Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ความในใจ..ที่ไม่มีใครได้ยิน..ตอน..กอดฉัน..หัวใจเธอกอดใคร

    ขณะที่กำลังนั่งรอการมา…ของเขา
    เพื่อฉลองครบรอบห้าปีของการแต่งงานของเรา
    โต๊ะเล็กๆขนาดสองที่นั่ง…ในร้านบรรยากาศอบอุ่น
    ความเป็นกันเองของบริกร…ที่มาคอยต้อนรับ
    และแวะเวียนมาที่โต๊ะเสมอๆ อย่างเอาใจใส่
    ไม่ได้ทำให้ฉันอบอุ่นใจนัก
    ฉันคิด….ขณะเหลือบตาที่แต่งแต้มสีสันมาอย่างปราณีต
    ไปที่นาฬิกาเรือนใหญ่ ที่ประดับฝาผนังด้านขวามือของร้าน
    หนึ่งชั่วโมงแล้ว…ที่เลยเวลาที่เรานัดหมายกันไว้
    เขาทำงานหนัก…ฉันเข้าใจ….เขาเป็นอย่างนี้เสมอ ตั้งแต่เรารู้จักกัน
    จนเราแต่งงานกัน เขาก็ยังไม่เคยเปลี่ยน….เวลาที่เรามีให้แก่กัน…มันช่างน้อยนิด
    แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันบอกตัวเองอย่างนั้นเสมอมา
    ตลอดเวลา ฉันเฝ้าบอกตัวเองว่า เพื่ออนาคตของเรา ฉันทนได้
    …
    …
    แม้แต่วันนี้….วันครบรอบห้าปีของการแต่งงานของเรา
    ทั้งๆที่เราอยู่บ้านเดียวกัน แต่ฉันกลับต้องมานั่งรอเขาเป็นชั่วโมงๆอย่างนี้
    ความจริงการที่ต้องแบ่งเวลาของเขาไปให้งาน ฉันพอทนได้
    แม้บางครั้ง….ฉันอยากเรียกร้องให้เขาแบ่งเวลาอันที่ค่า มาให้ฉันมากกว่าที่ฉันเคยได้รับบ้าง
    แต่เบื้องหลังความยุ่งเหยิงของงานและความเย็นชาของเขาต่างหาก
    ที่กำลังทำให้หัวใจอันบอบบางของฉัน….เริ่มครุ่นคิดบางสิ่ง
    ดวงตาแสนหวานทอดมองไปยังเปลวเทียนบนโต๊ะตรงหน้า
    เปลวเทียนที่ส่องแสงสีส้มอมชมพูจางๆระเรื่อ แต่ก็ให้ความสว่างไม่น้อย
    แต่ความสว่างและความอบอุ่นอันน้อยนิด…มันคงเข้าไปไม่ถึงหัวใจฉัน
    ในหัวใจฉันจึงเย็นเยียบราวกับนั่งอยู่บนธารน้ำแข็งเช่นนี้
    ควันสีเทาหม่นของมันลอยละลิ่วล่องไปไม่มีทิศทาง
    ดวงตาของฉัน…ยังคงมองมุ่งไปตรงหน้านั้น…ขณะที่หัวใจของฉันล่องลอยไปไกล
    ไกลแสนไกล…ย้อนไปยังอดีตที่ฉันอยากลืมเลือน
    ไปยังเวลาที่ฉันอยากให้มีปาฏิหารย์…ลบเลือนมันออกไปจากประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำ
    ฉันอยากให้มันเป็นเพียงความฝัน…ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
    ความฝันที่ฉันจะ…ไม่มีวันตื่นขึ้นมาพบพาน
    เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของกาลเวลา….ที่ดับสูญ
    เป็นเพียงละอองไอหมอก…ที่ต้องแสงแดด..แล้วละเหยไปพลัน
    …
    …
    หากแต่ความเป็นจริง…มันไม่ง่ายดาย
    นางฟ้าแห่งการเวลา…คงไม่ปราณีฉันถึงเพียงนั้น
    วันนี้…ฉันถึงยังคงนั่งอยู่ตรงนี้…..ด้วยความปวดร้าวหัวใจ
    เพราะมีเศษเสี้ยวของความรักที่แตกหัก….ปักและฝังรากลึกอยู่ในนั้นมานานแสนนาน
    และการเวลาก็ไม่อาจเยียวยาได้….
    …
    …
    สองปีแล้วซินะ…ที่ฉันต้องรู้สึกอย่างนี้
    สองปีแห่งความแตกร้าว….ที่มันยากที่จะประสาน
    สองปีที่นำมาซึ่งความปวดปร่า….ของคนหลายคน
    สองปีที่หัวใจของฉันวิ่งวน….ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน
    ฉันไม่รู้ว่า…ฉันผิดตรงไหน
    ฉันไม่รู้ว่า…อะไรคือช่องว่างระหว่างเรา
    ฉันรู้เพียงแต่ว่า…กว่าฉันจะรู้ตัว
    ผู้หญิงคนนั้น….เธอก็แทรกเข้ามา..อยู่ในหัวใจคุณเสียแล้ว
    ฉันไม่รู้ว่า…เธอทำได้อย่างไร
    ทำไมเธอคนนั้น…ถึงมีอิทธพลต่อหัวใจคุณนักหนา
    บางที…..ฉันคงต้องหันกลับมามองตัวเองซักครั้ง
    ว่าฉันพลาดอะไรไป
    …
    …
    คุณรู้ไหม….ว่าวันที่ฉันได้รับรู้ความจริงที่แสนโหดร้ายนี้…ฉันรู้สึกเช่นไร
    ถ้าในชีวิตนี้ที่ผ่านมาในอดีตของคุณ….เคยถูกทรยศหัวใจมาก่อนสักครั้ง…คุณคงเข้าใจ
    มันไม่มีอะไร จะเจ็บปวดเท่านี้อีกแล้ว
    แม้ว่าเธอคนนั้น….จะได้จากไป..แม้ว่าคุณจะยังอยู่ตรงนี้กับฉัน
    แต่มีดที่เคยปักลึกลงไปในความรู้สึก…ถึงคุณจะถอนมันออก..แต่ร่องรอยมันไม่เคยหายไปไหน
    มันยังอยู่…มันยังอยู่ที่นี่.ที่ข้างในหัวใจฉัน
    มันยังคงพุพอง…กลัดหนอง…รอคอย…วันแตกปริ
    เพียงแค่สายลมแห่งความหวาดระแวง…พัดพลิ้วพาดผ่านเพียงเบาเบา
    ก็อาจทำร้ายหัวใจได้
    …
    …
    ถึงฉันจะรู้..ว่าผู้หญิงคนนั้น..เธอคงไม่ได้ตั้งใจ
    เธอคงไม่รู้…ว่าคุณมีฉันอยู่แล้ว
    ฉันรู้ค่ะ…ว่าเธอไม่ผิดเลยซักนิด
    เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง….ที่รักคุณเท่านั้น
    รักคุณ…..เหมือนที่ฉันเอง…ก็รัก
    แต่ไม่ว่า….มันจะมีกี่ร้อยพันเหตุผล
    ก็ฉุดรั้ง…ความรู้สึกเกลียดที่ฉันมีต่อเธอไม่ได้
    ฉันเกลียดเธอ…ที่แทรกเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างเรา
    ฉันเกลียดเธอ…ที่นำความสดใส ความแปลกใหม่ ความอิสระเสรีที่ฉันไม่เข้าใจนัก มาสู่คุณ
    ฉันเกลียดเธอ…ที่เลือกที่จะไปจากความสัมพันธ์ของเราทั้งสามคน
    และฉันเกลียดเธอที่สุด….ที่เธอทำให้ฉันรู้สึกเกลียดตัวเองยิ่งนัก
    ยิ่งเธอทำตัวเป็นคนดีด้วยการจากไปเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งขยะแขยงตัวฉันเองมากขึ้นเท่านั้น
    ขยะแขยงตัวเอง….ที่อ่อนแอเหลือเกิน
    ขยะแขยงตัวเอง….ที่ยอมพ่ายแพ้ให้แก่ความรัก
    ขยะแขยงตัวเอง….ที่เอาความผูกพันธ์สงสารจากคุณ มาเป็นพันธนาการฉุดรั้งคุณไว้
    ขยะแขยงตัวเอง….ที่เห็นแก่ตัว….ไม่ยอมปล่อยให้คุณไป เพื่อความสุขของฉันเอง
    …
    …
    แต่ความเห็นแก่ตัว…มันไม่เคยให้“คุณ”แก่ใคร
    และตอนนี้…..ความเห็นแก่ตัว มันกำลังให้“โทษ”แก่ฉัน
    การลงทันฑ์ทางความรู้สึก…ทั้งๆไม่ใช่ความผิดของฉัน
    และอาจไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น
    มันคงเป็นแค่….ความสนุกของนางฟ้าแห่งการเวลา
    ที่ลิขิตให้เรา……ได้ใช้เวลาแห่งความสุขสมต่อกันแค่นั้น
    มันคงเป็นแค่….ความสนุกของนางฟ้าแห่งการเวลา
    ที่นำพาใครอีกคนที่ไร้เดียงสา…เข้ามาสู่ชีวิตของเรา
    และมันก็คงเป็นแค่….ความสนุกของนางฟ้าแห่งการเวลา
    ที่จะได้เฝ้ามองเราทุกคน…ดิ้นรน…หาหนทางออก
    จากเขาวงกตแห่งรัก…ที่สลับซับซ้อน…จนเรามองไม่เห็นทางออกซักทาง
    โดยที่จะไม่ทำให้ใครคนใดคนหนึ่ง…ไม่ต้องเจ็บปวดเสียใจ
    ..
