Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    โลกของซัน เด็กชายเหรียญสลึงที่ไม่มีใครอยากได้ ตอนที่ 2

    เย็นมากแล้ว เพื่อนๆกลับบ้านหมดแล้ว
    แม่ยังไม่มา ครูไก่บอกให้ซันนั่งรอแม่ตรงนี้ เพราะครูต้องกลับก่อน
    ฟ้ามืดแล้ว ซันอยากให้แม่มารับเร็วๆ นั่งคนเดียวตรงนี้มันเหงา ซันลูบแขนตรงที่ครูไก่แอบหยิก
    ครูไก่บอกว่า ซันเป็นเด็กโง่ ดื้อ ไม่น่ารัก
    ซันอยากจะให้ครูรัก อยากให้แม่รัก และซันไม่ได้ดื้อ
    เป็นเดือนแล้วที่แม่ให้ซันเรียนพิเศษกับครู ทุกครั้งครูจะหยิกซัน บางทีหยิกตรงรักแร้ เพราะครูพูดกับครูอื่นว่า ไม่เห็นรอย

    หลังๆสบายขึ้นหน่อย เพราะครูขี้เกียจสอน ครูจะบอกให้เขียนตาม ตรงไหนเขียนไม่ได้ครูจะเขียนให้
    ไม่ต้องโดนครูหยิก ครูจะให้คะแนนซันเยอะขึ้น แม่ก็ไม่บ่นว่าซัน

    ซันไม่ได้ดื้อนะครับ ซันเขียนไม่ได้จริงๆ ทำไมตัวหนังสือที่เห็นมันไม่เป็นแบบที่ครูบอก
    ซันไม่รู้ทำไม ซันเห็นตัวหนังสือข้างหลังก่อนทุกที และทุกทีจะโดนดุว่าโง่

    ผู้ใหญ่บางคนเวลาเห็นวัน ชวนซันคุย แล้วทุกคนก็บอกว่าซันฉลาด ซันเก่ง แต่พอให้ซันอ่านหนังสือ
    ซันอ่านไม่ออก ซันเห็นตัวหนังสือมันเรียงเต็มไปหมด ตอนเรียนอนุบาล ใครๆก็ชมซันเก่ง ซันจับคู่รูปภาพ
    โยงภาพและบวกเลขเก่ง ตอนนั้นแม่รักซันมากเลย พอครูชมให้ฟังว่า ซันทำได้เต็ม แม่จะพาซันไปกินไอศครีมหลังเลิกเรียน
    แม่จะภูมิใจมากเวลาเล่าให้เพื่อนๆแม่ฟัง

    ตั้งแต่ขึ้นประถม ซันรู้สึกไม่ชอบมาโรงเรียน ซันมักจะถูกดุบ่อยๆ เรื่องเขียนหนังสือ ครูบอกตัวหนังสือซันตัวใหญ่และไม่สวย
    ครูบังคับให้เขียนตามเส้น ซันก็พอเขียนได้ แต่พอให้ซันเขียนเอง ซันเขียนไม่ได้ และทุกครั้งที่ซันเขียนไม่ได้
    ซันจะปวดท้อง มันปวดมากจนอาเจียน บางครั้งอาเจียนออกมามีเลือด ซันไม่ได้แกล้งนะ
    แต่ทุกครั้งที่อาเจียน ซันไม่ต้องเขียนหนังสือ

    แม่พาซันไปหาหมอคนแล้วคนเล่า หมอก็เพียงให้ยาหวานๆมาให้ซันกิน ถ้ามันแลกกับการไม่ถูกตี ซันก็กิน
    แม่บอกซันว่า สงสัยซันจะเป็นโรคกระเพราะ

    ช่วงหลังๆมานี้:-)านยุ่งมาก บางทีมารับทุ่มสองทุ่ม มืดก็มืด ยุงก็กัด
    แม่บอกซันว่าแม่ขอโทษ ต่อไปจะมารับเร็วๆ แต่พอสองสามวัน แม่ก็มารับสายอีก
    แม่บอกเราต้องใช้เงินเยอะ ต้องหาเงินเยอะๆ วันไหนแม่ไม่ยุ่ง แม่จะใจดีเหมือนนางฟ้า
    แม่ชอบพาซันไปห้างเพราะแม่ขี้เกียจทำกับข้าว เรากินข้าวเย็นที่ห้าง กินข้าวเช้าตามปั้มน้ำมัน
    ทุกเช้า แม่จะตื่นสายและต้องรีบไปส่งซันที่โรงเรียน แม่จะแวะเข้าปั้มน้ำมัน ซื้อแซนวิช ซื้อพาย หรือไส้กรอก นมให้ซันกินบนรถ
    ซันนั่งรถโรงเรียนไม่ได้ เพราะเราไม่เคยทันรถโรงเรียนเลย ดังนั้นแม่บอกว่า ทำแบบนี้ละ ง่ายดี

    วันนี้ซันต้องสอบเพราะจะปิดเทอมแล้ว ซันอ่านข้อสอบไม่ได้ ครูไก่ต้องเดินมาบอกให้ทำเป็นข้อๆ
    ซันก็นั่งรอครูไก่มาอ่านให้ฟังทีละข้อ จนหมดเวลาสอบ ครูไก่บอกซันว่า ซันอ่านหนังสือไม่ออก ต้องเรียนซ้ำชั้นกับน้อง ป.3
    ซันไม่อยากเรียนกับน้องป.3 แต่นั่นไม่มากกว่าซันกลัวแม่ ซันกลัวแม่โกรธ กลัวแม่ดุ กลัวแม่ร้องไห้
    ช่วงหลังมา เวลาที่ซันทำไม่ถูกใจแม่ แม่จะว่าจะโมโห สุดท้ายแม่จะร้องไห้ แล้วบอกว่าซันเป็นตัวปัญหา
    ซันไม่อยากให้แม่ร้องไห้ แม่อยากจะทุบซัน จะตีซัน ซันไม่ว่าแต่ซันไม่อยากให้แม่ร้องไห้เพราะซัน

    ลุงภารโรงใจดี เดินมาชวนซันไปกินข้าวบ้านลุงที่หลังโรงเรียน บางครั้งซันก็ไปบ้านลุงภารโรง
    แต่วันนี้ซันไม่อยากไป แม่บอกว่า วันนี้แม่จะพาซันไปกินพิซซ่า

    นั่นไง แม่มาแล้ว ซันคว้ากระเป๋าวิ่งไปหาแม่ แม่บอกเราต้องรีบเพราะที่ร้านยุ่งมาก แม่จะพาซันไปฝากบ้านคุณยาย
    "แม่ครับ แม่บอกว่า จะพาไปกินพิซซ่า" ซันท้วงแม่
    "ไว้วันหลังนะ แม่ยุ่งมากจริงๆ " แม่ตัดบท พร้อมกดโทรศัพท์มือถือโทรหาคุณยาย
    ซันนั่งหงอยๆ บางครั้งผู้ใหญ่ก็ไม่สนใจคำสัญญา
    หลังจากวางสายจากคุณยาย แม่ก็ถามประโยคเดิมๆว่า
    "วันนี้เรียนเป็นไงลูก ทำข้อสอบได้ไหม"
    "ก้อทำได้ครับ" ซันตอบไม่เต็มเสียง แล้วบอกแม่เบาๆว่า
    "แม่ พรุ่งนี้ ครูใหญ่ให้แม่ไปพบ"
    "ฮ้า! อีกแล้วเหรอ ทำไมทุกปีต้องเป็นแบบนี้ ต้องให้แม่ไปอ้อนวอนครูทุกปี ทำไมไม่เคยให้แม่ภูิใจเลย"
    แล้วตามมาด้วยคำบ่น และจบท้ายว่า ซันปัญญาอ่อนหรือขี้เกียจกันแน่

    วันนี้ นภาแต่งตัวอย่างปราณีต เพราะต้องไปพบครูใหญ่ นภาอยากให้ครูใหญ่รู้ว่า เธอสามารถช่วยส่งเสริมโรงเรียนได้
    นภาจูงมือลูกชายเข้าโรงเรียน ครูใหญ่นั่งรอที่ห้องทำงาน
    "สวัสดีค่ะ คุณครู" นภาประนบมือไหว้อย่างนอบน้อม ทุกปีที่ผ่านมา เธอต้องมาไหว้ครูใหญ่หลังสอบเพื่อให้ลูกได้เลื่อนชั้น
    "สวัสดีค่ะ คุณแม่ เชิญนั่งค่ะ " ครูใหญ่ผายมือให้นั่ง
    "คุณแม่คงรู้ว่า เรียกมาพบเรื่องอะไรนะคะ" ครูใหญ่พูดตรงๆ ตามวิสัย
    "ค่ะ คุณครู " นภารับคำเสียงเบา
    "น้องซันเขาอ่านหนังสือไม่ออกนะคะ คุณแม่ ต้องให้เรียนซ้ำชั้น ไม่งั้นขึ้นไปชั้นสูงกว่านี้จะยิ่งเป็นปัญหากับเด็ก"
    "คุณครูคะ ครูก็เห็นน้องซันเขาไม่ได้เป็นเด็กโง่ ค่อนข้างฉลาดด้วยซ้ำ เพียงเขาอาจจะยังขี้เกียจอยู่"
    นภาเริ่มสาธยาย "บางทีครูไก่ยังชมว่า น้องซันเข้าใจเร็ว เพียงแต่ไม่เขียนเท่านั้น"

    ครูใหญ่ส่ายหน้า
    "ทำยังงั้นไม่ได้หรอกค่ะ คุณแม่ ถ้าเด็กเลื่อนชั้นขึ้นไป แต่อ่านหนังสือไม่ออก โรงเรียนเสียชื่อเสียง"
    "คุณแม่ลองพาซันไปเช็คไอคิวดูสิคะ บางทีอาจต้องย้ายไปเรียนโรงเรียนปัญญารักษ์"
    ครูใหญ่เอ่ยถึงโรงเรียนเด็กปัญญาอ่อนของรัฐบาล
    "คุณครูคะ ขอความกรุณาเถิดค่ะ ครูก็รุ้ว่าวันไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน" นภาขอร้อง
    "เอางี้แล้วกันค่ะ คุณแม่ ขอให้คุณแม่พาซันไปทดสอบไอคิว ถ้าปกติก็เรียนต่อได้ แต่ถ้าจะขึ้นชั้น ต้องให้มาเรียนพิเศษที่โรงเรียนเปิดคอร์ส"
    "ได้ค่ะ ยินดีอยู่แล้วค่ะ" นภาระล่ำระลักตอบรับอย่างดีใจ หลังจากสอบถามวิธีการทดสอบไอคิว
    โดยครูใหญ่แนะนำให้ไปทดสอบที่แผนกจิตเวชเด็ก โรงพยาบาลรัฐบาล

    นภารีบดำเนินการให้ลูกได้ทดสอบไอคิว เพราะในใจลึกๆเธอเชื่อว่า ลูกไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมลูกถึงอ่านหนังสือไม่ออก
    แพทย์จิตเวชเด็กที่ไปพบวันนี้ ดูใจดีภาคภูมิสมกับเป็นแพทย์ เป็นแพทย์หนุ่มที่เพิ่งจบ
    "ทำไม คุณแม่ถึงอยากทดสอบไอคิวละครับ" เป็นเรื่องปกติที่จะต้องซักถามก่อนจะมีการทดสอบ เพราะไม่ใช่เรื่องปกติที่อยู่ๆจะมีใครมาขอทดสอบไอคิว
    "น้องซันเขามีปัญหาการเรียนค่ะ คุณหมอ เขาอ่านหนังสือไม่ได้เลย เขียนยิ่งแล้วใหญ่ ใครๆก็บอกฉลาด แต่ทำไมเรียนหนังสือไม่ได้เลย"
    นภาพรั่งพรูความเก็บกั้นออกมา
    "ดิฉันไม่อยากจะเชื่อว่า ลูกจะปัญญาอ่อนเลย ครูที่โรงเรียนจะไม่ยอมให้เรียนต่อ ซ้ำชั้นยังไงก็เหมือนเดิม ยังไงเขาก็เขียนไม่ได้อยุ่ดี"

    คุณหมอนั่งฟัง ตาก็สำรวจคนไข้ตัวน้อยที่นั่งเงียบข้างๆ
    "ทำไมน้องซันไม่เขียนละครับ" หมอถาม หลังจากที่มารดาหยุดพรรณา
    เด็กชายหันมองมารดานิดนึง ก่อนตอบ
    "ซันเขียนไม่ได้" เด็กชายก้มหน้าลง
    หมอเห็นอาการเข้าใจทันทีว่า เด็กคงเจออะไรมามากมาย
    "งั้นก่อนจะทำการทดสอบ หมอต้องขอคุยกับน้องซันตามลำพังก่อนนะครับ เชิญคุณแม่นั่งรอข้างนอกก่อน"
    นภาลุกขึ้น หันมาสำทับลูกชายว่า "น้องซันทำตัวดีๆนะ "
    ก่อนจะเดินออกไป

    คุณหมอหนุ่มหยิบของเล่นเป็นชิ้นส่วนให้ต่อเป็นรูปภาพขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ
    "คุณแม่ไปแล้ว เรามาเล่นของเล่นนี้ดีกว่า" หมอเชิญชวนเด็กชาย พร้อมหยิบๆจับๆ ชวนเล่น
    หมอทำท่าตลก จนน้องซันหัวเราะ เด็กชายหยิบชิ้นที่เหลืออยู่มาต่ออย่างรวดเร็ว
    "มันต้องต่อตรงนี้นะฮะ คุณหมอ" นิ้วเล็กๆหยิบชิ้นส่วนต่อ เพียงไม่กี่อึดใจ รูปภาพก็ต่อเสร็จอย่างรวดเร็ว
    หมอมองอย่างทึ่ง "เก่งแฮะ น้องซันเคยเล่นมาก่อนเหรอ ?"
    "เปล่าฮะ แต่มันเหมือนของต่อชิ้นอื่นๆ ที่ซันมี มันแค่ต้องจับไปเรียงตามช่องที่มันต้องอยู่"
    "ตอนที่น้องซันเห็นมันกองอยู่ น้องซันเห็นเป็นรูปอะไร" หมอซักถามคนไข้ไปเรื่อยๆ เหมือนชวนคุย
    "เห็นเป็นเหมือนตอนที่มันจะเสร็จ" เด็กชายตอบพลาง หยิบจับของเล่นชิ้นอื่นไปพลาง
    "อืม " หมอครางรับคำในคอ เขาคว้ากระดาษตรงหน้ามาเขียนใบสั่งทำเทสต์ไอคิว

    พยาบาลมารับตัวเด็กชายไปอีกห้องเพื่อทำทดสอบ คุณหมอบอกคนไข้ตัวเล็กของเขาว่า
    "ซันทำเหมือนที่ซันคิดว่ามันเป็น ไม่มีผิดหรือถูกนะครับ นี่เป็นการเล่น"
    ซันรับคำอย่างว่าง่าย ตลอดระยะเวลาทำเทสต์ คุณหมอหนุ่มเดินไปดูเด็กชายผ่านช่องหน้าต่างอีกห้องที่เชื่อมต่อกัน

    การทำเทสต์ไอคิวจะทำทั้งหมด 6 ชุด และแบ่งตามช่วงอายุ โดยแบ่งออกเป็น ช่วง 6-8 ขวบ
    8-12 ขวบ และ 12-15 16-20 ขึ้นไปตามลำดับ

    ผลการทดสอบจะนำมาหารเฉลี่ยคิดเป็นค่าไอคิวออกมา

    หลังจากทดสอบเสร็จ คนไข้จะมาฟังผลสอบอีกในสัปดาห์หน้า
    นภาถามคุณหมอถึงการทดสอบว่า ลูกชายจะปัญญาอ่อนหรือไม่ หมอยิ้มพร้อมให้ความมั่นใจว่า
    ลูกชายเธอไม่ปัญญาอ่อนแน่นอน

    เมื่อวันฟังผลทดสอบมาถึง นภาเฝ้าวนเวียนถามตัวเองในใจว่า ถ้าผลออกมาลูกปัญญาอ่อนเธอจะทำยังไง
    "คุณแม่อยากรู้ผลทดสอบไหมครับ" คุณหมอถามยิ้มๆ
    "อยากสิคะ ตกลงว่าเป็นยังไงคะหมอ" นภาถามอย่างระงับความรู้สึกตื่นเต้นไม่อยู่
    คุณหมอหันไปมองเด็กชายที่แยกตัวไปนั่งที่โต๊ะเล็กๆ ที่มีของเล่นประเภทต่อภาพวางอยู่

    "ผลทดสอบสรุปออกมา ไอคิว 120 ครับ" คุณหมอตอบ
    "แล้วมันเป็นไงคะ 120 "
    "ถ้าไอคิวต่ำกว่า 80 ถือว่าปัญญาอ่อน โดยเกณฑ์เฉลี่ยของเด็กปกติจะอยู่ที่ 100 ส่วนน้องซันถือว่า
    ระดับแลาดนะครับ" หมออธิบายถึงระดับไอคิว
    นภายิ้มดีใจอย่างโล่งอก
    "ดิฉันว่าแล้ว น้องซันไม่ใช่เด็กโง่ เอ้ แต่ทำไมเขาถึงเขียนหนังสือไม่ได้ละคะคุณหมอ"
    "ลักษณะแบบนี้ ทางการแพทย์เรียกว่า Learning Disability คือมีความบกพร่องทางการเรียนรู้"
    หลังจากอธิบายวิธีดูแล คุณหมอจึงนัดให้พบจิตแพทย์ต่ออีกระยะเพราะหมอสรุปว่า เด็กมีปัญหาทางด้านจิตใจ


    เรื่องราวเด็กชายซัน วิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป และตอนนี้น้องซันก็เป็นผู้ใหญ่ที่สามารถช่วยตัวเองได้ในสังคม
    ซันสามารถสร้างรายได้เดือนไม่ต่ำกว่า 60000 บาทจากความแตกต่างจากเด็กปกติ

    จากคุณ : สาริสา - [ 31 มี.ค. 51 15:55:03 A:124.121.243.154 X: TicketID:113562 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom