Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องสั้น : เพียงความอ่อนไหว

    คลื่นทะเลสาดซัดเข้าหาฝั่งอย่างบ้าคลั่ง ลมแรงหอบเอาเศษใบไม้ เปลือกหอยบางๆ แล้วก็กลุ่มทรายหยาบๆ มากองไว้หน้า ‘บ้านริมเล’ ยามพายุมาเยือนเหมือนจะหอบเอาบ้านไปได้ทั้งหลัง เพราะบ้านโทรมๆ ที่สร้างด้วยไม้ซึ่งเป็นต้นมะพร้าวเสียส่วนใหญ่ นานมาแล้วมันเคยเป็นบ้านพักตากอากาศที่ค่อนข้างหรูแต่พอสถานที่ท่องเที่ยวทรุดโทรมลงนักท่องเที่ยวหายไปและกลายเป็นทะเลที่ร้างไร้ความสนใจ บ้านโทรมๆ ก็ถูกขายเลหลังอย่างถูกๆ

    ชายหนุ่มรีบกุลีกุจอหอบเฟรมผ้าใบเขียนรูปและอุปกรณ์เขียนภาพต่างๆ เข้าไปไว้ในบ้านก่อนที่จะถูกพายุหอบหายลงไปในทะเลหมด เสียงกระดิ่งลมเซรามิคที่เคยไพเราะเมื่อลมทะเลพัดเบาๆ บัดนี้เสียงมันดังหนวกหูน่ารำคาญจนอยากจะทึ้งลงมาจากระเบียงไม้แล้วโยนลงทะเลให้หมด

    ยังไม่ทันที่จะเก็บของเสร็จพลันสายตาก็เหลือบมองไปเห็นร่างใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนสะพานไม้ท่าเทียบเรือ หญิงสาวผมยาวหยิกสยายกลางหลัง เสื้อกล้ามสีดำกับโสร่งผืนยาว กระป๋องเบียร์สี่ห้ากระป๋องล้มระเนระนาดอยู่ข้างๆ บ้างก็กลิ้งไปเพราะแรงลม เขาอดไม่ได้ที่จะเดินออกมาดู

    “นี่คุณ ฝนจะตกแล้วนะไม่รีบเข้าหลบฝนเดี๋ยวก็ได้เปียกหรอก” เธอเพียงชำเลืองมองด้วยหางตาอย่างเย็นชาเหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูด แล้วเธอก็หันไปมองยังท้องทะเลกว้างทอดสายตาเหม่อไกล

    “พายุนะคุณ ฝนไม่หยุดง่ายๆ หรอก อยากเป็นปอดบวมตายหรือยังไง” เธอมองหน้าเขาจังๆ หญิงสาวนัยน์ตาโศก คิ้วโค้งงามดั่งคันศร จมูกรั้นพองาม ปากเรียวบางเหมือนนางในวรรณคดี นี่ถ้าหากไม่ได้เห็นเธอในสภาพผู้หญิงขี้เมาแบบนี้เธอคงสวยน่าดู

    “แล้วคุณ ยุ่งอะไรกับชีวิตฉัน” เท่านั้นเองที่ทำให้ชายหนุ่มหันหลังกลับโดยไม่ปริปากพูดอะไรอีก แม้สักคำ

    พายุพัดแรงจัด ฝนเริ่มลงเม็ดหนักๆ ผู้หญิงคนนั้นยังนั่งอยู่ตรงที่เดิม อยากรู้นักว่าเธอจะใจเด็ดนั่งตากฝนทนหนาวได้นานสักแค่ไหน ชายหนุ่มมองจากหน้าต่าง สายฝนกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา แสงฟ้าแปลบปลาบ ร่างเล็กยังนั่งกอดเข่าซุกหน้าลงกับเข่าสองข้าง ไม่มีทีท่าว่าจะลุกจากตรงนั้นเลยสักเพียงนิด ชายหนุ่มมองดูอยู่นาน… จนทนไม่ไหวจึงได้ลุกผลุนผลันออกมาและถือวิสาสะอุ้มเธอเข้าบ้าน เธอตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำ ตัวเย็นเฉียบ แล้วก็หมดสติไปในอ้อมแขนเขานั่นเอง
    …………………………………………

