วันนี้เป็นวันแรกที่พิรากานต์ได้เข้าทำงานในบริษัทแห่งใหม่ หญิงสาวกระตือรือร้นเป็นพิเศษ หมุนตัวอยู่หน้ากระจกหลายรอบทีเดียวกว่าจะมีความมั่นใจเต็มร้อยก้าวออกจากรั้วประตูบ้านได้
แต่เดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว พิรากานต์ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อจู่ๆ มีร่างสูงใหญ่คุ้นเคยปรากฎกายขวางอยู่เบื้องหน้า
จะออกไปไหนเหรอ ปริชญ์พยายามเอ่ยเสียงให้เป็นปกติมากที่สุด ในใจเขาตอนนี้มีแต่ความว้าวุ่น สามวันที่ไม่ได้ติดต่อกับเธอทำให้เขาไม่แน่ใจว่าพิรากานต์มีความโกรธเคืองเขาหรือไม่
ทำงาน วันนี้ทำงานใหม่วันแรก เธอตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ แกมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ มีอะไรกับฉันมั้ย
เขาส่ายหน้าน้อยๆ พร้อมมองการแต่งตัวที่ดูแปลกตาไปกว่าเดิมของเพื่อนสาว
แกดูดีขึ้นตั้งเยอะแน่ะ
พอได้รับคำชม พิรากานต์ก็ยืดอกขึ้นน้อยๆ อย่างภูมิใจ ของแบบนี้มันแน่อยู่แล้ว
ให้ฉันไปส่งไหม วันนี้ฉันว่าง
ก็ดี ขอบใจนะ รอยยิ้มสดใสที่ได้รับทำให้ปริชญ์ยิ้มตามได้ไม่ยาก นี่แหละเสน่ห์ที่ดึงดูดหัวใจชายทุกคนของสาวห้าวนามว่าพิรากานต์คนนี้ ซึ่งนั่นก็น่าจะรวมไปถึงผู้จัดการคนนั้นด้วย
คิดแล้วใจก็เจ็บแปลบขึ้นมาอย่างประหลาด ความกังวลว่าเธอจะขุ่นเคืองในการสนทนาก้าวก่ายของเขาคืนนั้นกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้เวลานี้เธอจะมีรอยยิ้มมอบให้ก็ตาม
กานต์...แกโกรธฉันหรือเปล่า ปริชญ์ตัดสินใจถามเมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวออกสู่ท้องถนนได้พักหนึ่ง พิรากานต์ซึ่งนั่งอยู่ ณ ตำแหน่งข้างคนขับหันมามองเพื่อนหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ
เรื่องอะไรล่ะ
คืนนั้น...ที่ฉันซักไซร้เรื่องที่แกไปกินข้าวกับไอ้...เอ่อ...ผู้จัดการคนนั้น
เรื่องแค่นั้นฉันไม่เก็บเอามาใส่ใจหรอก อย่าห่วงไปเลย ฉันไม่ได้โกรธแก
ปริชญ์พยักหน้า แม้จะได้คำตอบในทางบวก แต่เขาก็ไม่มั่นใจอยู่ดี อะไรบางอย่างทำให้เขาสังหรณ์ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเพื่อนสาวจะเปลี่ยนไป
...กลัวเหลือเกินว่าพิรากานต์จะทิ้งเขาไปอีกคน...
...เขาเป็นอะไรไปนี่!...
