Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องเล่าจากชายแดนใต้ (ตอนที่ 2)

    นับว่าโชคดีหมู่บ้านที่ผมอยู่ความขัดแย้งไม่รุนแรงเหมือนอย่างพื้นที่ยอดนิยมซึ่งพบเห็นในสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสิ่งพิมพ์ เราอยู่กันอย่างสามัคคีแต่ก็ต้องยอมรับเรื่องความระแวงระหว่างเพื่อนบ้านต่างศาสนาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของยุคปัจจุบัน

    ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ว่าเมื่อครั้งอดีตประชาชนทั้งสองศาสนานั้นอยู่กันอย่างปรองดอง ตั้งแต่จำความได้ผมก็ถูกปลูกฝังให้รังเกียจศาสนาตรงข้ามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ต่างยั่วยุให้ตั้งแง่แก่กัน

    และเชื่อว่าเพื่อนบ้านต่างศาสนาของผมก็เป็นอย่างนั้น

    แม้กระนั้นเราก็อยู่กันได้เรื่อยมาเพราะค้นพบน่านน้ำสากลทางใจ แต่คราใดที่อาณาเขตถูกรุกล้ำความบาดหมางย่อมเกิดอยู่เนืองๆ

    พุทธศาสนิกชนเรียกชนชาวมุสลิมว่า ‘แขก’ ในทางเดียวกัน แขกก็เรียกเพื่อนต่างศาสนาว่า ‘ไทย’ เหมือนอยู่กันคนละประเทศ แต่ในความเป็นจริงรั้วติดกันทำกับข้าวกลิ่นยังโชยถึง รู้ได้เลยว่าข้างบ้านมื้อเย็นกินอะไร

    เมื่อครั้งเป็นเด็กเวลาร้องไห้โยเย แม่มักจะขู่ผมว่า “ถ้าไม่หยุดเดี๋ยวแขกบ้าจะจับไปขาย”

    ได้ผล

    แม่ไม่เคยขู่โดยการยกผีมาอ้าง หรือยกตำรวจมาจับ เหมือนเด็กเมืองกรุงฯ อย่างที่ผมเคยได้ยินเมื่อตอนโต
    ผมว่าที่เราอยู่กันได้อย่างสงบ แม้มีสะดุดบ้างเล็กน้อยเมื่อครั้งกาลก่อนนั้น เพราะความต่างนี่เอง เรามีความต่างที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้

    ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ อ.แว้ง ครอบครัวผมมีบ้านอยู่ที่ ต.มาโมง อ.สุคิริน แดดร่มลมตกเมื่อไหร่สาวน้อยสาวใหญ่ ต่างพากันไปร่อนทองในคลองที่ทอดผ่านหมู่บ้าน ลำธารสายนี้มีต้นน้ำมาจากภูเขาทอง ซึ่งเมื่อครั้งอดีตมีเหมืองแร่มาขุดเอาทรัพยากรออกไปจนกระทั่งหมดสัมปทาน

    แร่ทองจากการขุดเจาะบางส่วนไหลมากับกระแสน้ำ ยามว่างจากงานบางวันการร่อนทองสามารถทำรายได้มากโขเลยทีเดียว

    หมู่บ้านที่ผมอยู่นั้นส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ส่วนวงนอกเป็นเพื่อนบ้านชาวมุสลิม เวลาจะเข้าตัวอำเภอต้องผ่านหมู่บ้านของชุมชนอิสลามก่อนเสมอ ปัจจุบันมีทางตัดใหม่ร่นระยะทางได้มากทีเดียว ระยะหลังนี้ (เหตุการณ์ความไม่สงบรุนแรงขึ้น) เส้นทางสายนั้นถูกประกาศห้ามไทยพุทธสัญจร ไม่อย่างนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย

    ไม่ทราบว่าเขาอาฆาตไทยพุทธ

    หรือกลัวไทยพุทธอาฆาตเขา

    แต่ผมก็ไม่เคยใช้มันอีกเลย กลัว

    ยามเหตุการณ์ไม่ปกติเช่นนี้ ความระแวงย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ทุกคนย่อมพร้อมเป็นคนสร้างความขัดแย้งเพราะความโลภเท่าๆ กัน

    นอกจากแลนจะเป็นสัตว์ที่ชาวพุทธนิยมแล้ว ‘นิ่ม’ ยังเป็นสัตว์ที่ให้ราคางามอีกด้วย ร้านอาหารดังๆ ทั่วเมืองไทยสั่งออร์เดอร์เข้ามาไม่เคยขาดและรับไม่อั้นแม้จะตกกิโลกรัมล่ะ 1,000 บาทก็ตาม

    เวรกรรมของสัตว์แท้ๆ ดันเกิดมารสชาติอร่อย

    เหตุผลเดียวกับแลน พี่น้องมุสลิมไม่บริโภคสัตว์ประเภทนี้
    ปัจจุบันไทยพุทธก็ไม่นิยมเนื้อตัวนิ่มแล้ว เพราะราคาแพง ขายดีกว่า

    การล่าสัตว์สองประเภทต่างกันตรงเวลา นิ่มจะออกหากินกลางคืนส่วนแลนชอบกลางวัน ยิ่งวันไหนฝนตกรุ่งเช้ามีแดดอ่อนๆ แลนชุมนักหนา

    พื้นที่ในเขตรั้วของเพื่อนบ้านต่างศาสนาจึงเป็นที่หลบภัยชั่วคราวของตัวนิ่ม ถ้าเจ้าพวกนี้มีความคิดหน่อย มันคงเรียนรู้คติที่ว่า ‘ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด’ แต่อนิจจาสัตว์ก็คือสัตว์ ตกกลางคืนเหล่านักล่าประมาณ 4 – 5 คน และสุนัขคู่ใจ 1 ตัว จะตระเวนออกเดินเท้าไปตามหมู่บ้านอิสลาม เริ่มจากใกล้ และไกลขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งต้องขับรถเครื่องไป แล้วลงเดิน

    บางคืนตัวนิ่มกลับกลายร่างเป็น ‘แพะ’ เป็น ‘เป็ด’ เสียนี่
    และนั่นก็คือเหตุผลหนึ่งที่พี่น้องมุสลิมโกรธนักโกรธหนา ถึงกับประกาศว่า เจ้ารถเครื่องคันนี้อย่าได้ผ่านหน้าบ้านเป็นอันขาด

    ไม่จำคนดันไปจำรถ

    เมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง บางคืนเสียงกัมปนาทของกระสุนปืนก็แข่งกันดัง เปรี้ยง! ป้าง! มีทั้งเจ็บและตาย แต่ไม่เป็นไร ผู้ก่อความไม่สงบ รอรับข้อกล่าวหาอยู่

    เนื่องจากหมู่บ้านที่ที่ผมอยู่ใน ต.มาโมงนั้น ส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา ไทยอิสลามที่เข้ามาอยู่จึงต้องปรับตัวเพื่อความสมานฉันท์ เพราะมีเพียงครอบครัวเดียว
    เขาไม่รังเกียจเลยถ้าจะมีใครสักคนฝากซื้อเนื้อหมูสักกิโลกรัม หากเขาเข้าไปในตัวอำเภอ

    หมู่บ้านผมมีทั้งวัด และโรงเรียน อยู่ละแวกเดียวกัน ซึ่งหาได้ยากในพื้นที่ที่ประชากรนับถือศาสนาพุทธเป็นชนกลุ่มน้อยอย่าง 3 จังหวัดชายแดนใต้

    ครั้งหนึ่งเมื่อเหตุการณ์ยังไม่รุนแรงเหมือนปัจจุบัน (จะมีบ้างลอบยิงครูตอนช่วงจัดแบ่งงบประมาณในแต่ละปี) หน่วยลาดตระเวน (คิดว่าอย่างนั้นนะ) เอาเฮลิคอปเตอร์มาจอดบนสนามฟุตบอลหน้าโรงเรียนถึง 3 ลำ เพราะฝนตกหนัก

    เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเจ้าแมลงปอยักษ์ ลงจอดใกล้ๆ แรงลมจากใบพัดทำให้เศษหญ้าปลิวขึ้นสูง เม็ดฝนกลายเป็นละอองน่ามอง ผมรู้สึกชอบ โดยเฉพาะทหารที่กระโดดและก้มหน้าวิ่งมาหลบฝนในอาคารเรียน เท่เหลือหลาย
    ตกลงวันนั้นไม่เป็นอันต้องเรียน ทหารแจกเงินให้พวกเราคนล่ะ 1 บาท และผมได้ยินทหารนายหนึ่งเอ่ยถามครูประจำชั้นซึ่งเป็นครูสาว บ้านอยู่ตัวอำเภอ

    “ช่วงนี้เดินทางมาสอนไม่กลัวเหรอครับ”

    ครูไม่ตอบแต่ยิ้ม แล้วเรียกพวกผมให้หลบฝน

    ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนที่ยังเป็นเด็กน้อยเรียนชั้นประถมต้น หากเกิดเหตุการณ์ลอบยิงครูขึ้น (ส่วนใหญ่ปีละครั้ง) ผมจะชอบมากๆ

    เพราะไม่ต้องเรียนหนังสือ


    ***********-----*****************

    จากคุณ : bai_k2593 - [ 29 ก.พ. 51 18:34:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom