ผู้หญิงที่ยืนในกระจกเงาตรงหน้า ดูผ่ายผอม สีหน้า หมองคล้ำ....ในแววตาเหือดแห้ง มีสีแดงเจือบางๆ เพราะอาการนอนไม่ค่อยหลับ มายาวนาน ตั้งแต่ ผู้อันเป็นที่รัก ได้จากไป.... แต่ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องดำเนินไปถึงอาจไม่รู้ชะตากรรม ดั่งที่เคยมีอีกคนคอยเคียงข้าง ....
กลุ่มควัน ที่เต็มไปด้วย เศษฝุ่น พวยพุ่งจากเตาหลอม...คนงานนั่งคัดงาน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองวันแล้ววันเล่า...พนักงานมีสภาพมอมแมม เหมือน เด็กๆ ที่ซุกซนชอบเล่นฝุ่น ...แต่นั่นเป็นเพียงจินตนาการขำขันที่ทำให้นึกสนุก...แล้วชีวิตจริงนั้นไซ้ไม่ได้สนุกอย่างที่คิด...
.....เส้นทางเดินระหว่างที่พัก ไป ออฟฟิศที่ทำงาน แม้จะเป็นระยะทางเพียง 10 นาที ในการเดินด้วยเท้า แต่ฉัน ก็ สังเกตเห็น วิถีชิตของผู้คนมากมาย ในแต่ละเช้า ...ด้านขวามือ ของถนน ที่ฉันเดินเคยเป็นแคมป์ของคนงาน ของโรงงาน หลอมเหล็ก และ ในยามนี้ มันกลายสภาพ เป็นที่พัก หลังคามุงสังกะสี ประติดประต่อกัน แล้วแต่ว่าใครจะหามาได้ ฝาที่พัก เป็นแผ่นไม้กระดาน ผุบ้าง ดีบ้างใหม่บ้างแล้วแต่ใครจะสรรหามาต่อเติมได้ แต่คนที่พักอาศัย ล้วนมีน้ำใจแบ่งปันกัน....ไม่ใช่เป็นย่านสลัม แต่ฉันขอเรียกว่า ชุมชนไม้กระดาน ทุกคนหาได้ประหยัดน้ำใจเลยสักนิด ต่างมีน้ำใจแบ่งปันยามยาก...ผู้อาศัยส่วนใหญ่ล้วนเดินทางมาจากต่างจังหวัด ...และ ทำงานโรงงานใกล้ๆ กัน....
และ ด้าน ซ้ายมือ ของอีกฟากถนน เป็นโรงงาน หลอมเหล็ก ...เช้าตรู่ในแต่ละวัน กลุ่มหมอก จางบ้าง หนาบ้าง พวยพุ่ง และ มีกลิ่นฝุ่น เศษฝุ่นเล็กๆ เจือปนมาในหมอกควันนั้น.... เป็นโรงงาน ที่คนใน ชุมชนไม้กระดาน ที่อาศัย อยู่ทางฟากขวามือ ต่างเข้าทำงานในทุกๆเช้า....
ยามเช้า ฉันเห็น พนักงานแต่งตัวสะอาด ใบหน้าแจ่มใส เดิน กันควักไขว้ ข้ามถนน จากอีกฟากเพื่อเข้างาน ...และเมื่อถึงยามเย็น ฉัน ก็เห็น พนักงาน มอมแมมไปด้วยฝุ่น เดินห่อไหล่ เหมือนคนต้องการอากาศ เพื่อขยายปอด...เป็นอยู่อย่างนี้ ทุกๆ เย็น..
หนึ่งในพนักงาน ...ที่ฉันรู้จัก เขามีครอบครัว..ที่อบอุ่น ลูกชาย หนึ่งคน(ที่ไม่ทราบแน่ว่า จะตัดสินใจเป็นชาย หรือ หญิงกันแน่ แต่นิสัยน่ารัก) และ ลูกสาววัยกำลังช่างคุย สุดท้าย ภรรยาที่รักสามีเป็นที่สุด...ฉันเห็น กิจกรรม วิถีชีวิตจนชินตา เช้าจรดเย็น หมุนเวียนดังเข็มนาฬิกาช่างเที่ยงตรงดีนัก...วิถีชีวิต ในหมอกฝุ่น...
ทุกครั้งที่ใบไม้ร่วงหล่น ..ทำให้ฉันนึกถึงขั้วของใบไม้เสมอ นึกถึงว่า แผลตรงขั้วจะเป็นอย่างไร ...คล้ายๆชีวิตคนที่ปลิดปริว...และความเศร้าก็มาถึงเมื่อผู้นำครอบครัวต้องจากไป ด้วยโรคปอดซึ่งเป็นผลมากจากสภาพในที่ทำงานที่เต็มไปด้วยฝุ่น และ ควัน...
ในเช้านี้ฉันได้รับฟังเรื่องเศร้า ที่สุด ของภรรยา ที่มีลูกอีก 2 คนต้องดูแล ใบหน้าเศร้าหมอง แววตาเหือดแห้ง...เล่าเรื่องราวที่เธอได้ประสบ มันทำให้ฉันรู้สึกว่า บางทีใบไม้ที่ร่วงล่นไปเปรียบอะไรไม่ได้กับการจากไป ของ หนึ่งชีวิตคนเลย...แค่เพียง ห้า นาที ที่ฉัน ร่วมซึมซับ ในความเศร้าที่เธออยากจะเล่า อย่างน้อย มัน ก็ทำให้เธอมีเพื่อนเคียงข้างอีกคน....ฉันได้แต่ จับมือและ บีบเบาๆ คุณแม่ลูกสอง และ ภรรยาอันเป็นสุดที่รักของสามีที่จากไป..
เธอยิ้ม อย่างเศร้าๆ แต่ แววตาเข้มแข็ง ฉายออกมาให้รับรู้ ไม่ได้ มากมาย แต่นั้น คงต้องอาศัยเวลาที่จะรักษาความเจ็บปวด...
เมล็ดพืชที่ไม่อาจเลือกพันธ์ หรือชนิดได้ แต่หากได้ตกยังถิ่นฐานใด ก็คงได้แต่ตั้งใจและ พากเพียรให้ตัวเองได้เติบใหญ่ แม้บางที น้ำ หรือดินที่ ล้อเลี้ยงนั้นจะเจือปนด้วยพิษ แต่หากได้หยั่งราก พืชบางต้น ก็มิอาจที่จะย้าย รากแก้วตัวเองให้ออกจากแหล่งอาหารได้เช่นกัน.....พิษคงจะ แทรกซึมจนเข้าถึงทุก อนู...แล้วก็ดับสูญไร้แรงต้าน.....
คืนนี้ คุณแม่ลูกสอง ภรรยาสุดที่รักของสามี ....คงต้องนอน โดยขาดหมอน หนุนอีกใบที่เคยเคียงคู่....แต่เธอต้องอยู่ต่อไป เพื่ออีกสอง ชีวิต และ เพื่อตัวเธอเอง.....
จากคุณ :
หัวใจกายสิทธ์...
- [
5 มี.ค. 51 00:15:25
A:202.149.25.225 X: TicketID:166738
]