ความคิดเห็นที่ 1
๒๑. ฝากฝนฝากคลื่นน้ำ.....คอยครวญ คอยบอกความเรรวน..........อกนี้ ฝากหอมกรุ่นลำดวน..........โชยกล่อม แม่นา กล่อมผ่านลมเรื่อยรี้...........ร่วมพร้อม, หอม-ถวิล ฯ
๒๒. ก่อนเรื่ออรุณะเรื้อง......ราศี แว่วกระหน่ำฆ้องตี.............ตอบเช้า แถวยาวพระจะลี-..............ลาศสู่ เรือนเฮย ข้าวแลกธรรม, ธรรมเข้า.....ข่มร้ายคลายแสลง ฯ
๒๓. เปลื้ยงชุดเปลี่ยนชาติเบื้อง...ปัจจุบัน เป็นแบบอย่างบุราณอัน......พระเอื้อ ก้าวตามเหล่าผู้บรร-..........ลุบท โลกแน ตามพระ, ตาพิศเนื้อ..........ร่มเนื้อบุราณสมร ฯ
๒๔. สางรุ่งสุริยะเรื้อง.........รัศมี ยาวเหยียดแถวพระลี-........ลาศคล้อย คำข้าวคำพระมี.................มอบต่าง ตอบนา มอบตอบแม้นเพียงน้อย......ทุกน้อยเหลือประมาณ ฯ
๒๕. ปราศผู้ปองพิศเลี้ยง....อาลัย ทำอกผู้มาไกล.................หม่นเศร้า จีวรพระพลิ้วไหว...............ลมวูบ ผ่านนา คิดหวั่น, หวั่นรูปเย้า...........ยั่วท้าแล้วถอย ฯ
๒๖. ถึงวัดในหว่างมื้อ........อาหาร ถามไถ่ท่านสมภาร............เพิ่มรู้ ช่วงยามอยู่รัชกาล............ใดเล่า ท่านเอย หลงยุคมาเกินกู้................กลับย้อนยามหลัง ฯ
๒๗. ยุคเอกาทศรถเจ้า.......จอมสยาม พ่อเอย หมดศึกม่านคุกคาม...........เขตแคว้น กิจกรรมหลากหลายตาม.....แต่ชอบ พ่อเนอ ใครใคร่ค้า-ค้า, แม้น..........ใคร่รู้-ดูสอน ฯ
๒๘. ร่มบุญพระนเรศป้อง....ปรากฏ สูงเยี่ยมฟ้า, เกียรติยศ.......สุดยั้ง เหนือ-บรรพต, ใต้จด.........โพ้นสมุทร ไกลเฮย ใครเล่าอาจเหนี่ยวรั้ง..........ร่มนี้เลือนเงา ฯ
๒๙. เจ้าฟ้าสุทัศน์ผู้...........โอรส เป็นหน่อเนื้อกำหนด...........นั่งแคว้น เสวยพิษทิวงคต...............เนื่องแต่ ชนกนา หลังชนก- ระแวง, แค้น......หวั่นเอื้อมเอาเมือง ฯ
๓๐. พ่อเล่า, มาจากบ้าน.....เมืองใด คำพูด, เสื้อผ้า ไย..........แปลกพ้น บ้านช่องอยู่หนไหน............หนาพ่อ แลเยี่ยงไรดั้นด้น...............ดั่งไร้เหย้าเรือน ฯ
๓๑. เมื่อนั้น..ยินแว่วถ้อย....ถามหา แล้วร่างหนึ่งตรงมา...........กราบน้อม เครื่องแบบแห่งยศถา.........สวมอยู่ กราบพระ, กราบผู้พร้อม.....เพิกร้อนผ่อนสลาย ฯ
๓๒. แว่วเสียงกระซิบเนื้อ....นัยความ เหมือนต่อเรื่องติดตาม.......ต่างรู้ ตอบ, นิ่ง- ต่อคำถาม.........ควรแต่ พระนา งัน, เงียบตาสองผู้.............สบ - พ้องมองสมัย ฯ
๓๓. รูปหนึ่ง-มือเอื้อมตบ....ไหล่หลัง ร่างหนึ่ง-สำรวมฟัง............พากย์ชี้ ร่มบุญดั่งทอดบัง..............บ่มคิด กระนั้นนา เงาทอด, ร้อนก่อนกี้..........กลับร้างจางรอย ฯ
๓๔. ทาสสี่, วอหนึ่ง-ล้วน....ลับตา ผู้บ่มวัตรศรัทธา................กลับแจ้ง ร่องรอยอุเบกขา...............วามคู่ ตาแฮ วามอยู่, เกินจิตแว้ง...........วกข้องทุกขัง ฯ
๓๕. หัวหมื่นมหาดเล็กผู้.....ทรงศักดิ์ จมื่นศรีสรลักษณ์...............ฉลาดรู้ ใจคอชอบทางนัก-.............เลงฉกาจ ยิ่งเนอ เล่ห์เหลี่ยม, เลือดนักสู้.......อยู่พร้อมในตน ฯ
๓๖. เคยบวชเรียนจบแจ้ง....พรหมจรรย์ เป็นศิษย์ผูกสัมพันธ์...........อยู่พร้อม ใกล้ชิดแวดล้อมบัล-..........ลังก์อยุธ ยาเฮย สนองบาทยุคลน้อม...........นอบเกล้าถวายกร ฯ
๓๗. แม่หญิงผู้ร่วมท้อง......มารดร ตามพี่มาขอพร.................พระ - เจ้า คืนค่ำภาคจันทร...............เพ็ญอยู่ นั้นนา ตองจีบเทียนธูปเฝ้า...........ฝากถ้อยอธิษฐาน ฯ
๓๘. หูฟัง, ใจนึกหน้า........นวลทรง ฤๅจักเป็นฝ่ายหงส์.............ห่านฟ้า ใครเล่ากระต่ายดง............ด้อมอยู่ งัน, เงียบ - อกวุ่นว้า..........หว่างหน้าในคะนึง ฯ
๓๙. หูยิน, ใจคิดย้อน........รูปยล คืนดาษดาวอำพน............แผ่นฟ้า ใครเล่าจิตสับสน..............สะท้อนอยู่ ให้เงียบงันทั้งหล้า............อยู่พร้อมประนอมคะนึง ฯ
๔๐. มองพระ, มองผู้ผ่าน...ทางเพียร ผู้วัฏฏะรอบเวียน..............หยุดเว้น ท่วงทีทำนองเธียร............ทอดแผ่ ร่มเนอ ร่มแผ่, ใจกลับเร้น............สู่ร้อนวัฏฏะกระแส ฯ
จากคุณ :
สดายุ...
- [
1 มี.ค. 51 22:57:49
]
|
|
|