บันทึกของคนเดินเท้า
เพื่อนตลอดกาล
เมื่อจะไปทำบุญในวันอาทิตย์ ผมจะต้องเดินผ่านย่านการค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่แห่งนี้แทบทุกครั้ง เขาไม่ได้สร้างตึกสูงหลายสิบชั้นเหมือนสมัยนี้ แต่สร้างตึกสองสามชั้นธรรมดาบนเนื้อที่กว้างขวาง ซึ่งสมัยนี้คงมีค่าหลายพันล้านบาท ทั่วทั้งบริเวณที่มีซอยตัดผ่านกันมากมาย นั้น มีร้านค้าสารพัดประเภท ทั้งของกินของใช้ ของที่ระลึก ร้านเสริมสวยเรียงรายกันไปนับร้อย ที่สำคัญก็คือมีสถานเสริมศึกษาเกือบทุกสาขารวมกันนับสิบราย
ในเวลาสายจึงมีเด็กวัยรุ่นเดินเข้ามาในย่านนี้เพื่อกวดวิชาแขนงต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่ก็จะมากับผู้ปกครอง เพราะเป็นเด็กวัยมัธยมเสียเป็นส่วนมาก
แต่ไม่มีคนไหนแต่งตัวให้เห็นว่าเป็นเด็กเลย มีแต่แต่งให้เป็นสาวเป็นหนุ่มเลยวัย และวิ่งตามแฟขั่นทันสมัยด้วยกันเกือบทุกคน จึงเป็นภาพที่เจริญตาเจริญใจแก่ผู้ชมที่มีอายุเลยวัยกลางคนแล้วเป็นอย่างมาก
เมื่อผมอยู่ในวัยนี้ ผมไม่เคยมีโอกาสได้เห็นภาพอันสวยงามแบบนี้ เพราะสมัยนั้นชั้นมัธยมยังไม่มีโรงเรียนสหศึกษา ผมเรียนในโรงเรียนชายล้วน ทั้งเวลาเรียนเวลาเล่นก็กระโดกกระเดกไป ตามแบบเด็กผู้ชายห่าม ๆ เลิกเรียนแล้วก็ไม่เห็นคนไหนไปเดินควง กับนักเรียนหญิงจากโรงเรียนหญิงล้วนที่อยู่เยื้อง ๆ กันเลย คงจะกลัวถูกเพื่อนโห่ให้ละกระมัง
ซึ่งสมัยนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดามาก ที่จะเห็นนักเรียนชายหญิงวัยรุ่น เดินรวมกันเป็นกลุ่มหรือคู่ ในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งที่แจ้ง และที่ ห่างหูไกลตา โดยเฉพาะที่ผู้ใหญ่ทั้งผู้ปกครองและใม่ใช่ เป็นห่วงอย่างยิ่ง ก็คือในวันแห่งความรัก ที่ผ่านไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง
ผมภาวนาว่าเด็กหญิงสวยใสทั้งหลายที่เดินผ่านผมไปในเวลานี้ คงจะไม่ได้สนใจศึกษาในเรื่องของวันแห่งความรักแต่อย่างใด
ผมได้รับทราบเรื่องราวของเด็กชายหญิงวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ประมาณห้าหกคน ในโรงเรียนมัธยมประจำ จังหวัดแห่งหนึ่ง ที่มีเรื่องรัก ๆ แบบบริสุทธิ์ผุดผ่อง คือความเป็นเพื่อนต่างเพศ ตั้งแต่เป็นเด็กผ่านชั้นประถม มาเรียนชั้นมัธยมร่วมกัน จนจบมหาวิทยาลัย ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง
ตัวละครกลุ่มนั้นมีความเชื่อว่า ผู้ชายกับผู้หญิงเป็นเพื่อนกันได้ แต่หลังจากที่โตขึ้นและได้เจอโลกที่กว้างกว่าโรงเรียน เพื่อนบางคนก็พัฒนาเป็นแฟนกันได้
พร้อมกับแนะให้ลองสังเกตดูว่าเพื่อนใกล้ตัวเรา คนไหนเป็นแค่เพื่อน คนไหนเป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ว่าอย่างไร มิตรภาพก็ทำให้เรารู้สึกได้ว่า ผู้ชายคนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เขาก็เป็นเพื่อนตลอดกาลของเราเสมอ
มีบทกลอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่น่าสนใจอยู่สองบท ที่ผมอยากให้ลองอ่านดู
๑............
ยามที่ไม่มีใคร
ยังมีเพื่อนคอยปลอบใจและเคียงฝัน
อยู่เคียงข้างไม่ห่างไกลกัน
เป็นอย่างนี้ทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง
มีเพื่อนที่แสนดี
เป็นเพื่อนซี้ให้เล่นให้แกล้ง
ไม่มีค่างวดราคาแพง
เพียงแค่แสดงความจริงใจ
อยากจะบอกเราเป็นเพื่อนกัน
อยู่อย่างนี้ทุกวันไม่ไปไหน
ทางข้างหน้าอาจจะต้องแยกจากไกล
แต่ในจิตใจเรายังเป็นเพื่อนกัน......เพื่อนตลอดกาล
๒.....................
แค่อยากจะให้เธอรู้
สิ่งที่อยู่ในใจฉัน
ว่าคิดกับเธอเกินเพื่อนที่ผูกพัน
วันนี้ความรักมันมีล้นใจ
แค่อยากบอกให้เธอฟัง
เพียงสักครั้งมันห้ามไม่ไหว
แต่ถ้าเธอนั้นไม่คิดอะไร
ก็ปล่อยมันไปไม่ว่ากัน
เพราะเข้าใจดี
ความรู้สึกที่เธอมีให้ฉัน
ก็แค่อยากพูดตามใจตัวเองสักวัน
เพราะรู้...สุดท้ายเราคือ....เพื่อนกันตลอดไป
ผู้อ่านหลายท่านอาจจะต้องเลื่อนย้อนขึ้นไปดูหัวเรื่อง หรือรีบเลื่อนลงไปดูชื่อผู้เขียน ด้วยความสงสัยว่าคนนี้เขียนอย่างนี้ได้เหมือนกันหรือ
ไม่หรอกครับ นี้เป็นวรรณกรรมลอกเลียนอีกชิ้นหนึ่งของผม เรื่องราวเหล่านี้ผมได้รับการบอกเล่าจากหนังสือเล่มหนึ่ง เป็นเรื่องรักหวานแหววตามยุคสมัย แต่ก็น่าอ่าน
หนังสือเล่มนี้มีชื่อคล้ายที่ผมจั่วหัวเอาไว้
รักเธอ...เพื่อนตลอดกาล
ผู้เล่าเรื่องเป็นเพื่อนผู้เยาว์คนหนึ่งของผม ซึ่งทำให้ผมคล้อยตามความคิดของเธอได้ โดยไม่ต้องฝืน เธอคือนักเขียนดาวรุ่งคนหนึ่งในถนนนี้เอง เธอมีชื่อที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า
MALIPA หรือ PALIMA ที่เพื่อน ๆ ชอบเรียกเธอว่า
หนูลิจอมป่วน................ไงครับ.
##############
จากคุณ :
เจียวต้าย
- [
18 ก.พ. 51 07:11:00
]