ว่าแล้ว วันนั้นไม่ควรบอกไป
หรือความในใจที่เธอนั้นคงไม่อยากรู้
ว่าแล้ว ความคุ้นเคยที่มีอยู่
กลับกลายเหมือนคนไม่รู้จักกัน
อยากลืมเธอให้ลง ยังคงอดทนไหว
แต่ความเป็นจริง ฉันยังเสียดาย
สิ่งที่แล้วยังจดจำ อยากลืมเพียงสิ่งเดียว
สิ่งที่ฉันได้บอกเธอวันนั้น บอกว่าฉันรักเธอ
เมื่อสิ้นเสียงเพลง น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลท่วมออกมา
ในขณะที่หนังเรื่องนั้น ก็ยังดำเนินต่อไปยังไม่ถึงตอนสุดท้าย
เพลงนี้ชื่อเพลง ว่าแล้ว เพลงที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินมันอีกครั้ง
เนื้อเรื่องในหนังเป็นตอนที่ เพื่อน คนหนึ่ง ได้เอ่ยปากบอกความในใจตน
ให้แก่ เพื่อน ซึ่งประเด็นเพื่อนแอบชอบเพื่อนมีมานานแล้ว อาจเพราะความใกล้ชิด
สำหรับตัวฉัน...ไม่ใช่ความเป็นเพื่อน แต่มันคือความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง
ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ฟังเพลงนี้ คือ วันที่จัดงานจบการศึกษาของรุ่นพี่
เค้าเป็นรุ่นพี่ฉัน 1 ปี และในวันนั้น ฉันได้เสียน้ำตาอย่างมากมาย เพราะเค้าเล่นเพลงนี้
เค้าอาจจะอยากให้ ใครสักคน ฟัง แต่สำหรับ ฉัน
ฉันขออุปโลกน์ว่า เค้าเล่นให้ฉันฟังก็แล้วกัน
ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่เพลงร้องนั้น ภาพในความทรงจำของฉัน
ย้อนกลับเข้ามาเต็มไปหมด
...ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง การที่อยู่คณะนี้ ทำให้ฉันได้ทำกิจกรรมมากมาย
ฉันหลงรักรุ่นพี่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่า ...เค้าเป็นคนเก่ง และคนดี
...ที่ผ่านมาความรักของฉัน คือ การได้แอบรัก เพียงแค่ได้เฝ้ามอง และพูดคุยเพียงเล็กน้อย
ก็ทำให้ฉันมีความสุขมาก ฉันไม่เคยปรารถนาจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนที่ฉัน แอบรัก
รุ่นพี่ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ฉันแอบรัก ความรู้สึกดีดี...ก่อตัวขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
ฉันเฝ้ามอง และชื่นชมในความเป็นตัวเค้า เค้าไม่หล่อ เค้าไม่รวย เค้าไม่เท่ห์
...แต่เค้าเป็นคนดี
ไม่รู้ทำไม ...ฉันถึงชอบตกหลุมรัก คนลักษณะเช่นนี้
เวลาในคณะผ่านไปๆ พร้อมๆ กับ ความรู้สึก ที่ฉันมีต่อรุ่นพี่ ที่เพิ่มมากขึ้นๆ
และการที่เราได้ทำกิจกรรมร่วมกันหลายอย่าง ฉันก็ยิ่งได้เห็น ความเป็นตัวตน ของเค้ามากๆ
มีอยู่ครั้งนึง ที่ฉันจำได้ดี รุ่นพี่ต้องตัดสินใจเลือกภาคการเรียนหลักในปีที่ 3
เผอิญเราได้คุยกัน เค้ามีความทุกข์มากเพราะสิ่งที่เค้าใฝ่ฝัน กับทางที่เค้าต้องเลือก
...มันเดินสวนทางกัน
เหตุผลที่เค้าต้องเลือก เค้าไม่ได้บอกฉันหรอก ฉันได้แต่เฝ้ามองเค้าที่ต้องเลือกทางเดินในสิ่งที่ไม่ใช่ แต่เค้าก็เลือกเอง
หลังจากนั้น เราก็ได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกครั้ง คือ การเป็นว๊ากเกอร์ ...
ซึ่งในช่วงนี้ ฉันได้ใกล้ชิดเค้ามากขึ้น เพราะต้องอยู่ประชุมหลังเลิกกิจกรรมรับน้อง
มีอยู่ครั้งนึง ที่ได้นั่งคุยกัน มีฉันและเพื่อน และรุ่นพี่ เราคุยกันสัพเพเหระ
วันนั้น ฉันมีความสุขมาก เพราะคุยอะไรไป เราก็มักมีความเห็นตรงกันหรือเหมือนๆ กัน
จนเพื่อนของฉันแซวว่า สองคนนี้ คิดเหมือนกันเลย ...ฉันมีความสุขที่สุด
พอรุ่นพี่ขึ้นปีที่ 4 เค้ามีงานมากขึ้น เรียนหนัก จากเดิมในตอนปี 3
ที่เค้าได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการดูแลเพื่อนๆ ร่วมคณะ แต่ในปี 4
เค้าก็ต้องไปมุ่งกับการเรียนมากขึ้น แต่สำหรับ ฉัน ก็ได้เดินรอยตามเค้าอีกก้าวหนึ่ง
นั่นคือ ฉันได้เป็นคณะกรรมการเช่นกัน
และสิ่งที่เป็นความลับมาจนทุกวันนี้ คือ ล็อกเกอร์ ที่รุ่นพี่ได้ใช้ ฉันก็จับจองไปแล้ว
และโดยที่ข้าวของของคนเก่า ก็ยังคงอยู่ ฉันได้พบอัลบั้มรูปผลงานของรุ่นพี่
(เค้าชอบถ่ายรูปมาก และเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ฉันเล่นกล้อง)
ซึ่งฉันได้ทำในสิ่งที่ไม่สมควรจะทำ ...
รูปใบนั้น เค้าเป็นนายแบบ ไม่ใช่คนถ่าย ...เป็นรูปที่เค้าไปเที่ยวทางภาคเหนือ
เค้านั่งเท่ห์อยู่ที่พื้นถนน ไม่รู้สิ...รูปใบนั้น เค้าช่างงดงามเหลือเกิน
ทำให้ฉันอดใจไม่ได้ และต้องทำสิ่งที่ไม่สมควร และรูปนั้นก็ได้มาเป็นสมบัติของฉัน
ฉันรู้สึกว่า ความรักข้างเดียวของฉันในครั้งนี้ ฉันมี ความสุข
และเป็นเวลาที่ยาวนานถึง 3 ปี
(ปกติแค่อย่างมากที่สุด 1 ปี)
และฉันมีความสุขกับการที่ได้แอบรักอยู่แบบนี้ จนมาถึงวันนึง...
จะขอเล่าย้อนว่า ฉันไม่เคยคิดจะบอกให้คนที่ฉันแอบชอบได้รู้ว่า ฉันชอบ
อาจเพราะกลัว คำตอบ หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่กับ รุ่นพี่
ฉันตัดสินใจที่จะบอก อาจเป็นเพราะฉันได้สร้าง ความมั่นใจ จากการเข้าเรียนในคณะนี้
ซึ่งสอนให้ กล้า หรืออาจเป็นเพราะสิ่งที่ฉันเลือกเรียน คือ วิชาที่สอนตัวตน และความจริงในชีวิต
และเป็นภาคที่รุ่นพี่อยากเรียน แต่เค้าก็ต้องยอมทิ้งความฝัน ฉันจึงต้องการ สานต่อ
ในวันแห่ง การเปิดเผย นั้น ฉันจำได้ดี...
ใกล้ๆ ใต้ถุนของคณะที่เรียน จะมีโรงอาหารสองชั้น
ในเย็นนั้น ฉันขึ้นไปที่ชั้นสองของโรงอาหาร และโทรเข้าไปที่ห้องคณะกรรมการ
เพื่อตามรุ่นพี่มารับโทรศัพท์
รุ่นพี่ถามมาตามสายโทรศัพท์ว่า มีอะไร ฉันบอกว่า ฉันรออยู่ที่ชั้นสอง ขอคุยอะไรหน่อย...
รุ่นพี่มาหาฉัน และต่อว่า ที่ฉันทำอะไรพิกลแบบนี้ หลังจากนั้น ฉันก็สารภาพทุกสิ่งทุกอย่าง
สิ่งต่อมาที่ฉันได้รับ หลังจากที่ บอกความในใจ ก็กลายเป็นเช่นเนื้อเพลง
...ว่าแล้ว ความคุ้นเคยที่มีอยู่
กลับกลายเหมือนคนไม่รู้จักกัน
ฉันไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิดเดียว ฉันกลับรู้สึกดีใจมาก ที่รุ่นพี่ได้รับรู้ความรู้สึกของฉัน
แม้ว่าหลังจากนั้น จะรู้สึกห่างเหินกันไปมากก็ตาม
จนวันสุดท้าย งานอำลารุ่นพี่ เค้าได้เล่นเพลงนี้ เพลง ว่าแล้ว ซึ่งฉันเชื่อว่า
เค้าได้แต่งเพลงนี้ให้กับใครคนหนึ่ง คนที่เค้ารัก และได้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับฉัน
มันไม่ใช่ กงกำกงเกวียน แต่มันคือ ความรัก
ที่เราไม่สามารถจะ ห้าม หรือ สั่ง ให้ใครทำอะไรได้ และมันอยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง
และในงานนั้น ที่ฉันเสียน้ำตามากมาย
แต่มันเป็นน้ำตาของความภาคภูมิใจที่ฉันได้รักคนๆ นึง
และรู้สึกดีมาก ที่ได้รักคนๆ นี้
เสียงเพลงจบไปแล้ว แต่น้ำตาของฉันไหลริน ฉันดีใจมากที่ได้ยินเพลงนี้อีกครั้ง
ฉันขอบคุณที่เค้าได้เกิดมาเพื่อให้ฉันรัก
ฉันหันไปยิ้มกับผู้ชายที่นั่งข้างๆ ยิ้มทั้งน้ำตาไหลพราก จนเค้าตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันบอกว่า ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่มีอดีตกับเพลงนี้
แต่คนที่อยู่ข้างๆ ฉันตอนนี้ เค้าคือตัวจริง เค้าไม่ใช่คนที่ฉันแอบรัก
แต่ฉัน รัก และเค้าก็ รับรู้ โดยที่มันไม่ใช่ รักข้างเดียว อีกต่อไป
...ขอบคุณ รุ่นพี่ ค่ะ
จากคุณ :
3750527
- [
30 มี.ค. 51 14:54:17
A:124.121.107.233 X: TicketID:172300
]