"ประชาธิปไตยคือการปกครอง ของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน "
อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดี คนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกากล่าวไว้แบบนั้น
วาทะอมตะอันกลายเป็นคำอธิบายการปกครองแบบประชาธิปไตยได้อย่างกระทัดรัด เข้าใจง่ายและสวยหรู
มีหลายชีวิตเข้าใจผิด คิดว่า ลินคอล์น คือ บิดาของประชาธิปไตย และ ยึดถืออเมริกาเป็นตัวอย่างในวิถีประชาธิปไตย
ทั้งที่ความเป็นจริง ประชาธิปไตย ถือ กำเนิดขึ้นในประเทศกรีกก่อนคริสตกาลนานราว 300-500 ปี
ไม่ทราบแน่ชัดด้วยว่า มีคำกล่าวเนื้อหาแนวทางเดียวกันกับ ลินคอล์น บัญญัติไว้หรือไม่
ในความคิดเห็นส่วนตัว
ถ้าประชาธิปไตย ของอเมริกาเป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยมจริงๆ
คงไม่เรียกประเทศว่าสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายถึง อเมริกาประกอบขึ้นมาจากรัฐมากกว่าหนึ่งรัฐขึ้นไป
ดังนั้น ประเทศที่นำอเมริกาเป็นแบบอย่าง อาจนำไปสู่การตัดแบ่งประเทศตนเองเป็นรัฐเล็กๆในอนาคต
การพัฒนาการจึงเป็นแนวทางย้อนกลับ อเมริกา เริ่มจากรัฐแล้วประกอบขึ้นเป็นประเทศ
แต่ประเทศที่เอาอเมริกาเป็นแนวทางอาจเริ่มจากประเทศแล้วกลายเป็นรัฐเล็กๆยิบย่อย
ในมุมมองด้านมืด ย่อมหมายถึง การแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยของประเทศชาติ
ในด้านสว่าง ย่อมหมายถึง การกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น
สำหรับอเมริกานั้น ไม่ยากเย็นเพราะแต่ก่อนรัฐปกครองกันเอง
การจัดการเมื่อรวมเข้าด้วยกันจึงไม่ต้องเริ่มใหม่มีเพียงข้อตกลงร่วมกัน
ส่วนประเทศที่เตรียมกระจายอำนาจอาจยากเย็นและไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้
จึงเท่ากับนับหนึ่งใหม่และลองผิดลองถูกด้วยวิถีชีวิตของคนในชาติ
ประชาธิปไตยโดยตรงตามระบบของชาวกรีกนำมาใช้แบบทื่อๆในโลกปัจจุบันย่อมเป็นไปไม่ได้
เพราะในสมัยนั้น กรุงเอเธนส์ มีประชากรเพียงราวๆสามแสนคน
ให้สิทธิ์คนที่อายุถึงพร้อมใช้สิทธิร่วมตัดสินปัญหาสำคัญของชาติ
ปัจจุบันประชากรหลักล้าน เอาประชาธิปไตยแบบนั้นมาใช้คงยากเย็น
ในความคิดเห็นส่วนตัว การเลือกผู้แทนเป็นข้อดีที่มีตัวแทนไปจัดการเลือกคนที่ "ทำงานเป็น" บริหารประเทศ
การตีความเรื่องประชาธิปไตยควรปรับมุมมองให้ทันยุคสมัยมากขึ้น เพราะเวลาผ่านมานานมากเหลือเกิน
หากเอาคำจำกัดความของลินคอล์น หรือ ทางฝรั่งเศสเป็นหลักและมองให้ลึกจะพบว่า
สภาพสังคมของอเมริกาและฝรั่งเศส มีปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคของเพื่อนมนุษย์มีระบบทาสที่กดขี่ข่มเหงอย่างโหดร้าย
มีการต่อสู้เพื่อล้มล้างระบบทาสและชนชั้นปกครองที่เอารัดเอาเปรียบตลอดเวลา
จนทำให้เราคิดกันว่า ประชาธิปไตย เป็นเรื่องของการมีสิทธิเท่าเทียมกันในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกผู้แทน
แล้วปล่อยให้ผู้แทนทำอย่างไรกับประเทศก็ได้ ไม่พอใจก็ค่อยล่ารายชื่อหลักหมื่นขึ้นไปถอดถอน
หลักหมื่นแทนหลายล้าน แล้วพอหลักหมื่นแรกคัดค้านสำเร็จ หลักหมื่นหลังไม่พอใจก็รวมตัวกันมาถอดถอนหลักหมื่นแรก
สมมติว่า รายชื่อเพื่อถอดถอนใช้ 5 หมื่นชื่อ
จำนวนประชากรไทยทั้งหมด 65 ล้านคน ลองเอาสัก 5 หมื่นหารดูจะได้เท่ากับ 1 พันกับอีก 3 ร้อย
เท่ากับว่า จะมีฝักฝ่ายในประเทศทั้งหมด 1 พัน 3 ร้อย ฝ่าย
ถ้าคัดแย้งกันไปมา จะต้องเปลี่ยนอย่างน้อย 1 พัน 3 ร้อยครั้ง
ลองส่ายศีรษะไปมาสัก 1 พัน 3 ร้อยครั้ง คงต้องมีอาการวิงเวียนอาเจียนคลื่นไส้ บางคนอาจถึงขั้นวูบ
สิ่งที่น่าจะนำมาตีความเพื่อการใช้ประชาธิปไตยในปัจจุบัน คงไม่ใช่เรื่องความเท่าเทียมอีกต่อไป
เพราะตอนนี้การจัดการเรื่องสิทธิได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
เราควรหันไปมอง สิ่งที่ทำให้ คนต้องมารวมกันเพื่อตัดสินปัญหาตามคำจำกัดความเดิมน่าจะเหมาะสม
คนมารวมกันเพื่อ " ตัดสินปัญหาสำคัญระดับชาติ " ฟังแล้วค่อนข้างคล้ายวาระแห่งชาติ
แต่ต่างกันที่วาระแห่งชาติมาจากกลุ่มผู้แทนที่เลือกมาจากแต่ละจังหวัด
ในความคิดเห็นเรียบง่าย คนจังหวัด ก จะทราบปัญหา คนจังหวัด ข ได้อย่างไร
ถ้าวาระแห่งชาติออกมาจากกลุ่มคน
ก็น่าจะเลือกตั้งคณะรัฐบาลไปเลยไม่ต้องเสียเวลาและงบประมาณเลือกผู้แทน
การบริหารจังหวัดก็ใช้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้ไม่ต้องมีการปกครองซ้อนทับหลายตลบ
ย้อนกลับไปมีชนชั้นปกครองเยอะๆ
ก็ต้องมาล้มล้างระบบทาสกันใหม่
ในมุมมอง ผมคิดว่าประชาชนสมัยนี้เป็นทาสนะ
รัฐบาลให้ทำอะไรก็ต้องทำ ให้ทนอะไรก็ต้องทน จัดระบบอะไรมาให้ก็ต้องยอม
เพราะเขาเป็นชนชั้นปกครองแล้ว
ทั้งที่ ความจริง เขาเป็นเพียงคนที่เราเลือกเข้าไปบริหารประเทศ
ประชาชนเป็นคนจ่ายเงินเดือน ดังนั้น
นายกรัฐมนตรี จึงเป็น ลูกจ้างของคนทำมาหากินและเสียภาษีอย่างถูกต้อง
แน่นอน นักการเมืองรายอื่นๆก็เช่นกัน
ผมคิดว่าควรมีการลงคะแนนเสียง
เพื่อจัดลำดับ " ปัญหาสำคัญระดับชาติ " แทนที่จะลงคะแนนเลือกผู้แทน
เพราะถ้าเราทราบปัญหาที่ชัดเจน ลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง
การแก้ปัญหาจะง่าย ไม่ใช่เป็นวัวหายล้อมคอกเหมือนทุกวันนี้
อาจจ้างนักบริหารมืออาชีพมาทำงานแทนผู้แทนไปเลยก็ได้
กากบาทลงในช่องที่ท่านเห็นว่าเป็นปัญหาสำคัญสามช่อง
เลือกมาเลยครับ นับคะแนนเสร็จ วาระรัฐบาลชุดนั้น
ไม่ต้องทำอะไรแล้วนอกจากจัดการปัญหาสำคัญระดับชาติให้ได้
ปัญหาสำคัญระดับชาติจากประชาชน
สมควรเป็นเมกะโปรเจ็คท์ของรัฐบาลมากที่สุด
แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 51 12:23:30
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
24 มี.ค. 51 12:08:46
]