ด้ายแดง
หญิงสาวมองดูเส้นทางข้างหน้าที่ดูเหมือนจะยาวไกลไม่มีที่สิ้นสุด แดดอันร้อนระอุในช่วงเวลากลางวันดังเช่นตอนนี้ทำให้เธอคิดที่จะถอดใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กระนั้นเท้าซึ่งขณะนี้ค่อนข้างจะปวดเมื่อยและมีอาการระบมก็ยังนำพาให้เธอก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป
มือซ้ายยกขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลโทรมทั่วใบหน้าก่อนที่จังหวะก้าวเท้าจะช้าลงและกลายเป็นหยุดนิ่งในที่สุดที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ริมทางต้นหนึ่ง สายตาเหลือบมองสิ่งๆ หนึ่งที่พันอยู่ที่นิ้วก้อยมือซ้าย ความคิดอันสับสนและลังเลผุดขึ้นในหัวสมองอันเหนื่อยล้าและหนักอึ้ง
...เรื่องมันเริ่มต้นในเช้าวันขึ้นปีใหม่เมื่อสี่วันก่อน...
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาและพบกับความงุนงงหลังจากที่สายตาของเธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่างซึ่งผิดปกติไปจากวันที่ผ่านๆ มาบนพื้นห้องของเธอ มันเป็นเส้นด้ายเรืองแสงสีแดงเส้นเล็กๆ ที่ปลายข้างหนึ่งถูกลากยาวออกนอกประตูห้องนอน และเมื่อเธอไล่สายตาตามเส้นด้ายนั้นเข้ามาเรื่อยๆ ก็พบว่าปลายอีกข้างหนึ่งติดอยู่กับนิ้วก้อยของเธอนั่นเอง
หลังจากพินิจเส้นด้ายแดงอยู่พักหนึ่ง หญิงสาวก็ทำท่าเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกเมื่อคืนก่อนนอนเธอได้อ่านข้อความบทหนึ่งจากโลกอินเตอร์เน็ต
...คนเราทุกคนเกิดมาพร้อมกับด้ายแดงที่ปลายด้านหนึ่งจะพันติดแน่นอยู่ที่นิ้วก้อยของเรา และปลายอีกด้านหนึ่งของเส้นด้ายก็เช่นกัน มันจะถูกพันอยู่กับคนอีกคนหนึ่ง เส้นด้ายเส้นนี้จะชักนำให้เจ้าของซึ่งอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านมาพบและพันผูกนิ้วก้อยของคนทั้งสองเข้าด้วยกัน...
...คนที่เกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน...คนที่จะยิ้มและร้องไห้ไปพร้อมกัน...คนที่ถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนวันสุดท้าย...
...ด้ายแดงเหรอ...เฮ้อ...ถ้าทุกอย่างง่ายดายอย่างนั้นก็ดีน่ะสิ...หญิงสาวเองก็อยากจะเจอกับคนที่อยู่ที่ปลายอีกด้านของด้ายแดงของเธอเสียที...ชายผู้เป็นเนื้อคู่ของเธอ...
ความคิดเตลิดกลับไปกลับมาอยู่ในหัวจนถึงกับเก็บเอาไปฝันหลังจากที่หญิงสาวผล็อยหลับไป และในรุ่งเช้าของวันปีใหม่เธอก็ตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กับด้ายสีแดงเรืองรองที่ปลายนิ้วก้อยของเธอ
...นี่อาจจะเป็นโอกาสที่คนที่อยู่บนสรวงสวรรค์ประทานมาให้เป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ก็ได้...เมื่อคิดได้ดังนั้นการเดินทางหญิงสาวก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากแต่งตัวด้วยชุดที่หญิงสาวคิดว่าสบายที่สุดเรียบร้อยแล้ว เธอก็คว้ากระเป๋าสตางค์ใส่ลงในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเริ่มใช้มือทั้งสองข้างค่อยๆ สาวเส้นด้ายที่อยู่ตรงหน้าไปเรื่อยๆ พร้อมกับเท้าที่ค่อยๆ ก้าวย่างไปด้านหน้าตามทิศทางที่มันนำเธอไป
...ลงบันได...ออกจากตัวบ้าน...
...โอ้โฮ...เสียงอุทานในสมองดังขึ้นหลังจากที่หญิงสาวเห็นด้ายแดงแบบเดียวกับที่ติดอยู่กับเธอระโยงระยางกันเต็มไปหมดอยู่บนพื้นถนนตรงหน้าในขณะนี้
...สงสัยจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว...ว่าแล้วหญิงสาวก็ใช้ความระมัดระวังในการคลำเส้นทางที่ด้ายแดงจะนำเธอไปมากขึ้น
มันพาดผ่านพื้นถนน ผ่านตรอกซอกซอย วกไปวนมาจนหญิงสาวเริ่มงงงวยและดูเหมือนการเดินทางจะไม่คืบหน้าเท่าที่ควรเลยแม้แต่น้อย
...อืมมม..มันไม่ใช่ไม่ง่ายอย่างที่คิด...หากแต่มันอาจจะยากเลยทีเดียวสำหรับภารกิจนี้...อาจต้องเสียเวลาหลายวัน...หรืออาจจะตลอดวันหยุดช่วงปีใหม่เลยทีเดียว...
หลังจากคิดทบทวนไปมาสักครู่ หญิงสาวจึงตัดสินใจกลับบ้านเพื่อเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าก่อนที่จะเริ่มต้นสำหรับการเดินทางเพื่อตามหารักแท้ที่ปลายอีกด้านของเส้นด้ายสีแดงนี้อีกครั้งในเวลาเที่ยงวัน
แสงแดดซึ่งแผดลงมาในเวลาเที่ยงวันส่งผลให้อุณหภูมิบนท้องถนนสูงขึ้นกว่าช่วงเช้าอย่างน่าใจหาย แค่เดินออกจากบ้านและมองเห็นกองด้ายแดงของใครต่อใครเต็มพื้นถนนก็ทำให้หญิงสาวเกิดอาการตาลายขึ้นมาแล้ว
...แต่ฉันจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้ โอกาสที่ถูกประทานมาให้แบบนี้...หญิงสาวคิดในใจก่อนจะพ่นลมหายใจแรงๆ เป็นเชิงปลุกอารมณ์สู้ของตัวเองให้ฮึกเหิมขึ้น และเริ่มค่อยๆ คลำทางจากสายสีแดงตรงพื้นอีกครั้ง
...อ๊ะๆ...นั่นใครกำลังเดินมา...เขานั่นเอง...พี่ที่อยู่บ้านห่างจากฉันไปสี่ซอย...พี่ชายที่ฉันแอบปลื้มมานานแล้ว...จะใช่เขาหรือเปล่านะ...
สายตาก้มต่ำ ไม่กล้าสบตาด้วยความเขินอายทั้งๆ ที่หญิงสาวเองก็ไม่เคยคุยกับเขาอย่างจริงจังเสียที แต่ถึงกระนั้นสายตาของเธอก็ยังพยายามจะมองไปยังสิ่งที่อยู่ที่นิ้วก้อยของเขา
...เขาเดินเข้ามาใกล้แล้ว...ใช่หรือเปล่า...จะใช่เขาหรือเปล่า...ความคิดเตลิดพร้อมๆ กับใจที่เต้นแรงขึ้นเป็นลำดับ
สวัสดีครับ มาเดินทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ ร้อนออก
อ่ะ...เอ่อ...สวัสดีค่ะ...เอ่อ...ทำธุระนิดหน่อยน่ะค่ะ หญิงสาวสะดุ้งอย่างลืมตัว ตอบรับตะกุกตะกักก่อนยิ้มแหยๆ ให้เขา
งั้น...ผมขอตัวก่อนนะครับ...ระวังจะไม่สบายนะครับ
ค่ะ...ขอบคุณค่ะ ชายหนุ่มเดินอมยิ้มสวนกับหญิงสาวไป
...โธ่...นี่เขาต้องขำที่เห็นฉันทำท่าแปลกๆ แน่เลย...ก็ถ้าฉันไม่สาวเส้นด้ายนี่ไปเรื่อยๆ ฉันก็ไม่มีทางเดินไปตามทางของมันได้แน่ๆ...
...เมื่อกี้ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย เส้นด้ายของเขาก็ยังคงทิ้งตัวอยู่บนพื้นในเส้นทางที่เขาเพิ่งเดินผ่านมา...นี่ก็แสดงว่าไม่ใช่เขาน่ะสิ...ในขณะที่คิดด้วยอาการปั้นหน้าไม่ถูก สายตาของหญิงสาวก็ยังคงชำเลืองกลับไปยังเส้นด้ายที่นิ้วก้อยของชายหนุ่มเมื่อสักครู่อย่างเสียดายอยู่ในใจลึกๆ
ด้ายแดงเลี้ยวหักมุมเข้าไปในซอยทางซ้ายมือข้างหน้า...เอ๋...ซอยข้างหน้า...ตายล่ะ...ซอยนี้มัน...หญิงสาวชะโงกหน้าตรงหัวมุมซอยในขณะนึกถึงเรื่องน่ากลัวขึ้นมาได้
โฮ่งๆๆๆ... เสียงเห่าหนักๆ อันทรงพลังบ่งบอกถึงขนาดของเจ้าของเสียงได้เป็นอย่างดี
...นั่นไง ยังไม่ทันจะขาดคำเลย แล้วฉันจะผ่านไปได้ยังไงล่ะเนี่ย สุนัขกับฉันไม่ถูกกันเอามากๆ เสียด้วย โธ่ๆๆ ยังไม่ทันพ้นหมู่บ้านเลยก็เจออุปสรรคชิ้นโตเสียแล้ว...หญิงสาวคิดอย่างหนักอกพร้อมกับจ้องมองดูอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น
มานี่...เข้าบ้านได้แล้ว เหมือนสวรรค์เข้าข้างหญิงสาวอีกครั้ง เจ้าของบ้านเดินมาเรียกสุนัขตัวโตที่ขวางทางอยู่เข้าบ้าน ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ้มออกมาได้และเริ่มการเดินทางต่ออีกครั้ง
หลังจากเดินวนไปวนมาในหมู่บ้านนานนับชั่วโมง ด้ายแดงก็พาหญิงสาวพ้นจากหมู่บ้านเสียที แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นแม้แต่น้อย
ที่ถนนสายหลักนี้...ถนนที่ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันใช้สัญจรไปมา และนั่นก็ทำให้ด้ายแดงเกลื่อนพื้นถนนไปหมดยิ่งกว่าตอนอยู่ในตัวหมู่บ้านเสียอีก หญิงสาวแทบจะลมจับกับภาพที่อยู่ตรงหน้าและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอคิดจะเลิกล้มความตั้งใจ
...ไม่ได้ ไม่ได้...ตั้งใจแล้วก็ต้องทำ...นี่เป็นโอกาสแล้วที่ฉันจะได้พบกับรักแท้ของฉัน...มันจะเป็นการเดินทางที่จะถูกจดจำไปจนวันสุดท้าย...การเดินทางเพื่อตามหารักแท้...
หญิงสาวเริ่มออกเดินทางอีกครั้งอย่างที่ใจเรียกร้อง มือเริ่มต้นคลำทางไปตามเส้นด้ายสีแดงเส้นที่ส่วนหนึ่งถูกกำอยู่ในมืออีกครั้ง
...บางครั้งที่หญิงสาวชำเลืองมองคนที่เดินผ่านเธอไปมา...เธอเองก็มีความรู้สึกอายไม่ใช่น้อยเหมือนกันที่ต้องทำท่าทางเหมือนกำลังสาวดึงอะไรสักอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็น...
...แล้ววันแรกก็จบลงด้วยการที่หญิงสาวหลับเป็นตายจากความเหนื่อยล้าที่ต้องเดินตากแดดทั้งวันบนเตียงในห้องพักราคาถูก...
จากคุณ :
KTHc
- [
8 มี.ค. 51 21:50:59
]