1. ร้อยเล่มเกวียน

         เคยมีคนให้คำนิยามของบุรุษเพศไว้ว่า ผู้ชายนั้นเปรียบเสมือนจ้าวโลกผู้ยิ่งใหญ่

         ผู้ชายถือเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง มีอกสามศอกกับอีกสี่เชี้ยะ เด็ดขาด เด็ดเดี่ยว บ้าพลัง ไม่ท้อถอยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ

         อืม...เอาล่ะ ถ้าผู้ชายเป็นจ้าวโลกอย่างที่เค้าว่าไว้จริง ๆ ก็อย่าได้ลำพองใจไปนัก เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือชั้น 1 ยังมีชั้น 2 จงจำไว้ให้ดี... เหนือผู้ชายก็ยังมีผู้หญิง

         สตรีเพศที่เราเรียกกันว่าผู้หญิง ก็คือจ้าวจักรวาลที่ถูกส่งมาปกคลุมจ้าวโลกอีกทีนั่นเอง ไม่ว่าจ้าวโลกอย่างผู้ชายจะหมุนหันไปทางไหนก็ไม่สามารถเล็ดรอดสายตา ปากผี จมูกมดของจักรวาลอย่างผู้หญิงไปได้

         ตัวผู้ชายเองก็ไม่เคยคิดเฉลียวใจเลยว่า ผู้หญิงจะมาสยบผู้ชายได้ยังไงกัน อ่อนแอ บอบบาง อรชรอ้อนแอ้น อย่างนี้ จะเอาอะไรมาสู้ได้ว้า ดูยังไงผู้หญิงก็ตกเป็นรองในทุกด้าน

เอ่อ...คุณผู้ชาย คุณจ้าวโลกผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายครับ อย่าได้ลำพองใจในตัวเองและคิดดูถูกผู้หญิงเชียว เดี๋ยวจะหาว่าหล่ออย่างผมไม่เตือน หารู้ไม่ว่าผู้หญิงเธอมีอาวุธ มีของดีติดตัวมาตั้งแต่เกิดที่ไม่ต้องไปขอจากหลวงพ่อวัดดังที่ไหนให้เมื่อยขบ เธอรอเพียงเวลาที่จะใช้มันเท่านั้นแหละ และถ้าเธอใช้มันอย่างถูกวิธีก็สามารถเสกผู้ชายบ้าพลังอย่างเราให้กลายเป็นลูกไก่ตัวน้อยๆ อ่อนปวกเปียกอยู่ในกำมือหล่อนได้สบาย ๆ

         อาวุธลับของผู้หญิงที่ว่านั้นมันคืออะไรกันน่ะหรอ อ่ะ... ผมให้เวลาทายกันเล่นๆ ดูว่ามันคืออะไร...เครื่องช๊อตไฟฟ้า ระเบิดมือ มือกลหนัก แส้ เทียน ชุดหนัง (เอ่อ 3 หลังนี่เค้าเอาไว้สู้กันตัวต่อตัวในที่ลับตาคน) ดาวกระจาย ไม้หน้าสาม มีดสปาตาร์หรือจะเป็นสเปร์ยพริกไท...

         มะช่ายยย...ครับ ทายไม่ถูกเลย ผู้หญิงนะครับไม่ใช่หน่วยคอมมานโดนะจะได้พกของหนักโหดๆ ได้อย่างนั้น ผมขอเฉลยเลยละกัน อาวุธลับที่ผู้หญิงจะเอามาใช้ต่อกรกับผู้ชายก็คือ มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนนั่นเอง

         มารยาร้อยเล่มเกวียนที่เป็นเหมือนมหันตภัยร้ายสำหรับผู้ชาย มันคอยแอบแฝงตัวชอนไชอยู่ตามรูขุมขนของหญิงทุกคน ยิ่งน่ารัก ยิ่งสวย เอ๊กซ์ เซ็กส์ ตู้มมากเท่าไหร่ ความร้ายกาจยิ่งเพิ่มทวีคูณบางคนเป็นพันเล่มเกวียนเลยก็มี

         มารยาทั้งหลายของผู้หญิงนี้ บางอย่างก็จะปรากฏให้เราเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ประมาณว่าถ้าเป็นผี ก็หลอกกันให้เห็นกันจะ ๆ แลบลิ้นปลิ้นตา ถอดหัว นั่นคือมารยาที่มาในรูปแบบของการกระทำ กิริยาท่าทางต่าง ๆ ที่เธอแสดงออกมา ซึ่งผมก็ยอมรับตามตรงว่า มีบ่อยครั้งไปที่ผมเองก็ดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่า เธอทำจริงหรือแสร้งทำกันแน่ ไม่ว่าจะเป็น
         
         เหนียมอายให้น่าเอ็นดู
         เสยผม สยายผมให้ดูเซ็กซี่

         บีบน้ำตาให้เราสงสารเห็นใจ

         กัดขบติ่งหูให้เราสยิวเล่น

         ยักคิ้วหลิ่วตา ขยิบตาเชื้อเชิญให้เราใจสั่นหวั่นไหว

         หรือทำเป็นตีหน้าเฉยชา ไม่สนใจ ให้เราทรมานใจเล่น

         และยังมีอีกหลายมารยาที่เธอยังคงเตรียมไว้เล่นงานผู้ชายอยู่ เพียบบบ...บบ

         หรือบางคราวมารยาของผู้หญิงก็จะมาแบบไร้ตัวตน เหมือนถูกผีหลอก หลอกด้วยกลิ่นธูป กลิ่นสาป เสียงเดิน ลมพัดไหว แบบที่เราสัมผัสไม่ได้ แต่รู้สึกได้อย่างแรว่า กูโดนหลอกแล้ว นั่นคือมารยาหญิงในแบบของ  น้ำเสียงออดอ้อน คะ ขา ออเซาะ ฉอเลาะ โอ๊ยย...ร้อยแปด

         มารยาหญิงที่แสนอันตราย ที่คู่กรณีอย่างผู้ชายจำต้องศึกษาไว้ให้ดีเชียว ก่อนที่จะโดนไวรัสมารยาเข้าจู่โจมเล่นงานแบบไม่รู้ตัว แล้วถ้าใครได้ตกเป็นผู้โชคดีเจอมารยาเล่นงานทั้งรูปและเสียงคราวเดียวกันเข้าไปเต็มๆ นี่ บอกได้คำเดียวว่า เสร็จทุกรายถึงกับโงหัวไม่ขึ้นเชียวนะครับทำเป็นเล่นไป และก็อย่าหวังว่าจะหนีรอดไปจากเงื้อมือเธอได้ง่ายๆ ล่ะ

         และหนึ่งในมารยาหญิงยอดนิยมที่เห็นผู้หญิงใช้พิฆาตสยบผู้ชายมานักต่อนักแล้วก็คือ ออดอ้อน ออเซาะ ฉอเลาะ มารยารูปแบบนี้ใช้ได้ผลชงัดนักกับพวก เสี่ยใจถึง ป๋าป๋าผู้ใจบุญทั้งหลายที่มีเงินเหลือรับประทาน แต่กลับมีปัญหาขาดความอบอุ่นทางภรรยา ชอบแอบตอดเล็กตอดน้อยกับสาวๆ ไปทั่ว ยิ่งอยู่ในวัยศึกษาด้วยแล้วนะ ป๋ายิ่งปลื้ม ป๋าเค้าดูจะห่วงอนาคตของชาติอย่างมาก กลัวเด็กขาดทุนการศึกษา ไม่มีค่าเทอม ค่าอุปกรณ์ การเรียน ค่ารถ ค่าขนมค่าห้อง

ปกติผู้ชายประเภทนี้จะมีความขี้สงสาร ใจอ่อนง่ายกับเด็กๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเจอไม้เด็ดของผู้หญิง ออเซาะ ทำเสียงออดอ้อนเป็นคีย์สูงต่ำ อย่างเป็นจังหวะต่อเนื่อง พร้อมบวกท่าทางประกอบกระแซะเข้าไปอีก

         “เสี่ยคะ ป๋าคะ เหนื่อยมั้ย กินน้ำก่อนนะคะ หนูคิดถึงป๋าจังนึกว่าจะลืมหนูแล้ว”

         ว่าแล้วก็เข้าไปเกาะแขนกระแซะเอาหน้าอกเบียดไว้

         “เนี่ยเทอมนี้หนูว่า จะลงเรียนเพิ่มอีกซัก 2 วิชา ก็เพิ่มอีกซักหมื่นกว่าบาท ป๋าจะว่าไงคะ”

         โหดว่ะ มหาลัยไหนวะ หน่วยกิตละ 5 พันกว่าบาท จะเอาไปลงเรียนหรือเอาไปถมที่กันแน่

         แต่ถ้าป๋ายังทำใจแข็งไม่ยอมเคลิ้มอนุมัติค่าวิชาให้อีก มันต้องเจอไม้ตาย บีบน้ำตาเข้าสู้ ต้องทำให้คล่องเหมือนสั่งน้ำตาได้ ประหนึ่งดาราเจ้าบทบาท พอได้ยินเสียง

         ห้า...

         สี่...

         สาม...

         สอง...

         แอ๊คชั่น

         น้ำตาก็ไหลพรากเป็นก๊อกแตกพร้อมเสียงสะอื้น

         “ฮือๆๆ แย่แล้วป๋า กระเป๋าเงินหนูหาย เนี่ยในนั้นมีเงินอยู่เกือบหมื่น หนูจะเอาไปลงทะเบียนเรียน แต่มันหายไปแล้ว หนูจะทำยังไงดี ฮือๆๆๆ”

         “โถๆๆ หนูอย่าร้องไห้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวป๋าช่วยเองนะ ว่าแต่ต้องการเท่าไหร่ล่ะ”

         “ฮือๆๆ ก็แค่ค่าเทอมหมื่นกว่าบาทแหละค่ะป๋า แล้วก็ค่าบำรุงมหาลัยอีก 5 พัน ค่ารายงานอีกนิดหน่อยพันห้าค่ะป๋า ฮือๆๆ” ในขณะที่เธอกำลังร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่นั้น เธอก็สามารถใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งมาลูบที่มุมปาก แล้วพูดกับตัวเองในใจว่า เสร็จกู ไอ้แก่

         เจอแบบนี้เข้าไป ไม่รอดครับ ผู้ชายที่แสนจะเข้มแข็งเพียงใด ร้อยทั้งร้อยแพ้น้ำตาผู้หญิงทั้งนั้นแหละ

         มุขกระเป๋าเงินหายแล้วร้องไห้นี่ ผมขอรับรองด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญเลยว่า อย่างน้อย 2 ครั้งในชีวิตของผู้ชายต้องเคยเจอมาแล้ว ไม่รู้ทำไม ตอนที่ยังไม่รู้จักกันกระเป๋าเงินไม่หาย พอรู้จักกันปั๊บ กระเป๋าเงินก็หายปุ๊บ และก็ถือเป็นมุขคลาสสิคครับ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงใช้ได้ผลอยู่เสมอ

         ฉอเลาะ กระแซะ หรือจะงัดไม้ตายบีบน้ำตา ก็ตามสะดวก ทำเข้าไปเพื่อให้ป๋าเค้าเล็งเห็นถึงความลำเค็ญของเธอ ไหนจะค่าเทอม ไหนจะกระเป๋าแบรนด์เนม  เสื้อผ้า มือถือ ค่าห้องพักอีกล่ะ มันจำเป็นทั้งนั้นนะป๋าขา ออดอ้อน ออเซาะกระหน่ำใส่เข้าไปอย่าให้ป๋าตั้งตัวได้ เดี๋ยวป๋าจะค่อยๆ เคลิ้มไปเอง กว่าจะรู้สึกตัวว่าโดนมารยาเสกเข้ากระเป๋าเงิน ป๋าก็ถอยรถป้ายเแดงให้หนูแล้วป๋าขา...