7 กุมภาพันธ์
อีกหนึ่งสัปดาห์ก็จะถึงวันวาเลนไทน์..
ฉันมองปฏิทินอย่างตื่นเต้นนิดๆ ..วาเลนไทน์ปีแรกของฉันในต่างประเทศ.. แถมเป็นประเทศที่ผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายเปิดเผยความรู้สึก ด้วยการมอบช็อคโกแลตให้ผู้ชายเสียด้วย
ช็อคโกแลตสำเร็จรูปอย่างง่ายๆ แบบที่มอบกันตามมารยาทก็มี เอาไว้ให้เพื่อนผู้ชาย หรือคนรู้จักทั่วๆ ไป อันนี้ฉันเตรียมไว้แล้วละ แต่ "ของจริง" ที่จะต้องให้คนที่อยากจะให้จริงๆ นี่สิ..
จะทำยังไงดีนะ..
เขาเป็นรุ่นพี่ร่วมภาควิชาของฉันเอง แต่ไม่ได้อยู่ห้องวิจัยเดียวกันหรอก ถึงอยู่ตึกเดียวกัน ก็คนละชั้น ทำให้ไม่มีโอกาสได้คุยกันจริงๆ จังๆ เสียที นอกจากทักทายกันบ้างตามมารยาท เวลามีงานของภาควิชาที่ต้องเกี่ยวข้องกัน
เขาเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่อาจจะหน้าตาดีหน่อย ตัวสูงเกินมาตรฐานคนเอเชียอยู่สักนิด หากก็พูดน้อยและเงียบขรึมจนน่าเสียดาย-ทุกคนพูดถึงเขาอย่างนั้น
แต่ก็แปลกเหลือเกิน ที่ฉันรู้สึกว่า "ถูกตา" เขาตั้งแต่แรกพบ เพียงแต่ยังหาโอกาสจะพิสูจน์ว่า "ถูกใจ" ด้วยหรือไม่ ยากเต็มทน
เอาน่ะ ไหนๆ ก็วาเลนไทน์ทั้งที เพื่อนชาวญี่ปุ่นของฉันบอกว่า ประเพณีการให้ช็อคโกแลตและสารภาพรักของสาวๆ ในวันนี้ มีไว้เพื่อให้สาวๆ ที่ปกติก็ไม่ค่อยกล้าบอกรักผู้ชายก่อน ได้มีโอกาสทำอะไรอย่างที่ใจอยากบ้าง
เป็นประเพณีที่น่ารักดีนะ ว่าไหม..
ฉันเปิดหนังสือคู่มือทำช็อคโกแลตเล่มใหม่ล่าสุดที่เพิ่งซื้อมา ดูวิธีทำเฟรชครีมช็อคโกแลต ที่สาวๆ นิยมทำในวันวาเลนไทน์ เพราะวิธีทำแสนง่าย แล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว ฉันจะตั้งใจทำให้สุดฝีมือเลยทีเดียว..
ที่จริง.. เขาอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้.. แต่ช่างเถอะ ให้ฉันได้ทำอะไรอย่างที่หัวใจสั่งสักครั้งก็แล้วกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
8 กุมภาพันธ์
เหลืออีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะถึงวันวาเลนไทน์..
ผมมองปฏิทินอย่างกระวนกระวายหน่อยๆ จะว่าไป เมื่อก่อน วันนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมนัก ในเมื่อผมเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ มีชีวิตน่าเบื่ออยู่กับห้องวิจัยในสายวิทยาศาสตร์ ที่ต้องมีแต่การทดลองทั้งวันทั้งคืน ไม่มีเวลาไปใช้ชีวิตโลดโผน ทำความรู้จักกับผู้หญิงที่ไหนสักเท่าไหร่
โดยเฉพาะ สาขาที่ผมทำวิจัยอยู่ ก็มีผู้หญิงน้อยมากเสียด้วยสิ วาเลนไทน์ทุกปีที่ผ่านมาจึงมีแต่ความเงียบเหงา อย่างดี ก็ได้ช็อคโกแลตชิ้นเล็กๆ ตามมารยาทจากเพื่อนร่วมงานสองสามคน
แปลกเหมือนกันที่จู่ๆ ผมก็สะดุดตากับสาวน้อยร่างเล็กผิวสีทราย ชาวต่างชาติ ที่ตอนแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมาจากประเทศอะไร จนมีโอกาสได้คุยกับเธอสั้นๆ เมื่องานเลี้ยงประจำปีของภาควิชานั่นแหละ ผมถึงได้รู้ว่า เธอเป็นคนไทย
ผมอยากจะทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง การเข้าไปคุยกับเธอดื้อๆ คงทำให้เธอตกใจกลัวมากกว่านิยมชมชอบ ดีไม่ดีจะเป็นการมอบประสบการณ์แย่ๆ เกี่ยวกับผู้ชายประเทศนี้ให้เธอโดยไม่ตั้งใจ
แต่ในวันวาเลนไทน์อย่างนี้ ผมค้นคว้ามาจนรู้ว่าในประเทศของเธอ ผู้ชายจะเป็นฝ่ายให้ดอกกุหลาบหรือของขวัญแก่ผู้หญิง ซึ่งผมว่าเป็นประเพณีที่โรแมนติกน่าดูเลย อย่างน้อยผู้ชายขี้อายที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเธอ..อย่างผม ก็จะได้มีโอกาสทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง
ผมอ่านวิธีทำดอกไม้แห้งด้วยซิลิกาเจลจากหนังสืองานฝีมือที่เพิ่งไปซื้อมา ดูไม่ยากเลย แต่มันจะออกมาสวยเหมือนในภาพไหมนะ.. ถึงยังไงผมก็ตั้งใจจะทำสุดฝีมือนั่นแหละ..
ที่จริง.. เธออาจจะมีแฟนแล้วก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะ.. ให้ผมได้ทำอะไรที่ผมอยากทำให้เธอสักครั้ง..ก็พอ..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
9 กุมภาพันธ์
วันนี้ฉันมีเวลาว่างตอนเย็น ก็เลยออกไปหาซื้ออุปกรณ์การทำช็อคโกแลตที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน ฉันเห็นเขาด้อมๆ มองๆ อยู่ที่หน้าร้านดอกไม้ตรงข้ามกับซุปเปอร์มาร์เก็ต ดูเขาพูดคุยกับคนขายอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับหอบกุหลาบสีชมพูสดใส และรอยยิ้มอย่างเป็นสุขที่ฉายชัดบนใบหน้า
แวบหนึ่งก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับไป พระเจ้าช่วยด้วยเถอะ เขาหันมาทางฉัน ! ฉันไม่รู้ว่าประตูกระจกใสของซุปเปอร์มาร์เก็ตจะบดบังท่าทีของฉันไว้ได้ดีแค่ไหน ในเมื่อจะพูดกันจริงๆ เขายืนห่างออกไปไม่เกินห้าก้าวเท่านั้นเอง มีเพียงโปสเตอร์โฆษณาเล็กๆ ที่ติดเป็นแถวบนประตูกระจก ที่คงพรางอาการตกใจของฉันได้ระดับหนึ่ง
เขาก้มศีรษะให้น้อยๆ ตามมารยาทของคนรู้จักที่พึงทักทายกัน และฉันก็ทักทายเขาตอบในแบบเดียวกัน
เขาเดินจากไปแล้ว เขาจะเห็นถุงช็อคโกแลตดิบ เฟรชครีม และผงโกโก้ในมือฉันไหมนะ ฉันนึกโกรธตัวเองที่ไม่ยอมหยิบตะกร้ามาใส่ให้เรียบร้อย ก็เพราะความรีบร้อน อยากจะกลับไปลองทำดูสักครั้งก่อนทำจริงนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันวิ่งไปคว้าของพวกนี้มาทีละอย่าง โดยไม่ใส่ใจกับตะกร้า มันก็เลยพะรุงพะรังอยู่ในมืออย่างนั้น
เขาจะสงสัยไหมนะ เขาจะรู้ทันรึเปล่าว่าฉันจะทำให้ใคร แล้วนี่มันเพิ่งวันที่ 9 เอง เขาจะหาว่าฉันเห่อเกินไปไหมนะ
แล้วเขาซื้อกุหลาบสีชมพูสดใสนั่นไปให้ใครกัน..
เขาคงมีแฟนแล้วสินะ..
ฉันเดินออกมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างเหงาๆ นี่ตกลงฉันควรจะทำช็อคโกแล็ตให้เขาหรือเปล่า..
เขาจะรังเกียจไหม ถ้าเขามีใครคนนั้นอยู่แล้ว..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
10 กุมภาพันธ์
ผมซึมไปวันนึงเต็มๆ กว่าจะหันมามองกุหลาบช่อใหญ่ที่ไปซื้อมาเมื่อวานนี้ได้ บังเอิญเหลือเกินที่ผมได้พบเธอที่นั่น แล้วก็บังเอิญเหลือเกินที่ดูเหมือนเธอกำลังตระเตรียมทำช็อคโกแลตให้ใครสักคนหนึ่งในวันวาเลนไทน์แน่ๆ ดูท่าทางแจ่มใส และดวงตาเป็นประกาย ที่แม้ผมจะยืนห่างออกมาภายนอกร้าน ก็ยังเห็นได้ชัดเจนนั่นก็ได้
เธอเห็นผมเหมือนกัน ผมแน่ใจว่าเธอคงเห็นช่อกุหลาบสีสดในมือผม และนึกขอบคุณที่มันคงช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ จากหน้าตาตื่นตกใจแกมประหม่าของผมได้ดีทีเดียว
เธอก้มศีรษะทักทายผมเสียด้วย ทั้งที่คิ้วขมวดนิดๆ เธอจะรู้ไหมนะว่ากุหลาบช่อนี้ผมซื้อมาทำไม ถ้าเธอสงสัยผมอยู่ แล้วผมไปทำท่าทีมีพิรุธ หลบตาเธออย่างเมื่อวาน เธอคงเริ่มแน่ใจ และคงไม่ค่อยพอใจกระมัง นี่การกระทำของผมไปรบกวนเธอหรือเปล่า..