กระป๋องเบียร์ถูกขว้างลงถังขยะข้างโต๊ะรับแขกตัวเตี้ยโดยฝีมือของปริชญ์ เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงรู้สึกเครียดมากมายขนาดนี้ เรื่องของธิชาเขามั่นใจแล้วนี่ว่าทำใจได้แล้ว ส่วนพิรากานต์ก็ต่างคนต่างอยู่มานานพอดู จะมีพักหลังนี่ล่ะที่เขากับเธอกลับมาสนิทสนมใกล้ชิดกันเหมือนเดิม
แต่ก่อนเขาไม่เคยหวงเพื่อน หลายครั้งที่ยุยงให้พิรากานต์หาแฟนเป็นตัวเป็นตนคบหาด้วยสักหน หากทำไมเวลานี้...ความคิดเขากลับเป็นไปในทางตรงข้าม
และหากจะให้คิดว่าเขารู้สึกต่อพิรากานต์มากกว่าเพื่อน ก็ขอเถียงขาดใจอีกล่ะว่าเป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงที่เขาจะมีความรู้สึกแบบนั้นด้วยได้ต้องไม่ใช่สาวห้าวบ้าบิ่นทุกสถานการณ์เช่นพิรากานต์แน่
...แล้วเขากังวลเรื่องอะไร เครียดเรื่องอะไรนักหนา...
ปริชญ์เสยผมที่ปลิวมาปลกใบหน้าคมสันออกอย่างหงุดหงิดตัวเอง อยากโทรศัพท์ไปถามพิรากานต์ว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่เมื่อตระหนักถึงสิทธิความเป็นเพื่อนที่พึงมี การกระทำเช่นนั้นออกจะเกินขอบเขตและดูวุ่ยวายกับเธอมากไปหน่อย
เมื่อไม่รู้ว่าจะหาอะไรให้ตัวเองทำดี มือใหญ่จึงฉวยเบียร์กระป๋องที่เฉียดสิบมาดื่มลงคอระบายความอึดอัดของตน
เชิญคุณพิรากานต์มาพบผมด้วยครับ
คำเชิญแกมสั่งของผู้จัดการฝ่ายการตลาดดังขึ้นไม่นาน ร่างโปร่งบางของเจ้าของชื่อก็แทรกตัวผ่านประตูเข้ามาภายในโดยไม่ให้ชายหนุ่มต้องรอ ตุลกรณ์ยิ้มกว้างต้อนรับ เชื้อเชิญลูกน้องสาวให้นั่งลงอย่างอารมณ์ดี
คุณโตมีอะไรกับกานต์หรือคะ
การที่ผมจะพบคุณ จำเป็นต้องมีอะไรด้วยเหรอครับ รอยยิ้มหวานที่ส่งมาพร้อมคำพูดยียวนทำให้พิรากานต์ยิ้มบางๆ เป็นคำตอบ ตุลกรณ์หัวเราะร่า ก่อนยื่นแฟ้มเอกสารชุดหนึ่งให้อีกฝ่าย ผมเก็บงานชิ้นนี้ไว้ให้คุณแสดงฝีมือโดยเฉพาะ
ขอบคุณค่ะ กานต์จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง พิรากานต์เอ่ยอย่างยินดี ไม่แน่ บางทีบริษัทแห่งนี้อาจทำให้ชีวิตเธอก้าวหน้าก็เป็นได้ ถ้าหมดธุระแล้ว กานต์ขอตัวนะคะ
อะไรกัน จะไม่อยู่คุยกับผมสักหน่อยเหรอครับ
ไม่ดีมั้งคะ นี่เป็นเวลางาน
ตุลกรณ์ทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้ ทำหน้าเศร้าอกเศร้าใจเสียเต็มประดา ไม่ต้องเคร่งเรื่องระเบียบขนาดนั้นก็ได้ ผมไม่ตัดเงินเดือนคุณหรอกหน่า
เป็นเจ้านาย พูดอย่างนี้เดี๋ยวลูกน้องก็เสียการปกครองหมดสิคะ
จะเสียได้ยังไง ผมพูดกับคุณและอนุญาตคุณคนเดียวเท่านั้น ตุลกรณ์ยิ้มกริ่ม สายตาแน่วแน่อยู่กับใบหน้าสวยคมไม่วอกแวกมองสิ่งอื่นใด
ส่วนเจ้าของดวงหน้าชักทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนจับจ้องราวกับจะกลืนกินเข้าไปแบบนั้น พิรากานต์เสหลบตาด้วยการก้มลงมองแฟ้มเอกสารในมือ พยายามหาทางหลบเลี่ยง
เอ่อ...กานต์ลืมไปว่ามีงานต้องทำ คงต้องขอตัวก่อนนะคะ
แล้วร่างสูงบางก็หมุนตัวก้าวฉับๆ ออกจากห้องโดยไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยคำคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น
หารู้ไม่เลยว่า มีสายตาอีกคู่หนึ่งแอบจับจ้องด้วยแววตาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ตุลกรณ์เปลี่ยนความสนใจมาทำงานต่อหลังจากอมยิ้มกับปฏิกิริยาที่ได้รับจากพิรากานต์มาเป็นเวลาค่อนข้างนานแล้ว เขายอมรับว่าพอใจในตัวหญิงสาวคนนี้มากพอดู แต่เหมือนกับว่าเธอจะไม่คิดเช่นเดียวกับเขา
ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ ตระหนักถึงโอกาสที่เธอจะมาเป็นอย่างที่เขาต้องการนั้นคงเป็นไปได้ยาก เห็นทีจะต้องทำใจสถานเดียว
คิดอะไรไปถึงไหนแล้วคะพี่โต เสียงหวานคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กในเสื้อผ้าอวดเนื้อที่ก้าวเข้ามาโอบรอบคอตุลกรณ์อย่างสนิทสนม เขาตกใจเล็กน้อย ก่อนคว้าร่างๆ นั้นเข้าสู่อ้อมกอดเมื่อรับรู้และตั้งสติได้ว่าหญิงสาวผู้มาเยือนเป็นใคร
เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย
มัวใจลอยอะไรอยู่ล่ะคะ ถึงไม่รู้ว่าธิชาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอย้อนกลับ รอยยิ้มหวานชวนฝันยังคงประดับอยู่บนใบหน้า แอบมีสาวอื่นมาให้คิดถึงมากกว่าธิชาแล้วหรือไง
เปล่าครับ พี่น่ะมีแค่ธิชาคนเดียว ธิชาก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพี่รักธิชามากแค่ไหน พูดพร้อมฝังจมูกลงบนพวงแก้มเนียนใส ธิชาหัวเราะคิก ก่อนจุมพิตเบาๆ ข้างริมฝีปากอีกฝ่ายเป็นการตอบรับ
ขอให้จริงเถอะค่ะ เมื่อกี้ธิชาเห็นพี่โตเรียกผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาตั้งนานสองนาน เธอคนนั้นก็หน้าตาดีซะด้วย ธิชาแสร้งทำเสียงตัดพ้อน้อยใจ
โธ่! ก็แค่พนักงานคนหนึ่งน่ะครับ พี่แค่เรียกมาสั่งงาน
จริงเหรอคะ
ครับ ตุลกรณ์ตอบเสียงหนัก แต่เมื่อธิชายังทำท่าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เขาจึงกระชับอ้อมแขน ต่อด้วยกระซิบข้างหูของหญิงผู้เป็นที่รักแผ่วเบา ในเมื่อพี่มีธิชาอยู่กับพี่แล้ว ผู้หญิงหน้าไหนพี่ก็ไม่สนหรอกครับ
หญิงสาวยิ้มพอใจ ก่อนประทับริมฝีปากเรียวบางเข้ากับริมฝีปากของตุลกรณ์...เนิ่นนาน...
.............................................................
ทิ้งร้างหายไปนาน พอมาอีกที ก็มหาสั้น ขอโทษด้วยนะคะ T T
ช่วงนั้นมันอ่านหนังสือสอบ ปั่นงานหัวยุ่ง เวลาหาไม่เจอเลยล่ะ ทิ้งจากเรื่องสั้นเรื่องนี้ไปเกือบเดือน
ยังไงก็ต้องฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ได้โปรดดด....
จากคุณ :
kakok_riwkiw
- [
20 ก.พ. 51 13:39:26
]