ความคิดเห็นที่ 1 10. โดมพิพากษา (ครี่งหลัง) รามิตไม่ตอบ กลับเอื้อมมือช่วยพยุงร่างของทิวากาลที่ล้มอยู่บนพื้น เมื่อชายผู้มากวัยกว่าได้สติจึงเอี้ยวตัวไปช่วยเหลือหญิงรับใช้ และจึงหยิบเอาไม้เท้าตนขึ้นมาจากพื้นห้อง “เจ้ากลับมาแบบนี้ แล้วใคร....” ทิวากาลกล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ เขาทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงบนไม้เท้า ดูท่าทางอิดโรยมากขึ้นกว่าเดิม “ข้าส่งคนอื่นไปแทนแล้วขอรับ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง” รามิตตอบ มัสลินที่ยืนอยู่ด้านข้างของทิวากาลคล้ายจะถามบางอย่าง หากทว่ากลับโดนคนผู้หนึ่งชิงพูดเสียก่อน “เจ้ามาสายชะมัดยาด!” บุษบรรณแผดเสียงใส่เด็กหนุ่ม แม้จะโดนเวทสกัดพลังไว้ หากเธอยังคงคือเทพนักรบผู้ห้าวหาญคนเดิม เมื่อบุษบรรณเดินเข้ามาใกล้ รามิตจึงใช้ปลายนิ้วแตะที่หน้าผากเธอเบาๆ แล้วจึงกล่าวเวทสลายอาคมให้ เด็กสาวรู้สึกมีกำลังวังชากลับมาเป็นดังเดิม เธอชี้ไปทางวาริช “ไอ้หนอนเน่าแก่น่าเกลียด! เจ้าคลั่งพลัง! ดูซิว่าคราวนี้เจ้ายังกล้าทำอะไรข้า” หากก่อนที่บุษบรรณจะอาละวาด รามิตรีบก้าวเข้ามาขวางไว้ และรีบกล่าวแทน “ข้ารู้ว่าอธิบายอย่างไร ท่านคงไม่เชื่อว่าข้าและบุษบรรณไม่มีส่วนรู้เห็นกับการลอบทำร้ายท่านกัญหา” วาริชรีบลุกขึ้นยืน ในทีแรกเขาไม่แน่ใจว่าผู้ที่เพิ่งลงจากหลังมังกรนั้นใช่รามิตคนเดิมหรือไม่ เพราะเด็กหนุ่มผมสีเงินอมทองที่เขาเคยเห็นนั้นช่างให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรามิตในร่างทูตแห่งรัตติกาลในขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง ต่อแต่เมื่อได้ยินทิวากาลเรียกชื่อรามิต เขาจึงค่อยแน่ใจ “เจ้าสาวกดำ! เจ้ายังกล้ากลับมาที่นี่อีกรึ?” .“นั่นน่าจะเป็นคำพูดของข้ามากกว่า” แม้กระทั่งน้ำเสียงของรามิตก็เปลี่ยนไป “ท่านสั่งให้คนของท่านกุมตัวข้าไว้ในโดมเพื่อให้สิ้นพลัง บังคับให้เทพแห่งทิศเหนือโยนความผิดมาให้ข้า ท่านยังนับว่าเป็นเทพผู้สูงส่งอีกหรือ?” “เจ้ามนุษย์ชั้นสวะ! อย่านึกว่าเจ้ามาในฐานะทูตแล้วข้าจะไม่กล้า” “ดูจากพฤติกรรมของท่านที่แล้วมานั้น ข้าเองก็ไม่คิดหรอกว่าท่านจะไม่กล้า” รามิตย้อน “แก!  มันจะมากไปแล้ว” หัสรังสีตะโกนลงมาจากชั้นที่นั่ง “เป็นเพียงข้ารับใช้ชั้นต่ำ ของเจ้าฆาตกรนั่น” สิ้นคำผรุสวาทของหัสรังสี รามิตหันขวับมาทางหัสรังสี ตลอดมาเขาพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับเทพตะวันออก ด้วยถือว่าอีกฝ่ายเป็นเทพที่สูงส่งเช่นเดียวกับจ้าวปราสาท แต่หลายครั้งหลายคราเขาอดคิดไม่ได้ว่าสุริยเทพที่ดำรงตนอยู่ในสถานะวรรณะชั้นสูง ดังเช่นทรงกลดผู้เปี่ยมเมตตา และสติปัญญา กระทั่งทิวากาลที่แม้จะมีร่างพิกลพิการ เสื่อมโทรมยิ่งฤษีพงไพร หากทว่ากลับเป็นผู้ที่แยกแยะผิดถูก ได้โดยไร้อคติมาบดบัง แต่เหตุใดหัสรังสีซึ่งบัดนี้ แม้ยังไม่ได้ครองตำแหน่งโดยสมบูรณ์ แต่ก็ปฏิเสธมิได้ว่า คนผู้นี้คือ จ้าวเทวาทิศแห่งตะวันออกคนต่อไป ไฉนจึงกอปรไปด้วยโทสะเพียงนี้ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 51 19:18:22 จากคุณ : run saya - [ 22 มี.ค. 51 23:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 “ท่านหัสรังสี ” รามิตจ้องมองไปที่ทายาทแห่งตะวันออกอย่างไม่เกรง เขาจงใจเรียกชื่อจริงของชาวเทพที่มีสายตระกูลสูง ทั้งๆ ที่ปรกติแล้วต่อให้ขึ้นชื่อว่าเป็นศิษย์เอกแห่งจอมเทพ หรือทูตจากศิลาลัย หากสถานะที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาจะกระทำอย่างนี้มิได้โดยเด็ดขาด “ข้านึกเสียดายแทนท่านนัก” หัสรังสีหรี่ตาข้างหนึ่ง และโดยไม่มีการบอกล่วงหน้า เขาเผ่นโผนลงมาจากชั้นที่นั่งพร้อมกับชักดาบประจำกาย แม้ว่าจ้าวแดนตะวันออกจะมีเวทในตัวสูงกว่าชาวเทพทั่วไป หากก็ยังไม่สูงพอที่จะสามารถเรียกคทาทิศออกมาใช้ตามใจนึกได้เหมือนทรงกลด หรือวิษณุวัติ อีกทั้งก่อนหน้านี้หัสรังสีมิได้เดินทางไปถวายคำปฏิญาณต่อพักตร์จอมเทพ หากเพียงแค่ส่งคทาทิศไปเป็นตัวแทน ดังนั้นอาวุธสูงสุดแห่งแดนตะวันออกจึงยังอยู่ที่มหาวิหารแห่งศิลาลัย เมื่อเห็นจ้าววังตะวันออกจู่โจมด้วยเวทศัตราวุธ รามิตชักอาวุธที่ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังออกมารับมือ พร้อมกับตะโกนให้คนอื่นล่าถอยออกไปโดยเร็ว แม้แต่อุดากันยังใช้สัณชาตญาณของสัตว์ที่มักหลีกหนีภัยร้าย มันจึงรีบบินหนีออกไปทางช่องกระจกที่แตกทันที อาวุธสองชนิดปะทะกันกลางอากาศ แม้ความแรงของเวทจะไม่รุนแรงถึงขนาดเขย่าปฐพีเหมือนครั้งที่ทั้งสองเคยฟาดฟันกันด้วยคทาทิศมาแล้ว หากอาวุธทั้งสองก็นับว่าเป็นเอกแห่งอาณาจักร ดาบที่หัสรังสีติดกายไว้ไม่เคยห่างนี้คือ ดาบปาวากะ หรือดาบไฟ เพราะยามใดที่มันได้กรีดเลือดเนื้อลงบนร่างของคู่ต่อสู้แล้วจะทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ราวกับโดนกรีดด้วยอัคคี ทั้งยังทำให้บางส่วนของผิวหนังไหม้เกรียม นับเป็นศัตราวุธที่น่ากลัวยิ่ง บุษบรรณนั้นนึกแปลกใจอยู่แล้วตั้งแต่เห็นรามิตใช้อาวุธที่มีคมบางอย่างฟันพัดของกัญหาจนกระจุยบนลานพลุเพลิง เพราะเธอเป็นเทพนักรบ ย่อมนิยมศึกษาอาวุธทุกประเภท แต่ในค่ำคืนนั้นมืดเกินไปทำให้เธอไม่ได้เห็นอาวุธนั้นถนัดตา แต่บัดนี้เพราะความรุนแรงของเวทมนตราที่ต้องร่ายออกมาใช้ป้องกันและจู่โจมทำให้เธอได้เห็นอาวุธปริศนาทั้งเล่ม มันมองคล้ายดาบเรียวโค้งที่ถูกยืดออกทั้งสองข้าง มีด้ามจับอยู่ตรงกลางระหว่างใบดาบทั้งสอง เมื่อคะเนความยาวทั้งหมดของดาบประหลาดนี้ ทำให้บุษบรรณนึกฉงนว่ามันถูกซ่อนอยู่ด้านหลังเข็มขัดของรามิตได้อย่างไรโดยไม่มีใครสังเกต แม้พลังและฝีมือยังไม่บรรลุจุดสุดยอด หากหัสรังสีก็คือว่าที่จ้าวแดนตะวันออก จ้าวเทวาทิศหนึ่งในสี่เทพประมุขที่จะกลายมาเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดในอนาคต ดาบแห่งไฟที่ฟาดลงมาพร้อมกับเวทรุนแรงนั้น ทำให้รามิตถึงกับต้องถอยหลังไปหลายก้าวจนเมื่อหางตามองเห็นว่าร่างตนกำลังจะกระแทกกับผนังหินด้านหลัง จึงรวบรวมกำลังยันคู่ต่อสู้ออกไปโดยแรง หัสรังสีตีลังกากลางอากาศ พริ้วร่างลงกลางโถง เมื่อปลายเท้าสัมผัสพื้น เทพตะวันออกจงใจใช้แรงดีดส่งตัวเองเข้าจู่โจมอีกครั้งเพื่อมิให้คู่ปฏิปักษ์ได้ตั้งตัว การร่ายเวทครั้งนี้มิเพียงแต่เฉียบคมและยังมีกำลังอีกด้วย แต่เขาคงลืมนึกไปว่า สาวกดำผู้นี้คือผู้ที่ได้รับการฝึกฝนโดยตรงจากจอมเทพแห่งศิลาลัย ดาบปาวากะจึงได้แต่ฟันโครมลงบนผนัง เป็นผลทำให้ผนังบริเวณนั้นเกิดไฟลุกพรึ่บขึ้นมาทันใด รามิตขยับกายหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว แต่หัสรังสีเองจะมีใจย่อท้อก็หาไม่ เขาวาดดาบออกมาในแนวขนานหมายเพื่อสังหารในดาบเดียว เปลวไฟลามเลียไปทั่วใบดาบแลคล้ายรังสีของสุริยา แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 23:03:33 จากคุณ : run saya - [ 22 มี.ค. 51 23:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รามิตไม่มีทางเลือก เขายกคมอาวุธเข้าขวางทางพร้อมกันนั้นเพียงแค่เขาพลิกข้อมือ ย่อกายลงนิดหนึ่งใบดาบอีกด้านหนึ่งก็ตวัดวกกลับไปทางฝ่ายตรงข้าม หัสรังสีชักอาวุธตนกลับมารับคมอาวุธที่พลันพลิกผันในทันใด แต่ถึงกระนั้นก็ปลายดาบก็เฉียดคางของจ้าววังตะวันออกไปเพียงคืบเดียว หัสรังสีใช้ช่วงเวลานั้นถดถอยออกมา พลางประเมินความร้ายกาจของอาวุธประหลาดที่ไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน แต่กระนั้นก็ไม่เท่ากับการที่ผู้ถือสามารถใช้มันอย่างช่ำชอง คราวนี้หัสรังสีวาดดาบไฟออกมาอีกครั้งก่อเกิดเป็นเส้นวงของพระเพลิงขยายออกเป็นวงกว้าง สาวกดำไม่ได้ตั้งรับกำลังเวทนั้นอย่างเดิมหากหลีกหนีการปะทะพราะรู้ว่าหากใช้เวทรัตติกาลร่วมกับศัตราวุธชนิดนี้แม้สามารถหยุดยั้งสุริยเวทของเทพตะวันออกได้ หากทว่าจะบังเกิดแรงต่อต้านที่มีความรุนแรงเป็นทวีคูณ รามิตจึงพลิกกายหนีกระโดดขึ้นไปบนชั้นที่นั่ง ลำแสงพระเพลิงจึงกระทบเข้ากับผนังหินจนเกิดรอยร้าวเป็นทาง หากคนใช้ดาบไฟยิ่งบันดาลโทสะ เผ่นโผนโจนทะยานไปหาศัตรูที่คอยท่าอยู่ด้านบนด้วยฤทธี กระแสมนตราแผ่มายังผู้ที่ยืนรับมือ รามิตเห็นจวนตัวจึงต้องเรียกเวทรัตติกาล “ข้าขอสักการะผู้ครองอาณาจักรใต้ดิน ผู้เป็นดั่งกระดูกแห่งธรณี และที่สถิตแห่งบรรพบุรุษ จงสำแดงพลังแห่งพิภพ และจิตวิญญาณแห่งโลกา” ทันใดนั้นบังเกิดคลื่นหมอกสีดำตรงเข้าปะทะกับวงแห่งอัคคีราวกับทั้งสองเป็นแม่เหล็กขั้วเดียวกัน แรงที่ต้านกันนั้นทำเอาโดมพิพากษาทั้งหลังสั่นสะเทือน แกนหลังคาที่โดนทำลายไปแล้วครึ่งหนึ่งอาจจะพังลงมาเมื่อใดก็ได้ คนในห้องต่างพากันวิ่งออกจากห้องเพื่อเอาตัวรอด หากทิวากาลยังยืนรอดูเหตุการณ์อยู่ คล้ายกับไม่แน่ใจจะช่วยเหลือฝ่ายไหนดี แรงต้านของคลื่นพลังทั้งสองสายทำให้ทั้งคู่ต้องพลิกกายหนีกลับมาประจันหน้าที่ห้องโถงตามเดิม คราวนี้รามิตเป็นฝ่ายขยับก่อน เขาตวัดอาวุธยาวที่มีความยาวได้เปรียบกว่า ฟันเฉียงด้านล่างขึ้นไปด้านบน หากหัสรังสีก็รับได้อย่างฉมัง หากเป็นสิ่งที่รามิตคาดการณ์ไว้อยู่แล้วเขาพลิกกายกลับหันอาวุธมาจู่โจมอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว หัสรังสีรีบตวัดใบดาบข้ามศีรษะมารับคมอาวุธอีกด้านอย่างรู้ทันและออกแรงสะบัดกลับจนทำให้ผู้จู่โจมชะงักไปนิดหนึ่งด้วยไม่คิดว่าคู่ต่อสู้จะพัฒนาฝีมือไปมากกว่าที่คาดไว้ “อย่าคิดว่า คนที่ทนฝึกหนักมีแต่เจ้า!” หัสรังสีตวาด แววตาวาววับนั้นฉายแววกระหยิ่มเล็กน้อย เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้าม “นี่คือหนักของท่านแล้วหรือ?”  รามิตเอ่ยถามเสียงเรียบ ตวัดเก็บอาวุธไว้ด้านหลัง แต่พร้อมจะจู่โจมออกมาใช้ได้ทุกเมื่อ ราวกับน้ำมันราดบนกองเพลิง หัสรังสียิ้มแค่น...ใช้มืออีกข้างหนึ่งหยิบดาบอีกเล่มที่สะพายไว้ข้างเอวที่รามิตคิดไว้ในคราวแรกว่าคือดาบสำรอง หากบัดนี้เขาจึงค่อยเข้าใจ...หัสรังสีฝึกใช้ดาบคู่... ดาบสองมือแห่งวังสุริยัน “แก! เตรียมตัวตาย!” เมื่อสิ้นเสียงคำรามของจ้าวแดนตะวันออก ทั้งห้องโถงดุจมีเพลิงอัคคีปะทุขึ้นมาโดยรอบ และเป็นเวลาเดียวกับที่หัสรังสีออกดาบมาแล้ว ใบดาบของเขาเฉียดคอรามิตไปเพียงนิดเดียวเท่านั้นหากว่าสาวกดำไม่เบี่ยงกายหลบออกไปเสียก่อน ดูเหมือนว่าหัสรังสีไม่เพียงแค่เพิ่มอาวุธให้ตนแล้ว ยังเพิ่มความเร็วและร้ายกาจขึ้นอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 23:08:12 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 23:07:18 จากคุณ : run saya - [ 22 มี.ค. 51 23:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพราะตั้งแต่เทพตะวันออกเปลี่ยนมาใช้ดาบสองเล่ม รามิตกลับกลายเป็นฝ่ายตั้งรับโดยไม่มีโอกาสเปิดให้เป็นผู้รุกกลับคืนเลยสักครั้ง เมื่อนั้นหัสรังสีคล้ายย่ามใจยิ่งร่ายเวทอัคคีใช้พร้อมกัน ยิ่งส่งผลรุนแรงกว่าเดิมมากมายนัก หากเปลวไฟเหล่านั้นแม้จะเต็มไปด้วยกำลังเต็มเปี่ยม หากก็ยังไม่เร็วพอที่จะทำร้ายสาวกดำแห่งปราสาทจันทรคราส รามิตเหลือบมองสภาพห้องที่ระอุไปด้วยสุริยเวทของเทพตะวันออก ในใจหนึ่งนั้นยอมรับว่าจ้าวสุริยาผู้นี้นับว่ามีเวทกำลังที่แข็งแกร่งและมากมายเหลือคณานับ ต่อไป...นายท่านอาจต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่ยากจะสยบอีกคนหนึ่งก็เป็นได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้... สายตาคมกริบของรามิตมองผ่านเปลวไฟ ทิวากาลรวมทั้งมัสลินและบุษบรรณ ยืนอยู่ริมผนังด้านหนึ่ง ส่วนวาริชไม่ได้ขยับไปไหนเพราะโดนทั้งเวทอัคคีและรัตติกาลกั้นขวางเอาไว้ ทันใดนั้นรามิตตัดสินใจทำบางอย่าง เขาเผ่นกระโจนไปบนที่นั่งชั้นสูงสุด หากการคาดคะเนเขาไม่ผิดพลาด...บุษบรรณจะพ้นข้อหาในทันที ***** ตบท้ายบท : แอ็คชั่นกระจายค่ะตอนนี้ คราวหน้ารามิตจะแก้เผ็ดคืนกลับว่าที่จ้าวแดนตะวันออกบ้างแล้วค่ะ ใครว่ามันเก็บกดหือ??? และเมื่อไทราไปถึงศิลาลัยแล้วเป็นอย่างไรบ้าง? และวิษณุวัติจะตัดสินใจทำอย่างไร? ขอให้ติดตามในคราวหน้า ตอนที่ 11 : ผู้ต้องหาสามคน ค่ะ จากคุณ : run saya - [ 22 มี.ค. 51 23:10:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หรือว่ารามิตคาดไว้แล้วว่าใครที่เป็นคนร่ายเวทบทนั้น จากคุณ : scottie - [ 22 มี.ค. 51 23:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จบครึ่งตอนแบบ นี้ไม่ยอมอ่ะ มาให้หยิกซะดีดี ดู สิกำลังสนุก เลย จากคุณ : ตานุ่นภารโรง (y4uc) - [ 23 มี.ค. 51 00:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลีลาการตอบกระทู้ของคุณ run saya ยังคงสนุกสนานและมันส์เหมือนทุก ๆ ตอนเลยนะคะ อิอิ เปิดจ้าวจตุรทิศขึ้นมาก็อยากอ่านที่คุณคุยกับคนอ่านพอ ๆ กับที่มาอ่านเรื่องเลยล่ะค่ะ 555 หัสรังสีฝีมือก้าวหน้าขึ้นเยอะจริง ๆ เรื่องนี้มีกี่ตอนจบคะ (อย่าตอบว่าตอนจบก็ต้องมีแค่ตอนเดียวสินะคะ 555) แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 51 07:05:23 จากคุณ : Nobody's waiting for me - [ 23 มี.ค. 51 07:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หัสรังสีจะเผลอใช้เวทต้องห้ามบทนั้นไหมน้า เหอๆ จากคุณ : ลูนาติก - [ 23 มี.ค. 51 11:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อา ตกลงผู้ร้ายเป็นหัสรังสีเหรอเนี่ย เอใช่หรือเปล่าน้า? จากคุณ : Hexi - [ 23 มี.ค. 51 16:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่น่าจะใช่หัสรังสี (มั้ง) ไม่รู้ว่าคาดเดาโดยลำเอียงหรือเปล่า แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่ ...แล้วใครเขาใช้ความรู้สึกหาความจริงกัน ? จากคุณ : Caje - [ 23 มี.ค. 51 23:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สู้กันมันมากเลยค่ะ แล้วตกลงหัสรังสีเป็นคนห้เวทย์ต้องห้ามได้อีกคนหรอเนี่ย จากคุณ : kailia - [ 24 มี.ค. 51 12:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รามิตจะทำอะไรต่อไปหนอ แกล้งหัสรังสีกลับ? จากคุณ : สาวกป๋า (Ezel) - [ 25 มี.ค. 51 02:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้มันส์ บุษบรรณของผมก็มีบทเข้มข้นขึ้นหลังจากถูกดองอยู่พักหนึ่ง ^___^.... จากคุณ : GTW - [ 27 มี.ค. 51 05:44:59 ]