    นิราตื่นขึ้นมาท่ามกลางความสับสน ปวดหัวเหมือนใครเอาเหล็กสักร้อยปอนด์มาวางทับ เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เป็นเสื้อยืดเพนท์ลายหัวกะโหลกไขว้ด้วยกระดูก กางเกงชาวเลสีมอๆ มองไปรอบๆ ข้าง บ้านต้นมะพร้าวหรืออย่างไรหนอ มะพร้าวต้นใหญ่ๆ เรียงซ้อนกันไว้ ดูเหมือนง่ายแต่แข็งแรงทนทานและเป็นบ้านที่น่าอยู่ทีเดียว ภาพเขียนติดเต็มตามฝาผนัง เขาสัตว์แขวนตรงมุมเสาดูน่ากลัว แต่แล้วนิราก็ต้องสะดุ้งกับเสียงทุ้มๆ ที่ดังขึ้น

    “ฟื้นแล้วหรือ ตัวยังร้อนอยู่เลยนี่ พักผ่อนนะเดี๋ยวไปเอานมอุ่นๆ มาให้” แล้วชายหนุ่มก็เดินหายไปพักใหญ่และกลับเข้ามาพร้อมถือแก้วนมมาวางไว้ข้างเตียงนอน

    “คุณเป็นใคร” คำถามที่ดังขึ้นแทบจะพร้อมกันทั้งสองคน

    “ผมเป็นเจ้าของบ้านต้นมะพร้าวที่คุณนอนอยู่เนี่ย” เขาให้ความกระจ่าง พร้อมทั้งพยุงศีรษะเธอให้สูงขึ้นแล้วยกแก้วนมให้ดื่ม

    “ฉันเป็นนักท่องเที่ยว” เธอบอกเสียงเบา

    “ตลกน่า บ้าหรือเปล่า ที่นี่ไม่ใช่สถานที่น่าเที่ยวเลยสักนิดเดียว บังกาโลเก่าๆ โทรมๆ หาดทรายที่เต็มไปด้วยเศษสาหร่าย เศษขยะ นี่นะหรือที่คุณเที่ยว” เขาไม่เข้าใจจริงๆ จึงได้ถามออกไปอย่างนั้น

    “ฉันมาหาความสงบ”

    “คงได้หรอก คุณไม่รู้หรือยังไงว่าแถวนี้มันน่ากลัวแค่ไหน พวกวัยรุ่นติดยา ชาวประมงที่ออกเลไปเป็นเดือนๆ แล้วอยู่ก็มีผู้หญิงมานั่งรอที่ท่าเทียบเรือ คุณคิดหรือว่าคุณจะรอด” แล้วเขาก็ถอนหายใจ

    “ตายไปเลยก็ดี” อยู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาหลังจากที่ปล่อยให้เขาคนเดียวอยู่นาน

    “คุณว่าอะไรนะ” ชายหนุ่มไม่เชื่อหูตัวเอง

    ไม่บ่อยครั้งนักสำหรับที่นี่ที่จะมีใคร ‘หลง’ มา ถึงแม้ที่นี่จะเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมากมาย มีเจริญวัตถุอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ไม่นานนักเมื่อสิ่งแวดล้อมถูกทำลายลงไปจนไม่เหลือความงดงาม นักท่องเที่ยวก็หดหายและกลายเป็นหาดร้างในที่สุด

    “คุณหนีอะไรมาหรือเปล่า” น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนลงกว่าตอนแรกมากนัก นิรามองสบตาชายหนุ่ม ความรู้สึกมากมายในใจถูกระบายออก

    “ผู้หญิง จะอะไรมากมายนอกจากความรัก” นิราพูดประโยคนี้ ชายหนุ่มลอบถอนหายใจเขานึกไว้ไม่ผิดเลย

    “ถึงกับต้องตายเลยหรือ” เขายังให้ความสนใจ อย่างน้อยถ้าเธอได้ระบายออกบ้างอาจทำให้สบายใจขึ้น

    “มันอาจเป็นความคิดโง่ๆ ของผู้หญิงอกหักคนหนึ่ง แต่คุณไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกในเวลานั้นมันเป็นอย่างไรถ้าหากว่าคุณไม่เคยพบเจอเข้ากับตัวเอง” เธอพูดยาว ชายหนุ่มเลี่ยงไปเปิดหน้าต่างให้แสงแดดสาดส่อง

    “ฟ้าหลังฝน สดใสเสมอ” เขาเพียงเปรยกับตัวเอง แต่เจตนาให้เธอได้ยิน

    “แต่ร่องรอยที่ทิ้งไว้ มักเป็นสิ่งที่โหดร้ายเสมอเช่นกัน” ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง เศษขยะ เศษกระป๋อง เศษใบไม้ กิ่งมะพร้าว ลูกมะพร้าวแก่ๆ ที่ปลิดขั้วเกลือกกลิ้งตามริมชายหาด แน่นอน เขาต้องเป็นคนตามจัดการเก็บผลงานหลังพายุเหล่านี้

    “ผมชื่อรอง” เขาไม่รู้จะพูดอะไรมากไปกว่านี้ ความเงียบครอบคลุม

    “ฉันแค่ อยากจะหนีให้พ้นๆ”

    “ผิดละ ไม่มีวันหรอกที่คุณจะหนีความจริงได้พ้น ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหนความทรงจำก็จะติดตามไปทุกที่”

    “ตายไง ไม่มีความทรงจำ” ชายหนุ่มถอนหายใจ… เธอยังไม่เลิกคิดเรื่องตาย

    “ผมไม่รู้หรอกนะว่าชีวิตที่ผ่านมาคุณพบเจอสิ่งใดมาบ้าง แต่คุณแน่ใจละหรือว่าที่คุณคิดอยู่นี้เป็นสิ่งที่ดีแล้ว บางทีการมีชีวิตอยู่ แล้วเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดไป นำมาเป็นครูปรับปรุงแก้ไขเพื่อที่ว่าวันต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีกอย่างนี้คุณไม่คิดว่าดีกว่าหรือ” เขาเสนอความคิดเห็นเพราะเขาไม่มีสิทธิ์สั่งหรือห้ามไม่ให้เธอทำในสิ่งที่เธอคิด

    ผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก เธอเพียงบังเอิญผ่านมา ให้เขาได้รับรู้เรื่องราวของชีวิต เธอแค่ผู้หญิงอกหัก ผิดหวังเรื่องความรักและคิดที่จะตาย

    “คุณอยู่ที่นี่มานานหรือยัง” เธอถามคำถามใหม่ เธออาจจะไม่ใส่ใจคำพูดของเขาเมื่อสักครู่แล้วก็ได้

    “ตั้งแต่ที่นี่มีนักท่องเที่ยว จนไม่มีนักท่องเที่ยวแล้ว เมื่อก่อนผมอยู่ท้ายหาด เพนท์เสื้อ เขียนรูป นั่งขายหน้าบ้านไม่นานก็หมด ฝรั่งชอบเสื้อเพนท์ของผมมาก แต่ตอนนี้ผมต้องหอบไปขายในเมือง ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แค่พอมีกินไปวันๆ”

    “คุณดูมีความสุขดีจัง” นิราพูดด้วยความรู้สึกจากใจจริง

    “ก็แล้วทำไมต้องเป็นทุกข์ล่ะ ชีวิตมีอะไรมาก เกิดมาเพื่อมีชีวิตอยู่และเรียนรู้การใช้ชีวิต สุขหรือทุกข์เราสร้างขึ้นเองทั้งนั้นแหละ ที่คนเราเป็นทุกข์เพราะแสวงหาไม่มีสิ้นสุด หากรู้จักความพอดี พอควร แล้วจะเอาอะไรมาทุกข์ ไม่มีความอยาก ไม่มีกิเลสก็สุขเอง”

    “สาธุ คุณเคยบวชพระมาหรือ” นิราถามซื่อ

    “ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตต่างหาก” แล้วเขาก็เลี่ยงออกมาจากตรงนั้น ปล่อยให้นิราครุ่นคิดกับเรื่องราวชีวิตที่เพิ่งผ่านพ้นมาไม่นาน

    หญิงสาวลุกจากเตียง ก้มมองดูตัวเอง สภาพที่แทบดูไม่ได้ ผมยาวกระเซิง ผอมซีดจนดูน่าเกลียด แค่คนๆเดียว... ทำให้เธอเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่โดยปกติแล้วนิราเข้มแข็งนัก หากไม่ถึงที่สุดจริงๆ เธอจะไม่ร้องไห้ เรื่องตายเพราะผิดหวังในความรักนั้นไม่เคยอยู่ในความคิด เพราะนิราไม่เคยคิดว่าเธอต้องผิดหวังเพราะความรัก แต่แล้วเมื่อได้พานพบกับสิ่งที่ไม่เคยคิด นิรายอมรับ… ทำใจไม่ได้

    นิรายังจำได้ที่เพื่อนสาวฟูมฟายร้องไห้มาหาเธอเมื่อคนรักมีคนอื่น

    “นิ... เราอยากตาย เราอยากตาย” นิราจำได้ว่าเธอทั้งปลอบโยน ปลอบใจและแม้แต่ทำร้ายเพื่อน เมื่อเพื่อนสาวเหมือนคนไร้สติ นิราจับเพื่อนสาวที่ตัวเล็กกว่ามัดไว้กับเตียงเพื่อป้องกันการทำร้ายตัวเอง ในตอนนั้นนิราไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกอยากหนีให้พ้นนั้นเป็นอย่างไร หากเมื่อพบเจอเข้ากับตัวเองถึงได้เข้าใจลึกซึ้ง

    “รักได้ก็ต้องไม่รักได้สิน่า” ชายหนุ่มเดินเข้ามาตอนไหนไม่รู้ แต่เสียงของเขาทำให้นิราตกใจ

    “คงใช้เวลานาน น่าดู” นิราเสียงเบา

    “มีอะไรเกินความพยายามของคนบ้างหรือ” เขายืนข้างๆ เธอ ริมระเบียงบ้านต้นมะพร้าว กระดิ่งลมเซรามิคดังกรุ๋งกริ๋งเมื่อลมทะเลพัดพา

    “ฉันดื้อรั้นและดันทุรังเกินกว่าจะฟังใคร”

    “ก็แล้วแต่คุณสิ ผมไม่ได้ห้ามหรอกถ้าคุณอยากตาย หรืออยากอยู่ นั่นก็เรื่องของคุณ ชีวิตใคร-ใครตัดสินเองทั้งนั้น ทำไมคุณต้องให้คนอื่นมามีอิทธิพลเหนือชีวิตคุณ การที่คุณอยากตายเพราะคนอื่นนั่นก็คือเขามีอิทธิพลเหนือคุณแล้ว ถ้าคุณเป็นคนดื้อจริงๆ ก็อย่าให้คนอื่นมีอิทธิพลเหนือชีวิตคุณสิ” สุดท้ายเขาก็หาที่ลงจนได้ ทั้งที่ทีแรกที่ได้ยินคำว่า ‘ฉันดื้อรั้น’ เขาก็นึกในใจแล้วว่าถึงพูดไปก็เหนื่อยเปล่า

    “คุณเทศนาฉันอีกแล้ว”

    “ผมพูดตามที่คิด ความคิดของผมมันมักจะไม่ค่อยเข้าหูใครเท่าไหร่หรอก ผมถึงอยู่คนเดียวเพราะไม่ต้องมีใครมาคอยขัดแย้งหรือสนับสนุนความคิด”

    “คนมองโลกในแง่ร้ายมักชอบอยู่คนเดียว”

    “ไม่เลย ผมมองโลกในแง่ดีเสมอ ทุกอย่างสวยงามสำหรับชีวิต เพราะโลกของผมไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาลนัก แค่บ้านริมเล และสิ่งที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน เท่านั้นเองโลกของผม ในเมื่อผมพึงใจในความมีอยู่ เป็นอยู่ เท่านี้ มีอะไรที่คุณคิดว่าผมมองโลกในแง่ร้าย” นิรายิ้มเย็นๆ นึกในใจ ตานี่ไม่เคยได้พูดเลยหรือยังไงนะ พอมีโอกาสได้พูดทีถึงได้พูดมากนัก

    “คุณหิวไหม” นิราเปลี่ยนเรื่องสนทนา เธอไม่ชอบฟังคนบ่น ไม่ชอบคนช่างพูด มันอาจจะเป็นอุปนิสัยที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เธอก็เป็นอย่างนั้น นิราไม่เชื่อในคำพูดของใครมานานแล้ว เธอได้ฟังคำโกหกมามากจนขลาดและหวาดกลัวที่จะเชื่อมั่นในคำพูดของคน

    “ผมลืมไป คุณยังไม่ได้ทานข้าว ในครัวมีแต่ไข่กับเครื่องกระป๋องคุณกินได้ไหม” ว่าแล้วก็เดินนำเข้าไปในครัวที่อยู่ส่วนหลังของบ้านต้นมะพร้าว

    “ผมไม่ค่อยเอาใจใส่เท่าไหร่นักกับเรื่องกิน บางทีเรือหาปลากลับเข้าฝั่งก็ได้กินปลา กินปูกับเขาบ้าง แต่ส่วนมากจะเป็นปลากระป๋อง ไข่เจียว” นิราพยักหน้ารับรู้ขณะช่วยเขาเจียวไข่

    กับข้าวมื้อนั้นคือยำปลากระป๋องกับไข่เจียว เขาชวนคุยหลายเรื่อง นิราเงียบฟังมากกว่าจะพูดจา

    “คุณเป็นแบบให้ผมวาดรูปได้ไหม” นิราเลิกคิ้ว

    “ตาคุณสวย ปากคุณก็สวย น่าวาด” นิราหัวเราะๆ เบา แล้วเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ข้างหน้าต่าง มองไปยังท้องทะเลกว้าง ชายหนุ่มลงมือวาดภาพด้วยดินสอเครยอง

    ความหม่นมัวในใจคลายลง แม้จะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน แต่นิรายังมีสติและตลอดเวลาเธอคิดอยู่เสมอ ทำไมต้องทำร้ายตัวเองเพราะคนอื่น?….

    คำพูดมากมายจากชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนรูปอยู่นั้นทำให้นิราอดคิดไม่ได้

    “รักได้ก็ไม่รักได้” คำพูดคำนี้เองที่ทำให้นิราเผลอยิ้มที่มุมปาก

    “คุณยิ้มน่ารักดีนะ” เขาชม

    “ฉันไม่ใช่คนยิ้มยากนักหรอก ฉันยิ้มให้กับความคิดของตัวเองในบางครั้ง หรือแม้แต่การกระทำบางอย่างก็ทำให้ฉันยิ้มได้”

    “ถ้าอย่างนั้นในตอนนี้ ความคิดกระมังที่ทำให้คุณยิ้มได้”

    “ก็ด้วย แต่ที่จริงแล้วฉันยิ้มเยาะการกระทำของตัวเองต่างหาก เพิ่งรู้ตัวว่าโง่ ความรักมันทำให้คนหูหนวก ตาบอดและเป็นบ้าได้จริงๆ” แล้วนิราก็ส่ายหน้า ลุกขึ้นยืน

    “ฉันจะกลับละ”

    “หือ” ชายหนุ่มยังไม่ทันตั้งตัว ยังไม่เตรียมตัวเพื่อจะฟังคำบอกลา

    “ขอบคุณสำหรับการช่วยชีวิต ฉันจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้เลย แล้ววันหนึ่งข้างหน้าฉันจะกลับมา พร้อมๆ กับหัวใจที่แกร่งกว่าเดิม” แล้วนิราก็จากมาทั้งอย่างนั้น เธอเดินลงบันไดช้าๆ แล้วเลียบริมหาดไปจนสุดสายตา

    ชายหนุ่มไม่ได้ถามว่าเธอจะไปไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร แม้แต่ชื่อเขาก็ไม่รู้ สิ่งที่เธอทิ้งไว้คือเสื้อผ้าชุดเดิมที่เธอสวมใส่มา และภาพเขียนด้วยดินสอ… เท่านั้นเอง

    เธอเพียงผ่านมา…โดยไม่ได้ตั้งใจ
    แล้วเธอก็จากไป บนหนทางสายยาวไกลที่เธอมา… /

    จากคุณ : ดาริกามณี - [ 26 มี.ค. 51 16:01:42 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom