วันนี้แว่วได้ยินข่าวว่าคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้พิจารณาประกาศผลมอบรางวัลหนังสือดีเด่นแต่ละสาขาประเภทแล้ว
มานั่งนึกถึงงานที่ได้รับรางวัลแต่ละปี กับเกียรติยศของนักเขียนที่ได้รางวัล หนังสือดีที่ต้องบังคับให้เยาวชนอ่าน กับกรณีหนังสือที่เยาวชนชอบอ่านแต่ไม่ได้รับรางวัล
นักเขียนท่านจะเลือกเขียนแบบไหน อะไรคือเป้าหมายของการเขียน คำถามนี้เคยอยู่ในใจเหล่านักเขียนไหม ในฐานะคนอ่าน หนังสือที่ได้รับรางวัลบางเล่ม ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าเขาเขียนอะไร สื่ออะไร เขาได้รางวัลเพราะอะไร เพราะคณะกรรมการเท่านั้นที่เข้าใจแต่ประชาชนไม่เข้าใจ
การส่งเสริมการศึกษาการส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน เป็นที่มาของการคัดเลือกหนังสือของคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่แล้วไยหนังสือที่ท่านคัดมาเด็กไม่ชอบอ่าน แล้วจะส่งเสริมการอ่านได้เช่นไร
เมื่อก่อนฉันเป็นคนที่ชอบอ่านงานหนักๆ งานด้านการเมือง หรืองานเสียดสีสังคม จนกระทั่งฉันอ่านความสุขของกะทิ ฉันมองว่าเนื้อหาและแก่นของหนังสือเล่มนี้ยังไม่ถึงใจของฉัน มันยังเบาเกินไป ฉันเคยถามกับตัวเองว่าหนังสือได้รับรางวัลได้ยังไง
แต่วันนี้เมื่อเวลาผ่านมา ฉันเริ่มจะมองเห็นเหตุผลของการได้รับรางวัลสำหรับความสุขของกะทิ ความสุขของกะทิ เป็นหนังสืออ่านง่ายเหมาะกับคนอ่านทุกเพศทุกวัย ไม่ไร้สาระเป็นนิยายชีวิตอันหดหู่ ไม่อัดแน่นไปด้วยศีลธรรมจนโคตรเว่อร์ มันเป็นหนังสือที่มีความลงตัวแม้จะไม่ถึงใจสำหรับคอหนังสือหนักๆ แต่ก็ยังทำยาได้
ฉันเริ่มมองเห็นว่างานแบบนี้ต่างหากละ ที่ควรเข็นออกมาสู่สังคมให้มาก ไม่มอมเมา ไม่หนักจนทำให้เครียดและเหนื่อยล้า ฉันเปรียบเทียบหนังสือกับโคลงกลอนที่ฉันแต่ง คนที่สอนฉันเขียนกลอนใช้ถ้อยคำง่ายๆ คำในชีวิตประจำวัน มาเรียงร้อยถ้อยคำต่อกันจนเป็นกลอน ทำไมฉันจึงหลงใหลในกลวิธีการสอนของเขา ก็เพราะมันไม่ยากเกินไปยังไงละ ผิดกับตอนสมัยเรียนมัธยมที่ครูบีบบังคับให้เรียนภาษาไทยและแต่งกลอน แบบที่เรียกว่า กลอนขึ้นหิ้ง แต่งไปด้วยความไม่พึงพอใจ มันจึงไม่ซึมซาบและไม่นึกอยากอนุรักษ์ภาษาไทยตามจุดประสงค์ของวิชาเรียน
ถ้อยคำและเนื้อหาแบบสูงส่ง ดูดีและคลาสสิค สำหรับผู้ที่หลงใหลในถ้อยคำแล้วเท่านั้น หากเราเขียนกลอนด้วยศัพท์สูงๆ คนทั่วไปหรือจะอ่าน แล้วใครละจะชอบเมื่อไม่ได้อ่าน
หนังสือก็เช่นกัน บางเล่มที่ได้รับรางวัลควรจะได้รับรางวัลขึ้นหิ้งจริงๆ เพราะว่ามันหรูเกินไปสำหรับประชาชนคนธรรมดา แต่สำหรับหนังสือบางเล่มที่คนอ่านติดตรึม ก็ไร้สาระและมอมเมามากเกินไปก็สมควรแล้วที่ไม่ได้รางวัล
นักเขียน นักเขียน คนอ่านขอถาม นักเขียนจะเขียนงานแบบไหน งานขึ้นหิ้งเกียรติยศ หรืองานตลาดไร้เกียรติ หรือนักเขียนจะเขียนงานตลาดให้ดูดีจนขึ้นหิ้งได้
สำหรับความสุขของกะทิ หนังสือในรอบสามปีที่ฉันอ่านซ้ำไปมา ควรจะเป็นหนังสือแนวตลาดที่ได้รับเกียรติยศอันสูงส่ง มีหนังสืออีกหลายเล่มที่มีคุณค่าเช่นนี้ แต่ฉันไม่ขอกล่าวถึง เพราะการกล่าวถึงสิ่งที่ไม่มีใครรู้จักมากนัก ก็เท่ากับนำถ้อยคำชั้นสูงมาใส่ในบทกวีตลาด
จากคุณ :
sugarhut
- [
23 มี.ค. 51 20:21:55
]