Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ค่าของเงิน

    ...

    บนผืนผ้าพลาสติกซึ่งมีลายสีฟ้าสลับขาวผืนเก่าผืนนั้น มีสิ่งของหลายอย่างวางเรียงรายกันอย่าง
    เป็นระเบียบ ใยลูกบวบสีเหลืองนวลสวยสำหรับใช้ขัดผิวกายยามอาบน้ำ ขมิ้นชันทั้งอย่างเป็นหัว
    และชนิดที่ถูกป่นเป็นผงละเอียด ลูกขนุนขนาดเท่ากำปั้นที่ถูกเผาจนกลายเป็นก้อนถ่านสีดำสนิท
    สำหรับใช้ดูดซับกลิ่นในตู้เย็น เม็ดกระบกคั่วเกลือ แชมพูสมุนไพรที่แปะป้ายยี่ห้อของกลุ่มแม่บ้าน
    เกษตรกร ข้าวของกระจุกกระจิกอีกหลายอย่างไปจนถึงหัวว่านรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ ที่บางหัวเริ่ม
    แตกหน่ออ่อน ๆ ออกมาบ้างแล้ว

    ผืนผ้าพลาสติกถูกวางชิดริมขอบด้านหนึ่งของสะพานลอยคนเดินข้ามทางรถไฟ หน้าตลาดใหม่ดอนเมือง
    ในยามเช้าของวันทำงานอันรีบเร่งในสังคมเมืองหลวงที่เหล่าผู้คนถูกฉุดลากไปกับกระแสบริโภคนิยมราวกับถูก
    สนตะพายด้วยภาระค่าครองชีพและเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่ใช้เทคโนโลยี G3 ซึ่งยังไม่อาจรองรับ
    การทำงานของระบบนี้ในเมืองไทย แต่ด้วยอานุภาพของการสื่อสารมวลชน และแผนการตลาดอันชาญฉลาด
    ของคนเพียงไม่กี่คน กลับร่ายมนต์สะกดให้คนกว่าค่อนประเทศนี้ยอมลดตัวลงเป็นทาสอย่างภาคภูมิใจ และพร้อม
    ถวายเม็ดเงินด้วยความเริงร่าใส่พานให้กับท่านเจ้าของสัมปทานเหล่านั้น โดยลืมนึกถึงความเป็นจริงบางอย่างว่า
    คลื่นความถี่ที่ใช้ในการสื่อสารกันนั้นเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ และเจ้าของที่แท้จริงนั้นก็คือเหล่าทาสทั้งมวลนั่นเอง

    ภาพของเหล่าทาสทางสังคมบริโภคนิยมที่กรูเกรียวกันออกไปทำงานหาเงินราวกับฝูงมดงานอันสัตย์ซื่อแลดู
    วุ่นวายสับสน ผู้คนมากมายก้าวย่างกระฉับกระเฉงเดินทางผ่านสะพานลอยคนข้ามถนน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่
    ถูกขับเคลื่อนด้วยเหตุผลของแต่ละคน ในความไหวเคลื่อนบนสะพานลอยนั้นกลับมีบางสิ่งที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
    อยู่กับที่ สิ่งที่ว่าก็คือ ยายกลอย หลานชายวัย 4 ขวบของแก และข้าวของที่ถูกจัดเรียงเป็นระเบียบบนผ้าพลาสติก
    ผืนเก่าผืนนั้น

    ...

    นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาดูโลกสีครามใบนี้ เราแต่ละคนก็ดูเสมือนถูกโชคชะตากำหนดมาให้ต้องทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
    แตกต่างกันไป สำหรับบางคนแล้วชีวิตช่างรื่นรมย์ราวถูกสวรรค์เชิญให้มาเกิดเป็นมนุษย์ผู้อยู่ไกลห่างจากความ
    ยากแค้น แต่สำหรับบางคนมันกลับเป็นการลงทัณฑ์ของนรกให้ต้องเผชิญหน้ากับวิบากกรรมสารพัดรูปแบบ เมื่อการ
    เดินทางของกาลเวลาพาให้ชีวิตผ่านพ้นไปกว่าครึ่งค่อนคนอย่างยายกลอย การทำใจยอมรับและมองสิ่งที่ได้รับอย่าง
    เข้าใจดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ยายกลอยเป็นคนอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก พื้นที่ที่ห่างจากเมืองหลวงไม่ไกล
    สำหรับการเดินทาง แต่กลับดูราวถูกแบ่งแยกเป็นหลายร้อยโยชน์สำหรับชีวิตคนอย่างยายกลอย

    แม้ความยากจนข้นแค้นจะเป็นสมบัติที่ติดตัวยายกลอยมาแต่กำเนิด ก็ใช่ว่าจะมีแต่แกคนเดียวซะเมื่อไหร่ที่ยากจน
    โดยสัญชาติ ผู้คนในประเทศนี้กว่า 70 เปอร์เซนต์ก็ไม่ได้มีฐานะดีไปกว่าแกสักเท่าไหร่หรอก อย่างน้อยที่สุดชีวิต
    ของยายกลอยก็ดูจะมีปัจจัยพื้นฐานของการเป็นเกษตรกรที่ดีอย่างยิ่งก็คือแกมีที่ดินเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปเช่าที่
    ทำนาเหมือนหลาย ๆ คนในอำเภอ สามีของยายกลอยเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เป็นการตายที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง
    ของคนทำนาคือ งูเห่ากัดตาย แม้จะเคียดแค้นงูเห่าตัวนั้นเสียเต็มประดาจนแกอยากจะออกไปล่ามันมาสับให้ป่น
    ผัดพริกไทยอ่อนกินเสียให้หายแค้น แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปช่วงหนึ่งยายกลอยก็มองสิ่งที่ผ่านมาอย่างเข้าใจ ทำนา
    ก็ต้องปล่อยน้ำเข้าที่นา น้ำมาปลาช่อนก็มาตามน้ำ ปลาช่อนมางูเห่าก็ตามมากินปลาช่อนอีกที สามีแกดันไปเหยียบ
    มันเอง มันดูจะเป็นแนวความคิดแบบตรรกในระบบโดมิโน่เหมือนกับนิทานโบราณที่แม่ของยายกลอยเคยเล่าให้ฟัง
    ก่อนนอนเมื่อตอนแกยังเยาว์วัย

    “ ยายกับตา ปลูกถั่วปลูกงา ให้หลานเฝ้า
    หลานไม่เฝ้า อีกามากินถั่ว กินงา ของตากับยาย
    ยายมา ยายด่า
    ตามา ตาตี

    หลานร้องไห้ ไปหานายพราน ให้ไปยิงอีกา
    ที่มากินถั่วกินงา ของตากับยาย ... “

    ไอ้ท่อนที่เหลือยายกลอยก็จำไม่ค่อยได้แล้วแหละ แต่ที่พอจะนึกได้ก็คือมีสารพัดสัตว์เข้ามาเกี่ยวข้องกับนิทานเรื่องนี้
    จากไอ้นี่ก็ไปไอ้โน่น วนเวียนกันไปอยู่นั่นแหละ รู้สึกตอนหลัง ๆ หนูจะไปแทะสายธนูของนายพรานหรืออะไรสักอย่าง
    มูลเหตุที่แกจำไม่ได้นอกจากเรื่องมันจะนมนานมาแล้วก็เพราะแกมักจะหลับไปคาตักแม่ของแกเสมอก่อนที่จะได้ฟัง
    ตอนจบของนิทาน

    สิ่งที่ยังคงหลงเหลือหลังการจากไปของสามียายกลอย คือลูกสาวคนเดียวของแก ความจำเป็นของการต้องมีชีวิตอยู่
    ต่อไปผลักดันให้ยายกลอยต้องยืนหยัดต่อสู้ เมื่อรายได้จากการทำนาไม่เพียงพอยายกลอยก็ต้องหันมาค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ
    ประกอบกันไปด้วย จวบจนลูกสาวของแกเรียนชั้นมัธยมและผจญความยากเข็ญเป็นกิจวัตร ประกอบกับเสียงลือเสียงเล่าอ้าง
    ถึงความเฟื่องฟูของสารพัดโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมย่านนวนครซึ่งห่างจากอำเภอบ้านนาไม่ไกล ไม่นานหลังจากนั้น
    ยายกลอยก็เดินทางกลับจากการไปขายของที่ตลาดมาพบกับความว่างเปล่าของบ้าน และจดหมายสั้น ๆ ที่กรีดใจคนเป็นแม่
    อย่างยายกลอยจนแหว่งวิ่นว่าหนูจะไปหางานทำ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง !

    จากคุณ : จ่าสิบเอกโจ - [ 3 เม.ย. 51 09:56:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom