จะมีสักกี่ครั้งที่ชีวิตคนเราจะสมหวังดัง ปารถนา
บนโลกใบใหญ่ทุกคนล้วนแต่มีพื้นที่เล็กๆ ในใจ วาดหวัง ไว้ ในบางสิ่ง ให้ได้เป็นจริงดังที่คิดฝัน...แค่เพียง พื้นที่เล็กๆ ให้ตัวเองได้เป็น ดาวเด่น เป็นบุคคลสำคัญ พื้นที่ ที่ไม่จำเป็น ต้องกว้างใหญ่ไพศาล... มีสิทธ์ โดยชอบธรรม และ รักษาไว้ให้ใครสักคน...ได้แวะมาเยี่ยมเยียนในเวลาที่โดดเดี่ยว และ อับเฉา...
ครั้งหนึ่งจากเรื่องเล่า คุณแม่เสียงสาว แต่เรา คงต้องเรียกคุณแม่ของลูกชายเดียวคนนี้ว่า คุณป้า เพราะ ดูภายนอกชราภาพด้วยวัยที่ร่วงโรย...เวลาที่คุณป้ายิ้มมา จะเห็นว่ามีฟันเพียงซี่เดียว ติดเหงือกข้างหน้าเอาไว้...แล้วนับประสาอะไร กับเรื่องราว ชีวิตที่คุณป้าประสบมาคงมากมาย เหลือคณาที่เราจะ นึกเอา...แต่ทุกชีวิตต้องดำเนินไป...
ช่วงวันหยุดจากการทำงานเรามีโอกาสได้ไปนั่งหย่อนใจที่สวนสมเด็จย่า และ ในขณะที่เรากำลังถ่ายรูป ต้นไม้ใบหญ้าในสวนสมเด็จย่า คุณป้าคนหนึ่ง ก็ส่งเสียงทักทาย ถามว่าจะถ่ายรูปไปทำไม ถ่ายไปทำอะไร เราจึงตอบว่า ถ่ายไปเก็บไว้ เพราะ ในสวนนี้มีต้นไม้เขียวและ ร่มรื่น และ มีมุมถ่ายรูปสวยดี มีสีเขียวของต้นไม้เต็ม ไปหมด แล้วเราจึงขอถ่ายรูปคู่กับคุณป้า ...คุณป้าบอกว่าอย่าถ่าย เลยเพราะคุณป้าไม่ชอบถ่ายรูป ..เราจึงไม่ถ่ายรูปคุณป้า แต่ ก็ส่ง นมอัดเม็ด ให้คุณป้า...คุณป้าดีใจใหญ่ พร้อม กับบอกว่า ป้าจะร้องเพลงให้ฟังเอาไหม....
เรา ดีใจที่จะได้ฟังเพลง จากนักร้องเสียงสาว ...แล้วคุณป้า ก็ร้องเพลง แม่ศรีนวล ประหนึ่งจะตอบแทน ขนม นมอัดเม็ด ที่เราส่งให้คุณป้าหนึ่งซอง .....แม่ศรีเอย แม่ศรีนวล.......คุณป้าร้องเพลงเสียงใสมาก..
เมื่อร้องจบแล้วเราจึงปรบมือให้คุณป้า พร้อมกับชมว่าคุณป้าร้องเพลงเพราะ แล้วคุณป้า ก็ถาม ว่าเรามีพ่อแม่ไหม ...คุณป้าบอกว่า อย่าเที่ยวเพลิน อย่ากลับบ้านมืดค่ำ พ่อแม่จะเป็นห่วง ให้รีบกลับไปดูแลพ่อแม่...
แล้วเราก็ถาม คุณป้าว่า คุณป้าบ้านอยู่ที่ไหน และมีลูกไหม...คุณป้าทำหน้าสลด พร้อมกับตอบว่า บ้านคุณป้า อยู่ใกล้ๆ ส่วนสมเด็จย่า ...คุณป้า อยู่กับคุณลุงสองคน คุณป้ามีลูกชายหนึ่งคน แต่แต่งงานออกเรือนไปแล้ว และไม่เคยกลับมาเยี่ยมแม่เลย...ขณะที่คุณป้าเล่าถึงลูกชาย คุณป้าทำท่าจะร้องไห้...เป็นภาพต่างคนต่างความรู้สึก แต่สะท้อน ถึงความเศร้าเหลือคณา ที่คุณป้าเสียงใสนั้นคงคิดถึงลูกชายน่าดู...ไม่อยากให้เศร้ามากไปกว่าความรู้สึกนึกถึง คุณแม่ของเราเองที่บ้าน เราจึงเปลี่ยนเรื่อง เพื่อไม่อยากให้คุณป้านั้น ต้องอับเฉากับเรื่องราว ซ้ำๆ เหมือนหนัง ตอนจบที่ดำเนินมาทั้งชีวิต เพื่อหวัง ให้ happy ending
.มีพ่อ แม่ และ ลูก พร้อมหน้า....
เราส่ง นมอัดเม็ด สวนจิตรลัดดาให้คุณป้าอีกหนึ่งซอง เพื่อฝากให้คุณลุงที่บ้านด้วย แต่คุณป้า ไม่ยอมรับพร้อมกับบอกว่าคุณลุงไม่ชอบกินขนม และ ซองที่คุณป้ากินนั้น ก็กินไม่หมดเลย .... คุณป้าคงเพียงอยากจะเอ่ยวาจา ทักทายคนผ่านไปมาเพื่อคลายเหงา แล้ว คุณป้า และ เรา จึงล่ำลากันด้วยการกอด คุณป้า พร้อมกับ กุมมือปลอบ ประโลมให้คุณป้านั้นได้มีความหวัง...หวังในสักวัน ลูกชายจะได้กลับมาเยี่ยมสักครั้งหนึ่ง...ก่อนที่พื้นที่เล็กๆ ในหัวใจของคุณป้าจะร้างรา และอับเฉา ปิดตาย.....
ในระหว่างที่ถ่ายรูปคุณป้าถามว่า รูปที่ถ่ายไปนั้นเก็บได้ด้วยเหรอ พึ่งเข้าใจความหมายของคำถามคุณป้า ตอนที่คุณป้าเล่าเรื่องลูกชายของคุณป้าให้ฟัง ทำให้เรานึกถึง ความสุขที่คุณป้านั้นอยากจะเก็บเอาไว้ในใจทุกช่วงเวลาดีดีที่ได้มีลูกชาย และ ครอบครัวอันอบอุ่นก่อนที่ คุณป้าจะอยู่กันเพียงสองคนกับคุณลุง...ในบั้นปลายชีวิต.
เรื่องเล่าที่ไม่ต้องเผยให้เห็นเส้นทางเดินตลอดชีวิต แต่เพียงมุมเล็กๆ ของชีวิตที่คุณป้าเปิดให้เราได้สัมผัส และ เห็น....เหมือนดังสิ่งที่คุณป้าอยากให้รู้ว่า โลกนี้มันช่างเงียบเหงา นักหนา แม้จะมีผู้คนมากหน้าหลายตา แม้จะมีใครมากมายผ่านมาทักทาย แต่คงไม่เท่าใครคนหนึ่งที่คุณป้านั้นรอคอยเพียงได้ฟัง คำพูด สักคำจากลูก... แม่หิวไหม ผมซื้อข้าวผัดมาให้แม่ กินนะ... คงเป็นประโยคง่ายๆ แต่สามารถหล่อเลี้ยงไม้ใกล้ฝั่งต้นนี้ให้ดำรงอยู่ไปอีกนาน....
หากใครได้มีโอกาสผ่านเข้าไปนั่งในสวนสมเด็จย่า และ มีหญิงชราแวะมาทักทาย โปรดพูดคุย กับท่านสัก ครู่ อย่างน้อย น้ำสักหยดที่รดลงใจ ... อาจเป็นหนึ่งในความหวังที่เติมพลังให้ป้าคนนี้ได้เจอวันดีๆ ที่รอคอยสักวันค่ะ....
ปล. คุณป้ามีฟันซี่เดียวข้างหน้า ผมสีดอกเลาแซมประปราย มีใบหน้าที่ยิ้มเสมอเวลาพูดคุย และ เสียงสาวมาก ร้องเพลง เพราะด้วยค่ะ...
จากคุณ :
หัวใจกายสิทธ์...
- [
7 มี.ค. 51 22:54:03
A:202.149.25.225 X: TicketID:166738
]