รัฐธรรมนูญ
คำนี้ควรวางไว้บนสุด เพราะ เป็นสิ่งที่คนไทยเห็นว่าเป็นกฏหมายสูงสุด
ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏหมาย ให้ขั้นตอนทางศาลตัดสิน
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฏหมายทุกอย่างจบสิ้น
กฏหมายจึงเหมือนเป็นสิ่งสูงสุด นิยมกล่าวอ้าง
ไม่ต่างจากหลักธรรมคำสอนที่บรรจุในพระไตรปิฎก
ที่เราเลื่อมใสศรัทธา แต่ปฏิบัติตามนั้นได้ไม่ถึงเศษเสี้ยว
เคยมีการถกเถียงจากผู้ที่พูดคุย เมื่อผมพูดอย่างนั้น
เขาเล่าว่าสวดมนต์ ไหว้พระ กล่าวคาถาเป็นหลายสิบจบ ครบทุกสูตร
ผมถามกลับว่า ถือศีลห้าครบไหม
เขาส่ายศีรษะ แก้ตัวว่า คนเราต้องใช้ชีวิตบนโลก มันต้องมีกันบ้าง
สวดมนต์ได้เป็นสิบบท หลายสิบเที่ยว แต่รักษาศีลเพียงห้าข้อไม่ได้
เหมือนกฏหมาย เพียงมีไว้ แต่หาการปฏิบัติได้ยากเย็นเหลือเกิน
คนเราไม่เคยเรียนรู้กฏหมาย จนกระทั่งวันที่เดือดร้อน ต้องเข้าโรงพักหรือขึ้นศาล
เหมือนวันที่ชีวิตหลงอยู่ในมายาไม่เคยสำนึกในหลักธรรม พอวันที่ชีวิตผิดพลาดจึงหาหนังสือพระมาอ่าน
พอทุกอย่างจบลงคนเราก็ลืม
ร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งไปตามบ้าน เราอ่านครบทุกมาตราหรือไม่
รัฐธรรมนูญปีที่เห็นว่ายอดเยี่ยมเราอ่านเองครบทุกหน้าหรือเปล่า
หรือสิ่งที่ออกมาให้ความเห็นว่า " เห็นด้วย " หรือ " ไม่เห็นด้วย "
ได้มาเพียงการรับฟังจากลมปากของผู้ที่กล่าวอ้างว่า "รู้"
รัฐธรรมนูญ เป็นกฏหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ถึงอย่างไรก็ยังเป็นกฏหมาย
เมื่อเป็นกฏหมาย ย่อมเป็นข้อบังคับ อันมีส่วนถึงพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคม
ดังนั้น จึงเป็น " เครื่องมือ " ที่ใช้ควบคุมบังคับพฤติกรรมและมีเหตุแห่งคุณและโทษ
ไม่ต่างจากหลักธรรมคำสอน ใช้ให้ถูกทางก็พาชีวิตเป็นปรกติสุข
ใช้ผิดทางก็ตกบ่วงอวิชชาหลงผิดว่าเป็นผู้มีหลักธรรมแล้วอยู่เหนือผู้อื่น
อย่างหลังนี่ไม่ต่างจาก ผู้ใช้กฏหมายในบ้านเมือง ณ ปัจจุบัน
เรามีผู้รู้ทางกฏหมายมากมาย จำนวนบัณฑิตที่จบสาขานิติศาสตร์เพิ่มขึ้นทุกๆปี
ที่ตายไปก็น้อย ที่ยังอยู่ก็เยอะ มีศาสตร์จารย์ ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในและนอกประเทศหลายชีวิต
ผ่านการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปฏิวัติหลายครั้ง
รัฐธรรมนูญไทยก็ยังไม่สมบูรณ์ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ทันยุคทันเหตุการณ์
ราวกับว่า ปราศจากการมองไปในอนาคต
เมื่อมีน้ำรั่วต้องอุดรู รั่วกี่รูก็ตามอุดกันไปเท่านั้น แต่ไม่เคยมองว่า
จะทำอย่างไรให้ตุ่มไหแข็งแรงพอ จนไม่มีน้ำรั่วออกมาออกมาอีก
อีกสิบปีประเทศจะเป็นอย่างไร อีกยี่สิบปีประเทศจะเป็นอย่างไร
รัฐธรรมนูญ ไม่เคยเขียนไว้ หรือ เขียนขึ้นบนรากฐานของคำถามเหล่านั้น
ในความเห็น จะร่าง จะแก้ไข หรือ ปรับปรุง
วางอยู่บนพื้นฐานการแก้ไขปัญหาแบบขอไปที ปัดภาระให้พ้นตัว เอื้อประโยชน์แก่คนบางกลุ่ม
ปรัชญาพื้นฐานทางกฏหมายจะต้องว่าด้วยการปกครองและเศรษฐกิจ
แต่ไม่เคยวางอยู่บน " อนาคตที่ดี "
อีกสิบปีข้างหน้า อากาศยังบริสุทธิ์ไหม จะทำให้ประเทศไทยเย็นลงได้ไหม
เด็กของเรา บ้านเมืองของเราจะกลายเป็นแหล่งอาชญากรรมหรือไม่
จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้
เราต้องมีจินตนาการถึงประเทศไทยในอนาคต แล้วนำความรู้มาร่วมสร้างสรรค์สิ่งเหล่านั้นขึ้นมา
ไม่ใช่ว่า เอาความรู้ มาประหัตประหาร ใช้เป็นประโยชน์กับตน บอกให้ทำสิ่งนั้นได้ สิ่งนี้ไม่ได้
เพราะว่า ความรู้บอกเอาไว้อย่างนั้น
จะเขียนจะแก้กฏหมายก็ต้องมี จินตนาการเช่นกัน
ต้องมีความเห็นอันดีงามเสียก่อน ดังนั้น มันจึงอยู่ที่ผู้ใช้และผู้นำมาใช้
เหมือน มีด เอาไปฆ่าคน หรือ ทำอาหาร คนใช้เท่านั้นที่เลือก
คนใช้จึงเป็นเรื่องสำคัญ
การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องพึงกระทำได้ เหมือน การสังคายนาหลักธรรม
จัดระเบียบและแก้ในเรื่องที่ควรจะแก้
คนที่มาเป็นรัฐบาลควรถามตนเองเสมอว่าในวาระที่มานั่งบริหาร
อยากให้อนาคตของประเทศเป็นเช่นไร
ความเห็นส่วนตัว ผมอยากให้เลิกส.ส.ประเภทปาร์ตี้ลิสท์
เพราะบางรายชื่อเป็นเรื่องที่เรารู้จักคุณงามความดีน้อยมาก
ประชุมสภายิ่งคนมากยิ่งตัดสินลำบาก
และที่สำคัญยิ่งคนมาก อัตราส่วนของความดีและความเลวยิ่งมากขึ้น
เลือกเหมือนแต่ก่อน เอาแค่ส.ส ตามเขต ไปทำงานร่วมกัน
คนน้อยๆอะไรก็คล่องตัว ไม่ต้องมีพรรคมาเกี่ยวข้อง
ไม่ต้องคิดมากเรื่องตัดเค้กแบ่งตำแหน่ง
คนดี ทำงานร่วมกันได้เสมอ เราจึงต้องส่งเสิรมให้คนดีปกครองบ้านเมือง
การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องความรับผิดชอบของพรรคต่อตัวลูกพรรคเป็นเรื่องที่ควรทำ
อาจไม่ถึงขั้นต้องยุบพรรคเพียงแค่ไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็น่าจะเพียงพอ
และให้พรรคดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์โดยปราศจากตำแหน่งทางการเมือง
เหมือนกรณีโดนคาดโทษและทัณฑ์บน
ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างที่สุด
ไม่ถึงขั้นยุบพรรค แต่ต้องรับผิดชอบ
ลูกพรรคทำผิด แสดงว่า หัวหน้าพรรคและกรรมการพรรค ขาดกระบวนการควบคุมดูแล
จะปัดความรับผิดชอบอย่างถาวรเสียมิได้
ประเทศไทยใช้ระบบ แพะ จนเป็นธรรมเนียมมากพอแล้ว
และคำว่า แพะ มันทำให้เกิด ความแค้น ต่อกันได้ง่าย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมีเรื่องสำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ที่ควรถกเถียงกันมากกว่าเรื่องราวเหล่านี้มิใช่หรือ
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
27 มี.ค. 51 12:40:13
]