    ..
    และโทษๆนั้นของฉัน…..ก็คือความหวาดระแวงอยู่เสมอ
    ในขณะที่เธอคนนั้น….ยืนอยู่ตรงไหนของโลก…ฉันก็ยังไม่รู้
    แต่หนามแหลมของรอยอดีต…ยังคงทิ่มแทงฉันอยู่
    ในอ้อมแขนของคุณ…ที่โอบกอดฉันอยู่อย่างอบอุ่น
    ในอกใจของฉันกลับหนาวเยือก…..เพราะไม่อาจรับรู้ได้ว่า
    ในขณะที่คุณโอบกอดฉันนั้น
    หัวใจของคุณ…กำลังเฝ้าครุ่นคิดถึงใครกันแน่?
    รอยยิ้ม…ที่เรามีต่อกัน…มันไม่นำมาซึ่งความสดชื่นอ่อนหวานอีกแล้ว
    ตาสบตากัน….หากหัวใจมันไม่สบกับหัวใจดังเดิม
    …
    …
    คุณคะ?
    บางทีเวลาสองปี…มากอาจจะมากเกินไป
    เกินไป…สำหร….
    “เพล้ง”
    เสียงที่ดังขึ้นที่ข้างเก้าอี้….ทำให้เธอสะดุ้ง
    และรู้สึกร้อนนิดๆที่ปลายนิ้วเท้า…บนรองเท้าส้นสูงแบบเปิด
    บริกรรีบก้มลงเช็ดให้และกล่าวขอโทษเป็นการใหญ่ในความซุ่มซ่าม..
    หากแต่เธอรั้งไว้…กล่าวแก่บริกรผู้นั้น…ว่าไม่เป็นไร
    เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น…มันไม่ทำให้เธอเจ็บได้ซักเท่าไหร่หรอก
    สิ่งที่เธอจะทำหลังจากนี้ต่างหาก..ที่มันจะเจ็บอย่างเหลือแสน
    …
    …
    กลับมาจากห้องน้ำ..หลังจากไปล้างคราบรอยเปรอะเปลื้อนเรียบร้อย
    ทุกอย่างที่แตกกระจายบนพื้นเมื่อกี้นี้…ถูกทำความสะอาด..จนเกลี้ยง ไม่หลงเหลือแม้ร่องรอย
    ว่าเกิดอะไรขึ้นตรงนี้มาก่อน…
    เธอยิ้มเล็กน้อย…ขณะที่นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม…ตัวเก่า
    เมื่อกี้…ฉันกำลังคิดอะไรอยู่นะ
    อ้อ…..ฉันกำลังคิดว่า
    บางทีเวลาสองปี….มันอาจจะมากเกินไป
    มากเกินไปสำหรับการที่จะพยายามประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวง
    หัวใจที่ดวงหนึ่ง….เป็นอื่นไปแล้ว
    ขณะที่หัวใจอีกหนึ่งดวง…ก็มีแต่รอยแยกของความหวาดระแวงเท่านั้น
    เวลาที่ผ่านมา…มันไม่ช่วยเยียวยาอะไรได้เลย
    เมื่อขณะที่คุณกำลังยิ้มให้ฉัน…หัวใจคุณกำลังยิ้มให้คนอื่น
    ฉันไม่อาจจะทนได้อีกต่อไปแล้ว
    ไม่ใช่สิ…ไม่ใช่ว่าฉันจะทนต่อไปไม่ได้
    แต่ฉันจะไม่ทนกับมันอีกต่อไป….ต่างหาก
    ความรักของเรา…คงไม่ต่างกันนัก กับกาแฟถ้วยเมื่อกี้
    กาแฟ….ที่ทำให้เท้าของฉันแสบร้อนอยู่ในขณะนี้
    ..
    ..
    ถ้วยของมันที่บรรจุ…กาแฟที่หอมหวาน และขมนิดๆ
    กาแฟที่มัน…มีกลิ่นของความรักที่ลอยอบอวลหอมกรุ่น
    หากแต่เมื่อมันร่วงหล่น…ลงมาแตกออกเป็นสองเสี่ยงแล้ว
    มันก็ไม่มีวันเหมือนเดิม….อีกต่อไป
    ถ้วยใบนั้น…มันเอามาเชื่อมต่อกันใหม่ไม่ได้
    หรือหากนำมา…หลอมละลายด้วยความร้อน…
    ผ่านกระบวนการผลิตอีกครั้ง…มันก็จะเป็นแค่ถ้วยใบใหม่เท่านั้น
    ไม่มีความทรงจำของความรัก…ของเราอีกต่อไป
    คุณคะ…ถึงแม้ว่าเราจะมีถ้วยใบใหม่
    แต่เราไม่มีน้ำกาแฟ….แห่งความรักอีกแล้ว
    มันกระจายลงบนพื้นไปหมด…ทำได้อย่างเดียว
    คือรอคอย…การเก็บกวาด…ทำความสะอาดเท่านั้น
    ..
    ..
    คงถึงเวลาที่ฉันจะต้องยอมรับความจริง…แล้ว
    ว่าความรักของฉันแต่เพียงฝ่ายเดียว…มันไม่เพียงพอ
    ถึงเวลาแล้ว…ที่ฉันควรจะปล่อยคุณไป…ไปตามทางของคุณ
    ถึงเวลาแล้ว…ที่ฉันจะต้องทำความสะอาดกาแฟของเรา
    ที่มันหกเลอะเทอะมานาน….เสียที
    ..
    ..
    เสียงโมบายอันเล็กๆที่ประตูร้านอาหารดังขึ้น
    เมื่อร่างสูงในชุดสูทเปิดเข้ามา…พร้อมกับกระเป๋าเอกสารใบย่อม
    บ่งบอกให้รู้ว่า..เขาเพิ่งเลิกงาน ออกจากสำนักงานและตรงมาที่นี่ทันที
    ดวงตาของเขาที่มองมุ่งมาที่หญิงสาว…มีความเป็นมิตร
    อ่อนโยน…มีความเข้าอกเข้าใจ..หากแต่เบื้องหลังแววตานั้น
    มีแววของความหมองหม่น และเหนื่อยล้าเหลือเกิน
    หญิงสาวร่างบอบบางที่นั่งอยู่เมื่อครู่ ลุกขึ้นยืนต้อนรับ…พร้อมรอยยิ้มอบอุ่น..แกมเศร้า
    หากแต่ก็เป็นรอยยิ้ม…ที่เธอยิ้มให้เขา..ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งเป็นครั้งแรก ในรอบสองปีสุดท้าย
    ..
    ..
    ลาก่อนค่ะ..ที่รัก
    นี่คือคำที่ฉันจะต้องฝืนใจพูดให้ได้…ในวันนี้
    แม้จะด้วยหัวใจที่ร้าวราน…ก็ตาม
    ...
    ...
    จบ
    ...
    ...
    อ่านแล้ว..ช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะ....ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
    น้อมรับทั้ง...คำติและคำชม...เพื่อจะนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป

    "ความในใจที่ไม่มีใครได้ยิน ตอน กอดฉันหัวใจเธอกอดใคร"
    เป็นเรื่องต่อเนื่องจาก "ความในใจที่ไม่มีใครได้ยิน ตอน จดหมายที่ไม่ได้ส่ง"
    ที่ผู้เขียนอยากให้เห็นถึงมุมมองของความคิดของเรื่องราวความรักสามเส้า
    ว่าแต่ละฝ่าย..มีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร ผู้เขียน เขียนด้วยรู้สึกว่า"น่าจะเป็น"
    หากเข้าไม่"ลึก"ถึงหัวใจของใครที่เคยโดนแบบนี้ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

    หากใครอ่านแล้ว...ไม่ชอบใจ ก็ขอเพียงแค่ผ่านไป..ด้วยรอยยิ้ม
    หากแต่ถ้าใครชอบใจ...ก็ขอให้กลับไปอ่านความรู้สึกของผู้หญิงอีกคนได้
    ที่ "ความในใจที่ไม่มีใครได้ยิน..ตอน..จดหมายที่ไม่ได้ส่ง"

    แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 51 01:13:54

    จากคุณ : nikanda - [ 1 เม.ย. 51 00:04:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom