Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    HEART STATION

    เชื่อมั้ยครับ
    ว่าหัวใจของคนเราทุกคน
    ที่ทุกคนต่างบอกกันว่า
    เรามีมันเพียงดวงเดียว
    ที่อยู่หน้าอกทางด้านซ้ายของเรา
    จริงๆเเล้วพวกเรามีหัวใจอีกดวงหนึ่ง
    หัวใจดวงที่คุณไม่อาจสัมผัส
    *
    *
    ถ้าผมบอกเช่นนี้ทุกคนจะเชื่อมั้ย
    ผมที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร
    ตัวเองชื่ออะไร
    ผมรู้เพียงว่าต้องทำหน้าที่บางอย่าง
    อยู่ที่ตรงนี้
    บนที่ๆคนที่นี่เรียกว่า สถานีหัวใจ
    ทั้งๆที่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด

    ผมรู้เพียงว่า มนุษย์ทุกคนมีหัวใจอยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย
    เเต่หัวใจนั้น มันเป็นเพียงเเค่ รูปธรรม เป็นของร่างกายเท่านั้น
    เพราะมนุษย์เรายังมีหัวใจอยู่อีกดวงโดยที่พวกเขาไม่เคยรู้ตัวเลย
    พวกเขามองไม่เห็น
    เเละ สัมผัสมันทางกายภาพเเบบหัวใจที่อยู่ทางซ้ายของหน้าอกของพวกเขาไม่ได้
    หัวใจอีกดวงที่ผมว่ามันมีรูปร่างเหมือน ลูกโป่งสวรรค์
    เพียงเเต่ตัวลูกโป่งแทนที่จะรูปทรงกลมๆรีๆกลับกลายเป็นรูปหัวใจเเทน
    มีสายบางๆสีขาวผูกมันติดไว้บนข้อมือด้านซ้าย
    ผมขอเรียกมันว่า หัวใจของความรู้สึก
    หัวใจดวงนี้มี จังหวะ/ความถี่ การเต้นของหัวใจเฉกเช่นเดียวกับหัวใจบนหน้าอก
    เพียงเเต่ มันเป็นเอกลักษณ์
    ไม่มีเสียงการเต้นของคนใดบนโลกที่จะเหมือนกันทั้งหมด

    หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงรู้
    ไม่เเปลกครับว่าทำไม
    เพราะผมทำงานอยู่ที่สถานีหัวใจแห่งหนึ่ง
    สถานีที่ลอยตัวอยู่บนท้องฟ้า คล้ายคลึงกับประภาคารที่ตั้งบนผิวน้ำ
    เเต่ไม่มีมนุษย์คนไหนมองเห็น หรือสัมผัสถึงที่นี่
    สถานีหัวใจเป็น ที่ๆส่งต่อหัวใจที่ผูกติดบนข้อมือด้านซ้ายนี่เเหละครับ
    ที่สถานีหัวใจพวกเขารับหัวใจเหล่านี้มา เเต่ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขารับมาจากไหน
    สร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร
    มันเป็นความลับสุดยอดของสถานี
    ก่อนที่จะส่งลงไปให้กับคนที่กำเนิดขึ้นมาทุกคนบนโลกบนจุดที่เเต่ล่ะสถานีรับผิดชอบ
    เเบบเมื่อทารกออกมาจากครรถ์มารดาปุ๊บ
    หัวใจก็จะถูกปล่อยจากสถานีนี้ที่อยู่เหนืออากาศลงไปปั๊บ
    ผูกไว้ที่ข้อมือด้านซ้าย พอๆกับที่หัวใจบนหน้าอกด้านซ้ายของทารกเต้น ตึ๊บๆ
    เเละเสียงร้อง อุเเว้ อุเเว้ ดังขึ้น

    ที่บนสถานีหัวใจมีที่ๆหนึ่งที่ผมชอบเข้าไปอยู่มาก
    มันคือ
    ห้องที่ใช้สำหรับส่งมอบหัวใจให้ทารก
    มันเป็นห้องที่กว้างมาก
    ผมชอบมาที่นี่ ไม่รู้เพราะอะไร
    ห้องสีขาว ที่มีหลุมเล็กๆน้อยๆมากมาย ภายในหลุมนั้นเมื่อมองลงไป
    จะเห็นเเสงสีม่วงเรืองรอง บนเพดานที่ตรงกับหลุมจะมีท่อที่ส่งต่อมาจากอีกห้อง
    คอยปล่อยหัวใจออกมาเป็นระยะๆ ให้เเก่ทารกที่เกิดขึ้นมาบนโลก
    เเต่ที่ผมชอบมาที่นี่ไม่ใช่เพราะผมจะมานั่งดูหลุมพวกนี้ หรือหัวใจที่จะส่งให้ทารกหรอกนะ
    ผมชอบเดินมาอีกมุมหนึ่งของห้อง มุมที่มีทางเดินต่อไป
    ทางค่อยๆเเคบไปเรื่อยๆเดินต่อไปจนพบพื้นที่วงกลม
    ที่มีบันไดหินให้เดินขึ้นไปอีกระยะ ก่อนจะพบพื้นที่หนึ่งที่เหมือนชั้นลอย
    ที่ชั้นลอยนั้นมีบานประตูที่เปิดเเง้มไว้ตลอดเวลา เเละเเน่นอน
    ที่ๆตรงนี้มีเเสงสีม่วงเรืองรองส่องประกายไปมาอย่างสวยงามเสมอ
    ผมชอบที่จะมานั่งคิดอะไรที่นี่ เเต่ก็มาได้ไม่ตลอดเวลา
    เพราะที่นี่บางทีก็ปิดไว้เพื่อทำอะไรบางอย่าง
    เเต่ผมก็ไม่รู้ว่าที่ประตูนี้ไว้ทำอะไร
    ผมเคยถามท่านผู้อำนวยการสถานีหัวใจที่นี่
    เเต่หลายครั้งที่ท่านพยายามกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่อง
    เเล้วบอกผมว่า "ไปทำงานได้เเล้ว เจ้าเด็กน้อย" เสมอ
    *
    *
    งานของผมนั้นไม่ใช่งานที่ทำอยู่บนสถานีหัวใจบนฟ้าที่นี่หรอก
    ผมทำงานอยู่บนโลกนั่นเเหละครับ
    แต่งานที่ผมทำ...ถ้าผมบอกคุณ คุณอาจจะไม่เข้าใจ
    เอาเป็นว่า ถ้าคุณเชื่อว่า คิวปิ๊ด มีอยู่จริง
    คุณอาจนึกไม่ถึงว่า มีคนที่ทำงานเเบบผมอยู่ด้วย
    หากคิวปิ๊ดมีหน้าที่ยิงศรรัก ให้คนบนโลกตกหลุมรัก เเละรักกัน
    ผมคงทำงานตรงกันข้ามกับพวกเขา
    ผมทำหน้าที่ช่วยเเยกให้พวกเขาออกจากกัน ให้ความรัก ความหลงนั้นเบาบางลง
    เเต่อย่าพึ่งมองว่าผมเป็นตัวร้าย เหมือนนางอิจฉาในละครน้ำเน่านะครับ
    ผมทำไปเพราะช่วยพวกเขา เเละมันเป็นเจตนารมณ์ของท่านผู้อำนวยการ

    "ยามหัวใจของคนที่ตกหลุมรักใครมาก มากจนหลง
    เอาตัวเอง เอาความรู้สึก ไปผูกติดไว้กับคนอีกคน ขึ้นตรงต่ออีกคนเสียทุกอย่าง
    จนบางคนเสียหลักทำร้ายตัวเองไป นั่นเเหละคือสิ่งที่เราต้องช่วยพวกเขา"

    นี่คือคำพูดของท่านผู้อำนวยการสถานีหัวใจ ที่จริงรูปร่างท่านนั้นไม่เหมือนผู้เฒ่าคนเเก่เลย
    ดูเป็นผู้ชายอายุประมาณสามสิบต้นๆเท่านั้น เเต่ถ้าเผลอไปถามอายุท่าน
    คุณอาจจะต้องตะลึงไปเลย
    ท่านจะสวมชุดเสื้อ กางเกง รองเท้าทั้งชุดเป็นสีม่วงสดทั้งหมด

    ส่วนงานของผมน่ะเหรอ
    ปี๊ดๆ...เสียงอะไรบางอย่างดังมาจากอุปกรณ์คู่กายชิ้นแรกของผม
    มันคือที่จับความถี่การเต้นของหัวใจของเป้าหมาย
    ผมคงอยู่ใกล้เป้าหมายเเล้ว
    ผมบินโฉบลงมาด้วยปีกสีดำ เข้าไปในสวนสาธารณะเเห่งหนึ่ง
    เเต่งตัวด้วยชุดยูนิฟอร์มของการทำงาน
    ชุดสีเทา เเขนกุด ตรงรอบๆคอเสื้อมีหินสีดำเล็กๆร้อยเรียงราย
    รองเท้าเเตะสีเทารูปร่างเเปลกตา ที่มีที่หนีบตรงหัวเเม่เท้า
    ผมพบเป้าหมายเเล้ว
    เด็กผู้หญิงวัยรุ่นอายุประมาณสิบเจ็ดถึงสิบเเปดปี เธออยู่กับคู่รักชายอายุวัยกลางคน
    ที่ข้อมือซ้ายของเธอว่างเปล่า....
    ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีหัวใจเเห่งความรู้สึก
    เเต่มันถูกผูกติดไว้กับหัวใจอีกดวงบนข้อมือของชายวัยกลางคน
    หัวใจของชายวัยกลางคนนั้นเป็นสีม่วงอ่อน ส่วนหัวใจของเธอนั้นเป็นสีม่วงเข้ม
    ผมคงลืมบอกไปสินะเกี่ยวกับสีของหัวใจ
    ปกติคนเราเวลาเกิดอุเเว้ๆออกมาทันทีสีหัวใจที่ผูกติดไว้จะเป็นสีเเดงอมชมพู
    เเต่เมื่อคนเรามีความรักหัวใจก็จะค่อยๆกลายเป็นสีม่วง
    สีม่วง สีที่มีทั้งความสดใส และความหม่นในตัวของมัน
    มันคือ สีเเห่งความรัก

    ถ้ามันยังคงม่วงอ่อนอยู่นั่นก็หมายถึง
    เขามีความรัก ไม่ว่าเขาจะรักใครหรืออีกฝ่ายมากเเค่ไหน มากเท่าไร เเต่ยังสามารถควบคุมสติเอาไว้ได้
    เเต่ถ้ามันม่วงเข้มขึ้นๆมากขึ้นเท่าไหร่นั้นเเปลว่า ความรักนั้นได้ก่อตัวมากขึ้นๆ
    จนบางทีความรักนั้นมันได้ควบคุมจิตใจ ความรู้สึก เเละตัวเค้า ให้ไปขึ้นตรงต่อการกระทำ หรืออะไรของอีกฝ่าย
    เเละเเน่นอน เมื่อถึงจุดๆหนึ่งหัวใจที่ผูกไว้ที่มือซ้ายของคนๆนั้น จะล่องลอยไปผูกไว้กับข้อมือของคนที่เขารัก
    เเต่พูดก็พูดเถอะตั้งเเต่ผมทำงานมาเป็นเวลาปีเศษ พบเจอผู้คนมากมายบนโลก
    ผมยังไม่เคยเห็นผู้คนที่พอรู้เรื่องรู้ราว พูดคุยได้เเล้วมีหัวใจสีเเดงเลย
    ผมพบเจอเเต่สีม่วง อ่อน เข้มตามสถานการณ์
    ผมก็เคยสงสัย เเละพยายามคิดเหมือนกันนะ
    ว่าทำไม

    "พี่ค่ะ วันนี้หนูมีอะไรจะบอกพี่ค่ะ"

    เสียงเด็กผู้หญิงกำลังเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่างด้วยเสียงอันแผ่วเบา
    ช่วงนี้ผมรีบจู่โจมบินเข้าไปที่ชายวัยกลางคน เเน่นอนไม่มีใครบนโลกมองเห็นผม
    เช่นเดียวกับที่พวกเขามองไม่เห็นหัวใจบนข้อมือด้านซ้ายของตัวเอง
    ผมใช้จังหวะนั้น หยิบอุปกรณ์คู่กายชิ้นที่สองของผมออกมา

    "มีอะไรเหรอจ๊ะ น้องสาว พร้อมที่จะไปสวรรค์กับพี่หรือยัง"

    กรรไกรสีขาวที่ตรงกลางตัวกรรไกรมีหัวใจสีม่วง
    ผมง้าวมันขึ้นมา

    "ฉับ"

    ผมตัดลงไปที่สายเชือกสีขาวของหัวใจผู้หญิง ทีเดียวสายนั้นขาดสะบั้น
    พร้อมกับนำหัวใจของเธอกลับมาผูกที่ข้อมือของเธอ

    ระหว่างเวลานั้นเธอควักอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า พร้อมกับ
    ปามันใส่หน้าผู้ชาย มันคือเเหวน

    "เราจบกันค่ะ หนูไม่ใช่เด็กโง่ๆที่จะโดนพี่หลอกฟันนะ ลากันเเค่นี้ค่ะ
    ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง!" เธอพูดกระเเทกคำหลังด้วยอารมณ์ประมาณสะใจ
    พร้อมกับเดินจ้ำๆออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

    "โอ๊ย ห่าอะไรว่ะ ผู้หญิงสมัยนี้หวงทำไมกับไอ้ร่างกาย มีก็ใช้มันให้เป็นประโยชน์ดิว่ะ
    แมร่งเงินกูก็มีตอบแทนให้”
    ชายวัยกลางคนพูดตะโกนตามหลัง เเต่ไม่มีการตอบโต้กลับใดๆของอีกฝ่าย

    ก็นี่ล่ะครับงานของผม

    จากคุณ : shikak - [ 31 มี.ค. 51 23:57:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom