ตอนที่ 1-30 http://my.dek-d.com/linmou/story/view.php?id=328741
ตอนที่ 31
ภูตบัวหิมะ
...ขอร้องล่ะ ! ได้โปรดอย่าเพิ่งหายไปนะ !...
หมิงหลุนอุ้มเหมียนฉิววิ่งสุดฝีเท้าตรงไปยังยอดเขาหิมะซึ่งปรากฏแสงเหนือ แม้จะหายใจลำบาก และยิ่งวิ่งเข้าไปใกล้ก็ยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บมากขึ้นทุกขณะ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจ ในศีรษะคิดแต่เพียงว่าเขาจะต้องไปนำภูตบัวหิมะมาให้จงได้ !
แต่แล้วระหว่างที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างสุดกำลัง ชายหนุ่มก็ต้องรีบชะงักเท้าอย่างปุบปับพร้อมกับร้องอุทานลั่น
เหวอ !
ปรากฏว่าตรงหน้าได้ปรากฏเหวลึกนับหมื่นวาขวางกั้นเอาไว้ และยอดเขาหิมะซึ่งมีแสงเหนือปรากฏก็อยู่ห่างออกไปอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ขณะที่ความสิ้นหวังเริ่มผุดขึ้นในใจของหมิงหลุน เหมียนฉิวก็แผดเสียงคำรามก้อง
กรร...!
หมิงหลุนก้มลงมองเหมียนฉิวทันทีอย่างประหลาดใจ
เหมียนฉิว ? โอ๋ ?
เสียงอุทานอย่างประหลาดใจเปลี่ยนเป็นอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงเมื่อชายหนุ่มพบว่าเท้าได้ลอยพ้นจากพื้นเหาะตรงไปยังยอดเขาหิมะอย่างน่าอัศจรรย์ !
โอ้โฮ !
หมิงหลุนอ้าปากค้างเมื่อร่างเหาะข้ามแนวผาลึกที่เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงเมื่ออึดใจก่อนและกลับลงมายืนบนพื้นอีกครั้งเมื่อห่างจากตำแหน่งยอดเขาประมาณเกือบสิบวา ชายหนุ่มร้องขอบคุณเหมียนฉิวอย่างดีใจสุดขีดพร้อมกับกอดมันแน่น
ขอบใจเจ้ามาก เหมียนฉิว !
ฮื่อ... เหมียนฉิวเบี่ยงตัวเลี่ยงออกจากอ้อมแขนของหมิงหลุนกระโดดลงบนพื้นแล้ววิ่งตะบึงขึ้นสู่ยอดเขา ทำให้หมิงหลุนนึกถึงเรื่องที่ต้องทำขึ้นได้
จริงสิ นี่ไม่ใช่เวลาจะมาพูดถึงเรื่องนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ เดินตามเหมียนฉิวขึ้นไปใกล้ๆ ยอดเขาอย่างเงียบกริบ
บนยอดเขาซึ่งปรากฏม่านแสงสารพัดสีพลิ้วไหวอยู่วูบวาบนั้น ภูตซึ่งมีขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือ ทั่วทั้งตัวเปล่งแสงเรืองรอง และมีดอกไม้สีขาวบานอยู่บนหน้าอกหลายตนกำลังดูดซับธาตุพลังของแสงเหนือกันอยู่เงียบๆ สีหน้าของพวกมันดูสงบนิ่งอย่างมากโดยที่ต่างก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าอันตรายได้คืบคลานเข้ามาใกล้พวกมันเพียงแค่เอื้อม
ฟุ่บ !
เหมียนฉิวพุ่งวาบเข้าหาภูตบัวหิมะตนหนึ่งในกลุ่มด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
จิ๊ก...!
ภูตบัวหิมะส่งเสียงร้องลั่นแล้วแตกฮือหนีไปคนละทิศละทางทันที กระนั้นก็มีอยู่ตนหนึ่งที่ถูกเหมียนฉิวเหยียบเอาไว้ใต้เท้า
เก่งมาก เหมียนฉิว ! หมิงหลุนร้องตะโกนอย่างลิงโลด คงไม่ต้องบรรยายว่าชายหนุ่มดีใจมากแค่ไหนที่เห็นเหมียนฉิวจับภูตบัวหิมะได้สำเร็จ ...คราวนี้เฉิงกวงก็รอดตายแล้ว !...
แต่แล้วขณะที่หมิงหลุนกำลังนึกว่าจะได้กลับโรหิตนครไปช่วยเฉิงกวงกันเสียทีนั่นเอง เหตุการณ์ประหลาดก็พลันอุบัติเมื่อภูตบัวหิมะตนอื่นๆ ไม่ได้ผละหนีจากไป แต่พากันยืนมองภูตบัวหิมะตนที่ถูกเหมียนฉิวเหยียบเอาไว้อยู่ห่างๆ นัยน์ตาของพวกมันแต่ละตนเต็มไปด้วยประกายอ้อนวอนประหนึ่งกำลังขอร้องให้ปล่อยพวกพ้องของมันกระนั้น
จิ๊กจิ๊ก !!
ภูตบัวหิมะตัวที่ถูกเหมียนฉิวเหยียบพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต มันมองไปยังผองเพื่อนที่ยังคงยืนดูอยู่ห่างๆ ด้วยแววตาร้อนใจ
โอ๋ ? หมิงหลุนพอจะดูออกถึงมิตรภาพระหว่างพวกพ้องของภูตบัวหิมะแล้ว แต่ชายหนุ่มเองก็ลำบากใจเช่นกัน เพราะเฉิงกวงกำลังรอให้เขากลับไปช่วยอยู่ กระนั้นภูตบัวหิมะก็เป็นชีวิตเหมือนกันนี่สิ
เหมียนฉิวก้มลงคาบภูตบัวหิมะที่ใต้อยู่เท้าขึ้นมาแล้วส่งเสียงขู่คำรามไปทางภูตบัวหิมะตนอื่นๆ ที่เหลือ ราวกับจะเอ่ยเตือนให้พวกมันจากไปเสีย
ฮื่อ !
ขอโทษด้วยนะ น้องชายของข้ากำลังป่วยหนักเป็นตายเท่ากันและรอให้ข้านำภูตบัวหิมะกลับไปช่วยอยู่ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องช่วยชีวิตเขาให้ได้ ขอพวกเจ้าโปรดยกโทษให้ข้าด้วยเถิด หมิงหลุนเอ่ยอย่างเสียใจกับภูตบัวหิมะตนอื่นๆ ที่เหลือ
จิ๊กจิ๊ก ! เหล่าภูตบัวหิมะพากันกระโดดเร่าๆ เหมือนกำลังร้อนใจอย่างมาก
ฮื่อ ! เหมียนฉิวหันไปร้องคำรามกับหมิงหลุนเป็นเชิงบอกให้รีบไปจากที่นี่กันได้แล้ว
จิ๊กจิ๊ก ดูเหมือนภูตบัวหิมะทั้งหลายจะดูออกแล้วว่าพวกหมิงหลุนไม่ได้มีเจตนาร้าย จึงมีภูตบางตนอ้อมไปอยู่ทางด้านหลังของทั้งสองเพื่อจะล้อมทั้งสองเอาไว้
โอ๋ ? หมิงหลุนอุทานอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นภูตบัวหิมะต่างพยายามทำมือทำไม้โดยไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร แต่ดูจากท่าทางแล้วเหมือนกับว่าต้องการให้พวกเขารอสักครู่
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนึกลังเล ก็พลันปรากฏลำแสงสารพัดสีลำหนึ่งทอดตัวจากยอดภูเขาหิมะอีกลูกมาจนถึงตำแหน่งที่เขายืนอยู่ ครั้นแล้วภูตบัวหิมะตนหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าภูตบัวหิมะตนอื่นๆ ก็เหยียบย่างบนลำแสงนี้ตรงเข้ามาหาเขากับเหมียนฉิว
เมื่อภูตบัวหิมะที่ก้าวย่างบนลำแสงเดินมาถึงยอดเขาลูกนี้ ก็มีภูตบัวหิมะที่ล้อมหมิงหลุนกับเหมียนฉิวจำนวน 2-3 ตนตรงเข้าไปหาและส่งเสียงจิ๊กๆ เป็นการใหญ่พร้อมกับทำท่าทำทางประกอบ ราวกับว่ากำลังเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ภูตบัวหิมะที่มาใหม่ฟัง
หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ภูตบัวหิมะที่มาใหม่ก็เดินตรงเข้ามาหาหมิงหลุนกับเหมียนฉิว จากนั้นกระแอมเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า
อะแฮ่มๆ ! ที่ท่านทั้งสองมายังสถานที่นี้ ก็เพื่อจะมาจับคนในเผ่าของข้าไปช่วยชีวิตผู้อื่นใช่หรือไม่ ?
เมื่อได้ยินภูตบัวหิมะตรงหน้าพูดภาษามนุษย์กับตน หมิงหลุนก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
หา ! ท่านพูดได้ด้วยหรือ !
ถูกแล้ว ข้าคือผู้อาวุโสแห่งภูตบัวหิมะ ภูตบัวหิมะตรงหน้ากล่าวตอบ ความสามารถนี้ท่านทูตแห่งเทพเป็นผู้ประทานให้แก่ข้า
เหมียนฉิวใจกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินคำว่าทูตแห่งเทพ
ทูตแห่งเทพ ? หมิงหลุนทวนคำ หมายถึงผู้ที่เคยมาที่นี่คนก่อนหน้านี้นะหรือ ?
ถูกแล้ว ในตอนนั้นถึงแม้ท่านทูตแห่งเทพจะผละจากไปในทันทีที่จับคนในเผ่าของข้าได้เหมือนเช่นผู้ซึ่งมาจับผู้คนในเผ่าของข้าคนอื่นๆ แต่สุดท้ายท่านก็ย้อนกลับมาและรั้งอยู่สนทนากับพวกเรา ทว่าเนื่องจากท่านไม่สามารถฟังภาษาของพวกเราเข้าใจ การสื่อสารระหว่างเราทั้งสองฝ่ายจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ด้วยเหตุนี้ท่านทูตแห่งเทพจึงประทานความสามารถในการพูดภาษามนุษย์ให้แก่ข้า...
......
ท่านทูตแห่งเทพ ด...ได้โปรดอย่าจับเขาไปเลย
ผู้อาวุโสแห่งภูตบัวหิมะรู้สึกไม่ค่อยคุ้นนักเนื่องจากเพิ่งจะเคยพูดภาษามนุษย์เป็นครั้งแรก
แต่ว่า...ท่านพ่อของข้า... ทูตแห่งเทพมีสีหน้าลำบากใจอย่างยิ่ง
บิดาของท่านป่วยเป็นโรคใดหรือ ?
ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกัน สุขภาพของท่านพ่อข้าแย่ลงเรื่อยๆ ข้าเกรงว่าหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ท่านพ่อคงจะฝืนทนอยู่ได้อีกเพียงไม่นานเป็นแน่
ถ้าเช่นนั้นใช้หินหนฺวี่วาน่าจะดีกว่ากระมัง
หินหนฺวี่วาถูกท่านแม่ของข้าใช้ไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อตอนที่ข้าเกิด ข้าจึงไม่สามารถใช้หินหนฺวี่วาได้อีก ทูตแห่งเทพส่ายหน้าอย่างโศกเศร้า ดังนั้นจึงได้แต่ใช้ติ่งเทพพฤกษาทดลองดู และนี่ก็เป็นความหวังสุดท้ายแล้วด้วย !
......
เฮ้อ...น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่ปรานี
บิดาของท่านทูตแห่งเทพป่วยเป็นอะไรหรือ ? ถูกพิษจ้างใช่หรือไม่ ? หมิงหลุนกลั้นใจถาม เพราะหากบิดาของท่านทูตแห่งเทพถูกพิษจ้างละก็ อย่างนั้นเฉิงกวงก็อันตรายอย่างมากน่ะสิ !
น่าจะมิใช่ดอก เพราะหากเป็นพิษจ้างละก็ เพียงใช้สัตภูตหลอมในติ่งเทพพฤกษาเป็นเวลาสามวัน ก็สามารถใช้เป็นโอสถรักษาได้แล้ว ผู้อาวุโสภูตบัวหิมะตอบ
จริงหรือท่าน ! ถ้าอย่างนั้นเฉิงกวงก็รอดตายแน่แล้วน่ะสิ ! หมิงหลุนหน้าบานทันที ในที่สุดชายหนุ่มก็มองเห็นความหวังฉายแสงเจิดจ้าจนได้ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหุบยิ้มเปลี่ยนเป็นทำหน้าลำบากใจอย่างยิ่งเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ แต่ว่า...ไม่ว่าข้าจะจับภูตบัวหิมะตนใดไป พวกท่านก็ต้องเศร้าเสียใจทั้งนั้นถูกหรือไม่ ?
ผู้อาวุโสบัวหิมะได้ฟังก็เอ่ยกลั้วหัวเราะ
อย่าได้กังวลไปเลย ! ความจริงที่ใครต่อใครต่างพากันคิดว่าพวกเราภูตบัวหิมะมีสรรพคุณในการรักษาโรค เป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น เพราะสิ่งที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคที่แท้จริงคือดอกบัวหิมะที่อยู่บนร่างของพวกเราต่างหาก
ในกาลก่อนตอนที่ยังไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจกันได้ ไม่ทราบมีภูตบัวหิมะกี่รายต่อกี่รายที่ต้องถูกจับไปด้วยความเข้าใจผิดนี้...
ดอกบัวหิมะหรือ ? หมิงหลุนสังเกตเห็นดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ ซึ่งบานอยู่บนอกของภูตบัวหิมะ จึงชี้ไปยังดอกไม้นั้นพร้อมกับถามว่า คือดอกไม้นี้นะหรือ ?
ถูกแล้ว ! พวกเราภูตบัวหิมะเป็นภูตซึ่งอาศัยอยู่ในภูเขาหิมะขั้วโลก ปกติจะอาศัยดูดรับแสงเหนือเป็นอาหาร จากนั้นใช้พลังภูตนำมาเก็บเอาไว้ในดอกไม้ภูตซึ่งอยู่ตรงหน้าอก ด้วยเหตุนี้สิ่งที่มีสรรพคุณเป็นตัวยาอย่างแท้จริงคือดอกบัวหิมะเหล่านี้ต่างหาก
ถ้าเช่นนั้นหากข้าเด็ดดอกบัวหิมะของพวกท่านออกมา พวกท่านจะตายหรือไม่ ? หมิงหลุนถามอย่างระมัดระวัง
ย่อมจะไม่ตายอยู่แล้ว ! เพียงแต่พวกเราต้องอาศัยเวลาในการสะสมพลังอีกพักหนึ่ง ดอกบัวหิมะจึงจะงอกออกมาดังเดิม ดังนั้นความจริงแล้วพวกท่านไม่จำเป็นต้องลำบากลำบนมาจับพวกเราสักนิด ขอเพียงบอกพวกเราสักคำว่าต้องการดอกบัวหิมะ พวกเราก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะส่งมันไปให้ผู้ซึ่งกำลังป่วยหนักเอง
จากคุณ :
Linmou
- [
17 มี.ค. 51 07:04:47
]