หรือตั้งใจไปเหงา
สิ่งที่เศร้าที่สุดของความรัก
เห็นจะคือ คนที่เรารัก...ไม่ได้รักเราเลย...
ลองทบทวนดูดีๆ นะว่าจะเลือกทางไหน ระหว่างตัดให้ขาด...ซึ่งความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอาจจะมากมาย แต่ไม่นานมันก็จะหายดี... หรือจะอยู่... อย่างเจ็บปวดตลอดไป ด้วยความรักเพียงฝ่ายเดียว เป็นคำพูดของคนที่เพียงบังเอิญผ่านมา และ...ผ่านไปบนหนทางสายยาวไกลที่เขามา
ริมทะเลตะวันตกกับอากาศที่ร้อนจัดกับการมาโดยไม่ตั้งใจ... นึกถึงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่จะมาถึงที่นี่...ขณะนอนมองเพดานอยู่นานว่าจะทำอะไรดี ไปห้องสมุด ไปสวนจตุจักร ไปพันธุ์ทิพย์ ไปร้านหนังสือ ไปดูหนัง... ไปไหนดี? เวลานั้นคนที่ส่งเสียงมาตามคลื่นโทรศัพท์มือถือ อยู่ที่ชลบุรี... เขาอยู่กับคนที่เขารัก แล้วเราล่ะ? จะต้องอยู่อย่างเศร้าเพียงลำพังอย่างนั้นหรือ?.. เป้สีกรมท่าใบเก่ามีหนังสือหนึ่งเล่มชื่อ มาดเกี้ยว สมุดบันทึก ไปรษณียบัตรและปากกา พร้อม... อาบน้ำ เสื้อยืดจากมูลนิธิเพื่อนช้างถูกนำมาสะบัดสองสามครั้งก่อนสวม กางเกงยีนส์ และรองเท้าหนังคู่เก่า ไม่บ่อยนักที่จะแปลงร่างจากสาวออฟฟิศมาดดีเป็นเด็กกะโปโลที่ผิดแผกอย่างสิ้นเชิงกับวิถีสามัญในเมืองหลวง
แล้วก็พาตัวเองไปยังสถานีรถไฟ ๑๒.๑๕ น. ถึงสถานีหัวลำโพง...
ขอโทษนะคะ รถไฟที่จะออกเที่ยวถัดไปเวลาเท่าไหร่และ สายไหน? เป็นคำถามเมื่อถึงคิวต้องซื้อตั๋ว.. แล้วก็ได้ตั๋วมาเป็นตั๋วหัวหิน ๘๔ บาท ๑๒.๒๕ น. รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากกรุงเทพฯ กรุงเทพฯ สุไหงโกลก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางโดยรถไฟสายใต้ และเป็นครั้งแรกที่.. ลำพัง.. เงียบและเหงาดีแท้... ป่านนี้เขาคงอยู่กับคนที่เขารักอย่างมีความสุข... แต่คนที่เป็นทุกข์กับความรักนั้นเป็นเรา แต่จะว่าไปแล้ว.. เราเองต่างหากที่เลือกให้เป็นเช่นนี้เอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มใจ
ถามตัวเองว่า ไปเพื่อจะหลุดพ้น หรือตั้งใจไปเหงา? แต่ก็สุดปัญญาจะตอบตัวเอง...
บางคำถามเราก็อาจจะมีคำตอบ แต่บางทีเราก็หาคำตอบไม่พบ...
Hi, Where are you going? ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามเป็นชาวต่างชาติ การสนทนาด้วยภาษาต่างถิ่นจึงเริ่มขึ้น, มันทำให้หายเหงาได้ในระดับหนึ่งเพราะต้องคอยคิดคำพูดเพื่อสนทนาลำพังภาษา ไทยก็ยังต้องใช้เวลาคิด แล้วภาษาอังกฤษที่สอบตกไปสามรอบยิ่งทำให้ใช้เวลาอีกเท่าตัว สักพัก...ชายหนุ่มต่างถิ่นก็หมดความสนใจในสาวไทยหน้าแปลกและแปลกหน้า ไปสนทนากับเพื่อนใหม่ชาติเดียวกัน.. สาวน้อยหน้าใสก็เลยถูกวาง ให้ลำพังและเดียวดาย.. เหลือบดูนาฬิกาข้อมือ บ่ายสองโมงเย็นเข้าไปแล้ว รถไฟเพิ่งจะถึงนครชุมน์ อีกนานไหมหนอ...จะถึงปลายทาง.. เฮ้อ หิว.. ก็ตั้งแต่เย็นวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากความเศร้า... เลยเดินไปที่ตู้เสบียง
เลือกที่นั่งได้ริมหน้าต่างโต๊ะสุดท้าย...สั่งข้าวผัดรถไฟราคา ๔๐ บาทมานั่ง ละเลียด เพื่อจะยืดระยะเวลาให้นานที่สุด...การนั่งตู้เสบียงนั้นดีอย่างหนึ่งคือไม่ต้องมีคนมานั่งจ้องหน้า...และมีพื้นที่ว่างพอที่จะวางสมุดบันทึกและเขียนอะไรได้บ้าง...
ขอโทษนะฮะ ที่ตรงนี้มีคนนั่งมั้ย? ชายหนุ่มที่ยืนถือจานข้าวอยู่ตรงข้าม ท่าทางสำรวม ผมยาวของเขาถูกรวบเรียบร้อยด้วยเชือกหนังเส้นเล็ก เขาสวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวหม่น กางเกงเลสีกรมท่าและมีย่ามสะพายอยู่บนไหล่
ไม่มีค่ะ แล้วก็หมดความสนใจในชายหนุ่มแปลกหน้าเพียงเท่านั้น... นอกหน้าต่างเป็นทุ่งหญ้าสลับกับป่าเขาทึบทึม นั่งมองเหม่ออยู่นาน...ชายหนุ่มชวนคุย
ไปไหนเหรอฮะ
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหนดี คุณว่าที่ไหนน่าไปล่ะคะ
แล้วคุณตีตั๋วไปไหนล่ะ
หัวหิน...
ผมกำลังจะไปหินกรูด ที่ประจวบฯ ไปด้วยกันมั้ยล่ะฮะ?
คุณคิดว่าดิฉันจะไปกับคนแปลกหน้า?
ก็แล้วแต่คุณ...ผมเพียงแต่ชวน ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องไป เขายิ้ม
ตกลงค่ะ อย่างน้อยก็ตัดสินใจด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใครมาคอยเตือน... ในเวลานั้น การเริ่มต้นในสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เริ่มขึ้น
บางครั้งการเดินทางโดยไม่ได้ตั้งใจก็ทำให้เราได้รู้ในสิ่งที่
ไม่เคยรู้...
ผมกำลังจะไปสมทบกับกลุ่มที่เดินทางมาก่อนซึ่งรออยู่แล้วที่บ่อนอก และอีกบางคนที่มาพร้อมกันก็อยู่บนรถไฟขบวนนี้ เขาบอกเล่าถึงจุดมุ่งหมายของการเดินทาง
ฉันเคยได้ยินมาเรื่องปลาวาฬบรูด้า โรงไฟฟ้าและ..การประท้วง การสนทนาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจึงได้เริ่มขึ้น
คุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้หรือ? เขาถามขึ้น
อืมม์...ฉันรักเมืองไทยนะ นั่นแปลว่าถ้าการลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วประเทศชาติได้ประโยชน์อย่างแท้จริงก็น่าสนับสนุนไม่ใช่เหรอ ฉันแสดงความคิดเห็น... อย่างที่รู้สึก
แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ถ้าหากว่ามีคนบางกลุ่มที่มีอำนาจสามารถจะปิดบัง หรือบิดเบือนข้อดี, เสีย ของการลงมือดังกล่าวไว้ได้ ประชาชนสามัญสักกี่คนที่จะรู้ความจริง เหตุผลที่เขากล่าวถึงนั้นทำให้ฉันต้องนิ่งและคิด...
แล้วเราจะทำอย่างไรได้ ก็ในเมื่อเราเป็นประชาชนธรรมดา ฉันไม่เข้าใจจึงถามขึ้น
บางทีการไปครั้งนี้อาจจะเปิดมุมมองใหม่ให้ความคิดของคุณได้บ้าง
ฉันก็หวังอย่างนั้น แล้วต่างก็ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาทักทาย
คุณเดินทางโดยไม่มีจุดหมายปลายทางอย่างนี้เสมอหรือ? เขาถามขึ้นทำลายความเงียบ
เป็นครั้งแรกก็ว่าได้... ฉันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้เป็นแบบนี้...เห็นจะเป็นเพราะความรักกระมัง
ฉันบอกเล่าความรูสึกกับคนตรงหน้า ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักและพบเจอกันมาก่อนในชีวิต อาจเพราะในเวลานี้...ฉันไม่มีใครเลยก็ได้ จึงวางใจ... ที่จะบอกเล่าเรื่องราว
ธรรมดาฮะ ผมก็เคยเป็น และก็ยังเป็นอยู่ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากคนแปลกหน้า
ผมรักผู้หญิงคนหนึ่งฮะ แต่เราเป็นเพื่อนกัน ความรักของเราจึงเป็นไปไม่ได้เพราะเธอมีคนรักอยู่แล้ว สิ่งที่ผมจะต้องเลือกมีสองทางคือ อยู่... อย่างเจ็บปวดตลอดไป ด้วยความรักเพียงฝ่ายเดียวหรือตัดให้ขาด...ซึ่งความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอาจจะมากมาย แต่ไม่นานมันก็จะหายดี....คุณรู้มั้ยผมเลือกทางไหน? เขายื่นหน้ามาถาม...
ไม่รู้สิ... ฉันไม่มีคำตอบในเวลานี้หรอกค่ะ แน่ล่ะ ก็เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขานั้นไม่ต่างเลยกับเรื่องของฉัน ไม่ต่างเลย...
นอกหน้าต่างรถไฟ เริ่มมองเห็นทะเลอยู่ลิบตา นั่นหมายความว่าจุดหมายปลายทางของเรานั้นใกล้เข้ามาทุกที
อีกสักครู่ก็จะถึงแล้วล่ะ คุณพร้อมหรือยัง?
พูดเหมือนจะไปรบ... ฉันไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกค่ะ
งั้นลุย.... นาฬิกาบอกเวลา ๑๘.๐๐ น. รถไฟถึงสถานีประจวบฯ เสียงกลองยาวแว่วมาแต่ไกล คนที่ลงจากรถไฟ มีมากกว่าที่เห็นในทีแรก...หลายคนหน้าตาคุ้นเคย นักเขียน นักกวี จิตรกร นักหนังสือพิมพ์และนักข่าว....ฉันได้แต่ยืนอึ้งอยู่กับที่ทันทีที่ลงจากรถไฟ เพราะหลายคนเป็นนั้นมีชื่อเสียง นักเขียนคนที่ยืนข้างๆ เป็นคนเขียนคอลัมน์ในนิตยสารที่ฉันอ่านประจำ เขาหันมายิ้มให้ อีกคนที่อยู่ด้านหน้านั้นเป็นนักกวีมีชื่อเสียง และฉันเองก็ชื่นชอบในผลงานเขามากจนอยากจะเดินเข้าไปขอลายเซ็น.... แต่คนที่ ดึงคอเสื้อ ฉันไว้คือชายหนุ่มที่ชักชวนฉันมานั่นเอง... แล้วก็เพิ่งจะนึกได้ว่าเรายังไม่รู้จักชื่อกันเลย
สวัสดีครับพี่ณต นึกว่าจะไม่มาเสียแล้ว วันนี้เตรียมอุปกรณ์วาดภาพมาพร้อมไหมครับ คนที่เดินเข้ามาทักทายนอบน้อม ทำให้ฉันต้องเลี่ยงไปยืนข้างหลังเขาโดยปริยาย
พี่สาวมาจากมูลนิธิเพื่อนช้างเหรอครับ...เชิญครับเชิญ ยินดีต้อนรับทุกท่าน เขาหันมายกมือไหว้ฉัน และเสียงทักทายปราศรัยกันนั้นดังเซ็งแซ่เหมือนมหกรรมอะไรสักอย่าง
อ่า...คือว่า ฉันยังไม่ทันได้ตอบคำถามด้วยซ้ำ
ครับ มาด้วยกันกับผมเอง คนที่ถูกเรียกชื่อ ณต เป็นคนตอบคำถามนั้นเอง แล้วเขาก็พาฉันมาหลบคนใต้ร่มไม้
ก่อนจะได้ออกทีวี และลงหนังสือพิมพ์ หลบก่อน.. เหนื่อยมั้ย... ต้องขอโทษด้วยนะฮะที่พามาลำบาก เขาถามพลางยื่นแก้วน้ำมาให้ฉัน
ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าคุณมาทำไม... แต่ที่ฉันยังไม่รู้คือ คุณดังแค่ไหนต่างหาก ไม่ทันขาดคำ เขาก็ถูกหาตัวจนพบและถูก ลาก ตัวไปถ่ายภาพร่วมกับคนอื่นๆ
ผมแน่ใจว่าเราจะเจอกันที่บ่อนอก..รถที่มารับ คุณไปกับคันไหนก็ได้..แล้วเจอกันสาวน้อย
แล้วเขาก็หายไปในฝูงชน....
จากคุณ :
ดาริกามณี
- [
10 มี.ค. 51 15:25:12
]