Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องเล่าต่างแดน....ผ้าห่มอุ่นใจ...จากใครคนหนึ่งที่ฉันรัก

    วันนี้ฉันต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน เพราะเพื่อนสนิทคนท้องได้ขอร้องให้ฉันเข้างานแทนเธอ และฉันก็ไม่เคยปฏิเสธการช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน ฉันมีความสุขกับการได้ช่วยเหลือผู้คนเสมอ อะไรที่ฉันช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานได้ ฉันก็มักจะหยิบยื่นและช่วยเหลือตลอด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้จัดการและเจ้าของร้านที่ฉันทำงานอยู่ มักจะรักและเอ็นดูฉันอยู่เสมอ

    ฉันอาจจะเป็นคนขี้เล่นบ้าง ติ๊งต๊องตามประสา พูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนร่วมงานบ่อยครั้ง แต่เวลาทำงานฉันก็ค่อนข้างจริงจังและรับผิดชอบงานเป็นอย่างดีเสมอ ชีวิตของฉันก็เป็นอย่างนี้แหละ ฉันเคยผ่านความลำบากลำบนมามาก การทำงานในระดับนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับฉัน และนับตั้งแต่ที่เข้ามาทำงานที่นี่ ฉันยอมรับว่ามีความสุขกับงานมากๆ แม้ว่าบางวันงานจะยุ่งมากมาย แต่ฉันและเพื่อนร่วมงานต่างก็ช่วยกันรับสถานการณ์และแก้ปัญหาได้ตลอด

    วันนี้ฉันเลิกงานมาตอนประมาณห้าโมงเย็น และยอมรับว่าเหนื่อยล้ามากมาย ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน แฟนก็บอกว่ามีคนส่งกล่องบางอย่างมาให้ฉัน และก็บอกด้วยว่าคนที่ส่งมาให้นั้นคือใคร

    “You got something from Laura.” แฟนบอกเล่าพร้อมทั้งชี้ไปที่กล่องเบื้องหน้า เพราะแฟนเองก็รู้จักเพื่อน ๆ ของฉันทุก ๆ คนมาตลอด

    ฉันอมยิ้มอยู่ในใจเพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะทำเพื่อฉันได้จริง ๆ ในชีวิตของฉันมีเพื่อนรักเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่า ฉันเป็นคนไม่มีเพื่อน ฉันยอมรับว่ามีเพื่อนมากมายที่พบเจอ แต่เพื่อนสนิท เพื่อนแท้ เพื่อนที่ดีจริง ๆ ฉันมีไม่กี่คนเอง แต่สำหรับเพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน และเพื่อนที่คอยแสวงหาผลประโยชน์จากฉันนั้นมีเยอะมาก ฉันไม่เคยคิดมากที่มีเพื่อนแบบนี้ เพราะทุกคนต่างก็มีชีวิตมีเหตุผลที่แตกต่างกัน การได้รู้จักพูดคุยและเรียนรู้ใจกัน คือบทเรียนแรกที่ทำให้ฉันสามารถค้นพบเพื่อนแท้ในชีวิตจริงได้

    Laura เป็นเพื่อนสนิทที่ฉันทำงานด้วยในบริษัท Wal-Mart เมื่อสี่ปีก่อน ลอร์ร่าเป็นเพื่อนคนแรกที่สอนงานให้ฉันในบริษัทนี้ เราสองคนมักจะสนิทสนมและพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง แม้ลอร์ร่าจะอายุห่างกับฉันเป็นยี่สิบปี แต่คงไม่มีใครรู้ว่าเราสองคนกลับพูดคุยกันได้ถูกคอยิ่งนัก สิ่งตรงนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่า ฉันไม่ใช่เด็กสาววัยรุ่นที่มีโลกชีวิตที่สวยงามเหมือนคนอื่น ๆ เขา ฉันมีชีวิตที่เคยลำบากยากเข็ญมาไม่น้อย ดังนั้นชีวิตที่ต้องต่อสู้และพบเจออุปสรรต่าง ๆ นั้น มันสอนให้ฉันเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และสอนให้ฉันได้เข้าใจชีวิตของคนอื่น ๆ ด้วย

    ทุก ๆ ครั้งที่ฉันทำงานกับลอร์ร่า ฉันก็ได้เรียนรู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนดีที่สุด ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนกับลอร์ร่าในยามที่เธอมีชีวิตที่มีความสุขเท่านั้น แต่ฉันเป็นเพื่อนกับลอร์ร่าได้ทุก ๆ สถานการณ์ และก็โชคดีที่ลอร์ร่าเป็นเพื่อนกับฉันตลอดเวลาเช่นกัน วันใดที่ฉันทุกข์ใจหรือคิดถึงบ้านที่เมืองไทย ลอร์ร่าก็มักจะนั่งปลอบโยนให้กำลังใจฉันตลอด บางครั้งที่ฉันถูกลูกค้ารังแกหรือพูดจาไม่สุภาพ ลอร์ร่าก็มักจะรับหน้าแทนฉันเสมอ

    ใช่สิเมื่อสี่ปีก่อนฉันยังเด็กกับประเทศนี้มากนัก หลายอย่างที่ฉันไม่รู้ คำศัพท์บางคำที่ทะลึ่งและไม่ค่อยสุภาพ ฉันก็ไม่รู้ว่าภาษาอังกฤษพูดว่าอะไร แฟนของฉันไม่เคยสอนฉันให้พูดคำไม่สุภาพ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยสอนให้ฉันพูดแต่คำที่สุภาพเท่านั้น ส่วนผู้คนรอบข้างก็ล้วนแต่พูดจาไพเราะเสมอ ดังนั้นฉันจึงไม่เคยรู้ความหมายของคำศัพท์เหล่านี้มาก่อนเลย แต่ในบริษัท Wal-Mart กลับสอนฉันให้รู้จักคำนี้มากขึ้น ซึ่งคนที่สอนฉันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากเพื่อน ๆ ที่ร่วมงานด้วยกันเท่านั้น

    ฉันยังจำภาพเหตุการณ์นั้นได้เสมอ วันที่เพื่อน ๆ ร่วมงานมีปัญหากับลูกค้า และลูกค้าคนนี้ก็ด่าเพื่อนของฉันด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร แต่รู้ว่าคำ ๆ นั้นต้องเป็นคำที่ไม่สุภาพแน่เลย ด้วยความที่ไม่รู้ฉันก็ได้แต่ยืนยิ้มอย่างเดียว จนลอร์ร่าเดินมาสะกิดและก็ถามฉันว่า

    “What’s wrong with you, Nat? Do you know what they talked about?” ลอร์ร่าถามฉันพลางยิ้มไปด้วย

    “I don’t know. Can you tell me what it means?” ฉันไม่ใช่คนเก่ง และก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉลาด สิ่งใดที่ฉันไม่รู้ความหมาย ฉันก็มักจะถามตลอด ฉันยอมเป็นคนโง่ที่จะเรียนรู้ต่อไป ดีกว่าเป็นคนโง่ที่อวดฉลาดให้คนอื่นหัวเราะในภายหลัง

    S.B. = Son of a bitch เป็นคำศัพท์ที่ไม่สุภาพคำแรกที่ฉันเรียนรู้จากเพื่อนที่นี่ และอีกหลาย ๆ คำที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน แม้ว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะสอนให้ฉันรู้จักคำนี้ แต่ทุกคนก็มักจะบอกฉันเสมอว่า อย่าได้เอาไปใช้เพราะมันไม่สุภาพและมันไม่ดีด้วย

    แน่นอนฉันยังคงจดจำคำนี้ไว้เสมอ ฉันเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ แต่การใช้คำศัพท์เหล่านี้นั้น ฉันก็มักจะคิดเสมอก่อนที่จะพูดบางคำออกไป ถ้าคนที่ฉันไว้ใจและเชื่อใจจริง ๆ ฉันอาจจะพูดหยอกเล่นคำศัพท์ที่ทะลึ่ง ๆ ได้ โดยที่ไม่มีการถือตัวเลยสักนิด แต่ถ้าคนที่ฉันไม่ไว้ใจฉันก็มักจะวางตัวตลอด

    ฉันได้เรียนรู้และมีวิธีการจัดการกับลูกค้าแสบ ๆ ด้วยคำว่า Too ทุกครั้งที่มีลูกค้านิสัยไม่ดี พูดจาไม่สุภาพกับฉัน และถือโอกาสด่าฉันด้วยถ้อยคำหยาบ ๆ ฉันก็มักจะด่าตามคำที่ลูกค้าด่าให้ฉัน และก็เติมคำว่า Too ลงไป ซึ่งก็เหมือนกับว่าฉันได้ตอบแทนคนที่มอบคำนั้นให้ฉันเช่นกัน

    ชีวิตการทำงานที่วอลมาร์ทไม่ได้ให้ฉันเรียนรู้แต่สิ่งที่ไม่ดีเท่านั้น ฉันยังคงได้เรียนรู้สิ่งดี ๆ เช่นเดียวกัน และที่สำคัญฉันก็ได้เพื่อนแท้เพื่อนที่ดีคนหนึ่งมาด้วย ฉันยังจำได้ว่าวันใดที่ฉันเหนื่อยและท้อ ฉันก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเงียบ ๆ และไม่ค่อยพูดจากับใคร วันใดที่ลอร์ร่าเห็นอาการของฉันแบบนั้น เธอก็มักจะมานั่งเป็นเพื่อนเสมอ และก็ถามไถ่ฉันตลอด

    “Nat, are you ok my girl?” แม้จะเป็นคำถามที่ดูธรรมดา แต่ใครจะรู้ว่าเป็นคำถามที่มีความหมายกับฉันมาก

    การได้บอกเล่าความเหงาและความคิดถึงบ้านให้เพื่อนได้ยินได้ฟังนั้น เหมือนกับฉันได้ระบายความในใจออกมาบ้าง ฉันมีความสุขกับชีวิตเป็นอย่างมาก แต่ทำไมความสุขเหล่านั้น มันไม่ได้ฆ่าความคิดถึงบ้านไปได้เลย ฉันยังคงเป็นคนที่คิดถึงบ้านมากที่สุด และทุกครั้งที่ลอร์ร่าเห็นอาการของฉัน ก็มักจะมานั่งถามฉันเสมอว่า

    “How is your family? Do you get to talk with them a lot?”

    คำว่าเพื่อนไม่ได้ห่วงใยเฉพาะตัวฉันเท่านั้น แต่เพื่อนคนนี้ยังคงถามไถ่ถึงครอบครัวของฉันด้วย ซึ่งเธอไม่เคยพบเจอและเห็นหน้ากันมาก่อนเลยสักนิด ฉันรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่รู้ว่าเพื่อนไม่ได้รักฉันคนเดียว แต่รักทุกคนที่เป็นดวงใจของฉัน

    ฉันไม่ได้เป็นคนที่รับความรักและความห่วงใยจากเพื่อนแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่บางครั้งฉันก็มักจะเป็นเพื่อนที่คอยปลอบโยนลอร์ร่าเช่นเดียวกัน วันใดที่ฉันเห็นลอร์ร่าไปนั่งที่ห้องพักพนักงาน และก็มีสีหน้าคร่ำเครียด พร้อมทั้งเดินออกไปนั่งสูบบุหรี่ข้างนอก ฉันก็มักจะเดินตามลอร์ร่าไปนั่งข้าง ๆ เสมอ และก็มักจะเอ่ยถาม

    “Are you ok, Laura?” ฉันรู้สึกอย่างไรก็ถามเพื่อนไปตรง ๆ แบบนั้น ทั้งชีวิตของฉันมีเพื่อนหลายแบบหลายสไตล์ ทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป แต่คำว่าเพื่อนสำหรับฉันแล้ว เธอคือคนที่ดีที่สุด ฉันรู้ดีเสมอว่าทุกชีวิตในโลกนี้ไม่มีใครดีไปหมดทุกอย่าง แต่ฉันก็รักทุกอย่างที่เพื่อนเป็น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เพื่อนฉันส่วนใหญ่มักจะชอบสูบบุหรี่กัน ไม่พอแค่นั้นแต่ละคนก็มีความชั่ว เลว แตกต่างกัน คนบางคนอาจจะมองไม่ดีสำหรับผู้หญิงที่สูบบุหรี่ แต่กับค่านิยมของฝรั่งที่นี่นั้น มองผู้หญิงที่สูบบุหรี่เป็นเรื่องธรรมดาเท่านั้น

    แม้ฉันจะมีเพื่อนสูบบุหรี่หลายคน แต่ฉันก็ไม่เคยลองหรือหัดสูบบุหรี่เลยสักครั้ง ฉันอาจจะเป็นคนที่แพ้ควันบุหรี่แต่ฉันก็มีความอดทนอยู่บ้าง ทุกครั้งที่ไปนั่งพูดคุยปลอบโยนเพื่อน ลอร์ร่าก็มักจะหลบและมานั่งตรงจุดที่ควันบุหรี่ไม่เข้ามาใกล้ตัวฉันเสมอ เพราะเธอรู้ดีว่าฉันแพ้มัน และเธอก็คงไม่ต้องการให้ฉันสัมผัสควันบุหรี่ด้วย ฉันยอมรับว่ารักเพื่อนและก็มักจะเตือนเพื่อนเท่าที่ฉันจะทำได้

    “You smoke too much. Are you scared to get cancer? I worry about your health.” ฉันมักจะพูดแบบนี้กับเพื่อนตลอด และทุกครั้งที่เห็นเพื่อนอัดบุหรี่เอาเป็นเอาตาย ฉันก็อดห่วงไม่ได้

    “I can’t stop, Nat. Thanks for worrying about my health but I’m fine.” ความเป็นเพื่อนไม่ได้วัดที่ว่ามุมมองของฉันคือสิ่งที่ถูกที่สุด แต่สำหรับเพื่อนแล้ว การเคารพสิทธิและการตัดสินใจของเพื่อน คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉัน

    มีต่อค่ะ
    V
    V
    V

    จากคุณ : roslita - [ 11 มี.ค. 51 12:35:19 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom