ฉันนั่งทำงานเป้นหุ่นยนต์หน้าคอมพิวเตอร์ เวลาล่วงเลยจนบ่าย 3 โมงกว่าแล้ว ฉันบิดขี้เกียจเล็กน้อย ฉันนั่งปั่นงานไม่หยุดเปนเวลา 2 ชม.แล้ว ได้เวลาพักสักที
ฉันเปิดอินเตอรเนท เช็กเมลรอบที่สองของวันนี้
น่าเบื่อ ฉันไม่ควรเชกมันรอบที่สองเลย มีเมลจากเจ้านายจนได้ ฉันมีประชุมประจำเดือนพรุ่งนี้ 9 โมง ให้ตายสิ
เอ....นอกจากเมลเจ้านายแล้ว มีเมลจากเพื่อนเก่าฉันเมื่อครั้งที่เราฝึกงาน ฉันอมยิ้ม จะกี่ปีๆ ฉันก็ไม่เคยลืมที่นี่ กระจกเงา ปัจจุบันเค้าจะกลายเป็นอะไร เติบโตขยายองค์กรไปถึงขนาดไหน ที่นั้นยังคงเป้นกระจกเงา หรือ ศูนย์ ในสายตาฉันอยู่ดี
ผ่านมาก็ 3-4 ปีแล้ว
ตอนนั้นฉันอายุ 19 ปี เท่านั้นเอง ฉันเรียนที่ราม อยู่กรุงเทพ พี่สาวฉันเรียนที่ ม.แห่งหนึ่งใน จ. ขอนแก่น เค้ากำลังเรียนปีสุดท้าย และกำลังจะไปฝึกงานที่ มูลนิธิแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย พี่สาวฉันเห็นว่าฉันเรียนที่เชียงรายมาก่อน เลยชวนฉันไปด้วย
ฉันซิวจาก ม.แห่งหนึ่งที่เชียงรายเมื่อปลายปีที่แล้วเอง ฉันยังคิดถึงจังหวัดนี้อยู่เลย ฉันตอบตกลงโดยไม่ลังเล
รถทัวร์เทียบท่า บขส.ที่คุ้นเคย ใจฉันเต้นนเล็กน้อยที่ได้กลับมาอีกครั้ง พี่สาวฉันล่วงหน้ามาก่อน 2อาทิตย เรานัดกันที่ บขส. แต่กว่าที่เค้าจะออกมา บวกกับระยะทางที่แสนจากไกล ฉันก็นั่งรอปาไป 2 ชม.กว่า ฉันนั่งหลับที่ บขส.ราวกับคนพเนจร ตื่นมาเพราะมีมือมาสะกิด
ฉันค้อนขวับตามนิสัยเคยตัวที่มักแสดงกับคนสนิท
"โทษทีแก นั่งรถมาเนี่ยตั้ง ชม. กว่าจะมีรถออกมาจากศูนย์ก็ต้องรอ 7 โมงเช้า"
ระยะทางจากตัวเมือง ไปมูลนิธิไม่ใช่ใกล้ๆเลย แต่ถ้าใช้มอเตอร์ไซด์ก็ราวๆ 30 นาที อาจเลทกว่านั้นเล็กน้อย แต่ถ้าโดยสารด้วยรถสองแถว ก้ราวๆ 1 ชม.
ฉันรู้คร่าวๆจากพี่สาวว่ามูลนิธิตั้งอยู่ที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง
อ.เมือง มันก้อยู่ในเมืองอยู่ละมั้ง อาจจะปลาย อ.เมืองหน่อยๆ เหมือนมหาลัยเก่าของฉัน
ฉันไม่รู้พิษสงของ อ.เมืองที่เชียงรายซะแล้ว
ฉันเพิ่งมารู้ก็ตอนไกลจะกลับกรุงเทพ ฉันได้เดินทางไป อ.สรวย ซึ่งอยูคนละทิศ กับต.แม่ยาวเลยทีเดียว ฉันใช้เวลานั่งรถ 3 ชม. จากตัวเมืองไปถึง อ.แม่สรวย น่าตลกมากที่ฉันไปถึง ม.ปางกิ่ว ต.วาวี จ.เชียงราย อีกฟากหนึ่งของหุบเขานี้ คงห่างกัน 5 กิโลเมตรได้ เป็นบ้านแม่สลักเย้า และที่สำคัญอยู่ อ.เมือง
อะไรกัน ยัง อ.เมืองอยู่ได้อีกเหรอ จังหวัดนี้
ฉันถึงได้ความรู้อีกอย่างหนึ่งว่า อ.เมืองของ จ.เชียงรายมันย๊าวววววววมากกกกก
ฉันนั่งรถสองแถว(คันเตี้ยๆ) เดินทางร่วม 1 ชม.นิดๆ เพราะจอดบ่อยรึเกิน ฉันนั่งดูวิวเรื่อยๆ ผู้โดยสารที่ขึ้นมาบ้างก็ชาวบ้าน บ้างก็ชาวเขา ชาวเขาไม่ได้เหมือนในทีวีขนาดนั้นหรอก เค้าก็เหมือนกับเราๆ แต่งตัวเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ใส่ชุดชนเผ่า ผู้โดยสารลงรถไปทีละคน สองสามคน ทีละคนๆ เอ...ทำไมฉันยังไม่ได้ลงสักทีนะ
ฉันถามพี่สาวและเพื่อนพี่สาวเป้นครั้งที่ 108 ว่าเมื่อไรจะถึง
พี่ก็ได้แต่ตอบว่าเดี๋ยวก็ถึง อีกไกล เป้นครั้งที่ 108
วิวจากเป็นภาพบ้านเรือนทั่วไป กลายเป็นทุ่งนา และกระท่อม กระท่อมๆๆๆๆๆมีบ้างที่เป็นบ้าน
ฉันตะลึงในภาพที่เห้นเล็กน้อย
"ถึงแล้ว" พี่สาวเรียกสติ
ฉันแบกสัมภาระลงรถมาเซๆ รถสองแถววิ่งออกตัวอบ่างรวดเร็วจนทิ้งฝุ่นตลบ โอโห ดินแดง ขี้ฝุ่นชัดๆ
เราสามคนรวมทั้งเพื่อนพี่เดินเข้าไปในกระจกเงา ซึ่งเป็นทางเดินราวๆ 10 ม. ฉันมองนั้นมองนี้ราวกับบ้านนอกเข้ากรุงก็ไม่ปาน เบื้องหลังมุลนิธิที่ฉันเห็น มันเหมือนเมืองๆหนึ่งๆ มีบ้านรูปแบบต่างๆกันตั้งห่างกันเล็กน้อย มีบ่อน้ำ มีลานกินข้าว มีห้องครัว
ที่นี่เค้าทำอะไรกันนะ ซ่องสุมกองกำลังอะไรรึเปล่า
"ตา พาน้องมาแล้วรึ กินข้าวกันยังละ มาๆพาน้องมากินข้าว"
ฉันนั่งลงกินข้าวข้างๆพี่ ท่าทางเด๋อด๋าเป้นที่สุด ความโทรมปรากฎบนใบหน้า จากการเดินทางไกล ผมเผ้าชีฟูเท่าที่จะเอื้ออำนวย
หลังจากแนะนำตัวกันไปเรียบร้อย พี่ตาก็พาฉันไปที่บ้านพักของนักศึกษาหญิง ให้ฉันอาบน้ำ พักผ่อนเสียก่อน แล้วจะพาไปพบกับคนดูแลนักศึกษาฝึกงาน
เค้าเรียกที่นี่ว่าบ้านเขียว เขียวจริงๆเขียวทั้งบ้านและร้อนมากๆ เพราะสร้างจากไม้
ห้องน้ำที่นี่ออกประหลาดๆ มันช่างโล่งโจ้งในสายตาฉันจริงๆให้ตาย จริงอยู่ที่รอบข้างฉันมาถูกบังมิดชิด แต่สูงจากระดับสายตาฉันไป ราวๆเลยหัวไป 1 ม.เห็นจะได้ มันแทบเปิดโล่ง เห็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา
พระเจ้าช่วย ฉันเห็นม้ามาแอบดูฉัน ฉันได้แต่ช็อกตาตั้ง
"มะ....ม้า ฉันหุบปากสนิท ด้วยความอายๆเพื่อนๆที่ยังอยู่ในบ้านและยังไม่อยากจะสร้างเรื่องให้ตัวเองโด่งดังในวันแรกที่มาถึง
เอาวะ ม้ามันจะดูอะไรก็ดูไป เอาไปไม่ได้หรอก เชอะ
ฉันมารู้ตอนหลังว่า มันชื่อเจ้าแม็ค และเจ้านิ่ม
โอ้ว....งานมากองอีกแล้ว ฉันต้องหยุดเล่าเสียก่อนที่งานจะค้าง พรุ่งนี้ฉันจะมาเขียนใหม่นะ
"
จากคุณ :
นิรชรา
- [
31 มี.ค. 51 17:03:27
A:203.148.162.137 X: TicketID:170699
]