นั่นยังไม่สำคัญเท่าที่ผมเพิ่งได้รู้ว่า เธอคงมีคนสำคัญของเธอเสียแล้ว ใครคนหนึ่งที่ทำให้สีหน้าแววตายามที่เธอเลือกอุปกรณ์ทำขนม ทั้งเป็นสุข สดใส แจ่มกระจ่างเสียจนผมนึกอิจฉา
เขาคนนั้นเป็นใครกันนะ ผมมองช่อกุหลาบอย่างเหงาๆ
และเธอจะรังเกียจไหมนะ ถ้าได้ของขวัญวาเลนไทน์เป็นดอกไม้แห้งจากผม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
11 กุมภาพันธ์
เฮ้อ..
ดูเหมือนวิธีทำจะง่ายๆ แต่เจ้าเฟรชครีมช็อคโกแลตนี่ ทำไมพอทำจริงๆ แล้วไม่ง่ายเอาเสียเลย ที่จริงก็แค่เอาช็อคโกแลตดิบไปละลายในไมโครเวฟจนเหลว อุ่นเฟรชครีมและเนย นำทั้งหมดมาผสมให้เข้ากัน ใส่เหล้าอย่างที่ชอบนิดหน่อย ปล่อยให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง แล้วโรยด้วยผงโกโก้ ก็แค่นี้เอง แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันไม่อร่อยเหมือนเวลาไปซื้อกินที่ร้านเอาเสียจริงๆ
ที่จริงฉันน่าจะเอาไปให้เพื่อนในห้องวิจัยลองชิม แต่ก็ไม่กล้า ถ้าเขาเกิดมาเห็นเข้าล่ะ หรือถ้าใครเอาไปพูดให้เข้าหูเขาล่ะ ว่าฉันกำลังฝึกทำช็อคโกแลตวาเลนไทน์ให้ใครคนหนึ่งอยู่ เขาต้องเดาได้อยู่แล้ว ว่าฉันทำให้เขา ดูสายตารู้ทันที่เขามองฉันเมื่อวันก่อน ตอนเจอกันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนั่นก็ได้
ว่าแต่ผสมยังไง เจ้าช็อคโกแลตเหลว กับเฟรชครีมนี่ถึงจะเข้ากันดีเสียทีล่ะ ฉันคนจนเมื่อยแขนไปหมดแล้ว
ก็ทำมาตั้งสามรอบแล้วนี่นา แล้วก็ต้องกินเองคนเดียวทุกรอบ เจ้าวิสกี้ที่ใช้เป็นส่วนผสมนี่ก็ชักทำให้ฉันเริ่มมึนนิดๆ แล้วละ..
สงสัยกว่าจะวาเลนไทน์ ฉันคงทั้งอ้วนทั้งสิวขึ้นเต็ม
แล้วยังจะกล้าเอาช็อคโกแลตไปให้เขาอีกหรือนี่.. ฉันชักสมเพชตัวเองแล้วสิ..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
12 กุมภาพันธ์
กุหลาบทั้งช่อถูกผมตัดก้านจนสั้นกุด ฝังอยู่ในซิลิกาเจล ภายในกล่องพลาสติกใบโตปิดฝาแน่นหนาที่ผมเตรียมไว้โดยเฉพาะ ผ่านมาเกือบครบสามวันตามกำหนดเวลาในหนังสือ ผมแทบจะไม่เป็นอันทำอะไร นอกจากเดินมาเปิดผ้าที่ใช้คลุมกล่องพรางตาไว้ดูทุกๆ ชั่วโมง
ผมไม่ควรนำงานส่วนตัวมาทำในห้องวิจัย ผมรู้ดี ที่แน่ๆ คือมันเสี่ยงต่อการที่ใครต่อใครจะมาเห็นเข้า และมันอาจจะไปเข้าหูเธอในที่สุด แต่ผมก็ไม่มีทางเลือก เพราะผมไม่มั่นใจเอาเสียเลย ว่าถ้าหากผมทำดอกไม้แห้งที่บ้านตลอดทุกกรรมวิธี กระทั่งประกอบเป็นช่อสวยตามที่ผมฝันไว้ ถึงแม้มันจะสำเร็จอย่างดี แต่ก็ไม่มีหลักประกันอะไรนี่ว่า เมื่อผมต้องหอบหิ้วเอามันขึ้นรถมอเตอร์ไซค์มาถึงมหาวิทยาลัย จะไม่มีเหตุให้สิ่งที่ผมบรรจงทำมาหลายวันต้องเสียหายลงไป
ความตื่นเต้นทำให้ผมไม่มีสมาธิทำอะไรเท่าไหร่ นึกกังวลไปร้อยแปดว่าถ้าผมจัดช่อดอกไม้ออกมาไม่สวยล่ะ ถ้ามือใหญ่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับงานฝีมือของผม ไปทำให้กลีบบอบบางของกุหลาบสีสวยแตกหักลงล่ะ ถ้า..
เอาเถอะ ถ้าผมมัวแต่คิดฟุ้งซ่านอยู่อย่างนี้ ก็คงทำอะไรดีๆ ให้เธอไม่ได้ดั่งใจแน่ๆ ดูจากโถแถ้วใสใบใหญ่ ที่ผมตั้งใจจะใส่ช่อดอกไม้แห้งให้เธอนี่ก็ได้ ผมทำมันแตกไปสองใบแล้วเพราะความเบลอ..
พรุ่งนี้ผมจะทำงานได้ไหมนี่.. ถ้ายังมีกล่องดอกไม้แห้งอยู่ใกล้ๆ มือ ให้เดินเปิดผ้าคลุมดูทั้งวันอย่างนี้..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
13 กุมภาพันธ์
ฉันทำเฟรชครีมช็อคโกแลตจนสำเร็จจนได้ คราวนี้มันอร่อยแล้วละ หรือจะเป็นเพราะฉันชักชินกับรสมือตัวเองก็ไม่รู้ แต่เอาเถอะ ยังไงฉันก็ห่อมันอย่างบรรจงจนเสร็จเรียบร้อย แถมเอามาแช่เอาไว้ในตู้เย็นของห้องวิจัยอีกต่างหาก เพราะเกรงว่าพอถึงพรุ่งนี้ จะตื่นเต้นจนลืมหรือทำมันบิดเบี้ยวหรือเสียหายสักอย่างจนได้
วันนี้เครื่องมือบางอย่างในห้องวิจัยฉันเสีย ทำให้ฉันต้องไปขอยืมใช้เจ้าเครื่องนี้ที่ห้องวิจัยของเขา ฉันตื่นเต้นเสียจนไม่อยากไป เพราะกลัวว่าจะไปทำอะไรเปิ่นๆ ให้เขาหัวเราะ แล้วอีกอย่าง.. ฉันคงไม่มีสติน่าดูเลยถ้ามีเขามาทำงานอยู่ใกล้ๆ
ฉันตั้งสติอยู่นาน กว่าจะทำใจขึ้นลิฟท์ไปจนถึงห้องวิจัยเขาจนได้ แล้วก็บอกไม่ถูกว่าโล่งใจหรือผิดหวังกันแน่ เมื่อเห็นจากกระดานแจ้งที่อยู่ของแต่ละคนที่ติดไว้หน้าห้อง ซึ่งบอกว่าเขาออกไปเก็บตัวอย่างข้างนอกทั้งวัน
ระหว่างรอเครื่องมืออ่านค่าที่ฉันต้องการ ฉันถูกรุ่นพี่อีกคนในห้องนั้นเรียกไปช่วยขนย้ายอุปกรณ์บางอย่าง แล้วฉันก็ใจเต้นแรง เมื่อพบว่าสิ่งที่ต้องขนย้ายนั้น ถูกย้ายไปวางอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงานของเขา ที่มีป้ายชื่อติดเอาไว้อย่างเรียบร้อย
โต๊ะนั้นยุ่งเหยิงเหมือนโต๊ะทำงานผู้ชายทั่วไป ฉันแปลกใจนิดหนึ่งที่เห็นหนังสือคู่มือการทำดอกไม้แห้งวางอยู่หมิ่นๆ มีกระดาษโพสอิทแปะไว้เต็มไปหมด เหมือนผู้เป็นเจ้าของกำลังขมักเขม้นอ่านมันอย่างสนใจเต็มที่
แล้วฉันก็วาบลึกในใจเมื่อปะติดปะต่อเรื่องได้ กุหลาบช่อโตในวันนั้น กับคู่มือการทำดอกไม้แห้งในวันนี้.. เขาคงกำลังทำของขวัญให้ใครคนนั้นของเขาอยู่สินะ..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จากคุณ :
โยษิตา
- [
16 ก.พ. 51 05:05:20
]