เบา ๆ เมื่อเห็นความลึกของบาดแผล  “กูพามืงไปหาหมอดีกว่าว่ะไอ้คี”

    “ไม่เอา  จะทำก็รีบทำ  จะได้เก็บห้องต่อ”

    ลงคุณชายแห่งสกุลมัญจาโรใช้น้ำเสียงนี้  แปลว่าจะไม่มีใครขัดเขาได้เป็นอันขาด  เจ้าตี๋จึงยอมหุบปากแล้วหยิบขาดยากับผ้าพันแผลมาจัดการให้




    คีรียกมือที่มีผ้าพันเสียหน้าเตอะขึ้นมาดูแล้วเบ้หน้า

    “เฮอะ  ไอ้ตี๋  มืงจะทำมัมมี่มือกูหรือไงวะ”

    “บ๊ะ  ก็กูบอกแล้วว่าให้ไปหาหมอ  อีทีนี้มาบ่น”

    รอยยิ้มเล่ห์ร้ายเปล่งรัศมีเกริกไกรจากดวงหน้าคม  “ดีล่ะ  ในเมื่อมือกูหยิบอะไรไม่ถนัด  ดังนั้นมืงจงเป็นเบ๊รับใช้เก็บกวาดห้องนี้แต่เพียงผู้เดียว ฮ่าๆๆๆ”

    บดินทร์เบ้ปาก  แล้วก็ยอมลุกไปจัดการต่อ  ครั้งเมื่อเขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเห็นสีหน้าของเขาแล้ว  เจ้าตี๋ก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก






    ชนนท์ลืมตาในความมืด  เสียงเรไรเสียดปีกดังเข้ามาในหัวจนเขานอนไม่หลับ  ความร้อนรุ่มและตะครั่นตะครอตัวอย่างประหลาดทำให้เขาข่มตาหลับไม่ได้เสียที  ชายหนุ่มเสยผมซึ่งปอยของมันเปียกลู่แนบกับหน้าผากชื้นเหงื่อ  แล้วก้าวลงจากเตียง  เตียงไม้เก่าลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดเหมือนผู้สูงวัยรำพึงถึงความชรา
    ปลายเท้าของชนนท์พาเขาออกมายังระเบียงโล่งบนชั้นสองของตัวบ้าน  ที่ซึ่งแสงจันทร์ฉวยโอกาสอันพ้นสายตามนุษย์  เริงระบำอยู่เหนือพื้นกระเบื้องสีมุก

    ลมยามดึกพัดวูบมาพอคลายความอบอ้าว  ชนนท์ก้าวไปช้า ๆ ท่ามกลางแสงจันทร์  และเงยมองดวงโคมกระจ่างหาวอันล้อมด้วยหมู่ดาวระยิบระยับ

    “พี่นนท์นอนไม่หลับหรือคะ”

    รอยยิ้มอ่อนโยนค่อยคลี่ขยายอยู่บนดวงหน้าเมื่อเขาหันกลับไปและพบน้องสาวยืนกอดอกพิงขอบประตูอยู่ในชุดนอนตัวบาง

    “อากาศมันร้อน”

    “ไม่ใช่ว่าคิดถึงใครบางคนจนนอนไม่หลับหรือคะ”

    อึ้ก...

    ชนนท์กลืนน้ำลายจนแทบจุก

    “มาศอิจฉาคนนั้นจังเลยนะคะ”

    “เรานี่น้า  เดาไปเรื่อย”

    มาลีมาศคลี่ยิ้ม  “แต่ก็เดาถูกไม่ใช่เหรอคะ  เอาเถอะ...ไหน ๆ คืนนี้เราสองพี่น้องก็นอนไม่หลับ  มานั่งกินลมชมดาวกันดีกว่า”

    ชนนท์ถอนหายใจเฮือก  เขาว่าจะไม่คิดถึงไอ้เด็กบ้านั่นแล้ว  แต่เจอน้องสาวก่อกวนเข้าให้  ดวงหน้ายียวนนั้นก็เหมือนจะลอยเข้ามาในหัว

    “แต่ก่อนพี่เคยชวนมาศดูดาวไม่ใช่หรือคะ  พี่นนท์ชอบชี้กลุ่มดาวจระเข้ให้ดู”

    ชนนท์ยิ้มบาง  และชี้ไปยังกลุ่มดาวดังว่า  ถึงดวงจันทร์จะแผดแสงจนแทบกลบแต่ก็ยังพอมองเห็นเค้าราง ๆ อยู่ริมฟ้า

    “สักวาดาวจระเข้ก็เหหก  ศีรษะตกหันหางอยู่กลางหาว..   ตรงหัวมันชี้ไปที่ดาวเหนือ”  เขาเว้นจังหวะ  ดวงตาเป็นประกายสะท้อนแสงดาวจับจ้องมองจุดแสงบนท้องฟ้า  “อยากฟังนิทานเรื่องดาวเหนือมั้ย”

    หญิงสาวเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวเมื่อมองใบหน้าของพี่ชายจากด้านข้าง  เธอฟังเรื่องนี้มาไม่รู้กี่รอบแล้ว  แต่ก็ยังยินดีที่จะฟังน้ำเสียงชวนฝันนั้นอีกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

    “ดาราคู่ฟ้าราตรี
    คิดเรียมร่วมพี่ภิรมย์สอง
    ยามเจ้าพิศดาวเรืองรอง
    คล้ายครองร่วมฟ้าลาวัณย์
    ไกลพ้นห้วงน้ำชลาลัย
    แสนโยชน์ร้างไร้เกินฝัน
    แม้นสุดทิวเทือกสัตบรรพต์
    ดาวนั้นมิเคลื่อนคล้อยลอยลา

    ครานั้นมนุษย์หนึ่งงมงาย    
    โง่ง่ายเงื่องงมกังขา
    ไหงดาวงาวแดนแงนงา
    มิว่าง่อนแง่นแคลนคลอน
    ผู้นั้นจึ่งไขว่คว้าดาว
    ทุกคราวค่ำลงคอยขอน
    หนุนไม้จ้องดาวคราวตอน
    แย้มแสงรอนรอนริบหรี่
    หวังจ้องจับผิดคิดมาก
    จันทร์ลากดาวเลี่ยงหลบหนี
    เขาจึงเอ่ยเย้ยพาที
    ไยลี้หลบหน้ามิกล้าประจัน
    ดาวเหนือขับแสงแรงร้อย
    ลบรอยข่มแสงโสมสันต์
    วิสัชณากระทาชายโดยพลัน
    เหตุฉันมิเคลื่อนคล้อยลอยลา
    ฉันเปรียบแทนความเชื่อมั่น
    ไม่หวั่นพรั่นจิตคิดกังขา
    ด้วยแรงแห่งรักและศรัทธา
    ฉันจึงคู่ฟ้าราตรี”

    “ดาวเหนือเป็นตัวแทนของความรักมั่นใช่ไหมคะ”  มาลีมาศกระซิบถามแต่เบา เมื่อพี่ชายของหล่อนจบนิทาน

    “ก็ใช่  แต่ว่าสัญลักษณ์ที่ชัดเจนกว่าคือความศรัทธา”  ชนนท์อธิบายช้า ๆ  “ถ้าเราเลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวใครสักคนให้ถึงที่สุด  ก็เท่ากับว่าเรามีดาวเหนือของเราแล้วล่ะ”

    “แล้วพี่นนท์ล่ะคะ..มีดาวเหนือประจำใจแล้วหรือยัง”

    ชายหนุ่มแหงนมองฟ้า  เขาไม่กล้าตอบคำถามของน้องสาว  นั่นสินะ..ใครกันที่จะเป็นดาวเหนือของเขาได้


    ..

    >>>ข้ามไปอ่านต่อที่ คห.4 ครับ  คห.1 โดนดูด

    แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 20:06:09

    จากคุณ : ปฤษณะ - [ 13 ก.พ. 51 19:46:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom