Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    คู่แท้-คู่พราก

    ฉันชื่อรุ้ง เคยมีความรักครั้งแรกตอนฉันเรียนม.ต้น แฟนคนแรก เป็นคนที่ฉันรู้สึกว่า

    ฉันจะคบกับเขาได้ และเราก็สนิทกัน จนกลายมาเป็นความผูกพัน และตกลงคบกันใน

    ที่สุด

    “รุ้ง หนึ่งชอบรุ้งมาก แต่หนึ่งรู้ว่าเรายังเด็ก เราคบกันแบบเพื่อน แล้วพอเราโตขึ้น เรา

    ค่อยเป็นแฟนกันนะ”






    ฉันไม่รู้หรอกว่าความรักคืออะไร แต่อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีอีกคนที่อยู่ใกล้ ๆ เรา มันทำให้มี

    ความสุข และแม้ว่าเราจะเป็นเด็ก แต่การมีเพื่อนที่ดีที่สุดมันทำให้เรามีกำลังใจจะก้าวเดิน

    ต่อไปได้ ต่อไปถ้าเราโตขึ้นนเราคงจะได้เป็นแฟนกันจริงๆ


    .

    .

    .





    ผ่านไป 3 ปี


    เราทั้ง 2 คนเรียนจบม.ต้น หนึ่งต้องไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในตัวอำเภอ ส่วนฉัน

    ต้องเรียนต่อที่เดิม เพราะพ่อกับแม่ไม่อยากให้ฉันไปไกล ไม่นาน ฉันก็เกือบจะหลงลืม

    หนึ่ง เพราะด้วยความที่ฉันเรียนหนักและแทบจะไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องที่ผ่านมามากนัก

    เวลาผ่านไป หนึ่ง ค่อยๆจงไปจากความทรงจำ แต่หนึ่งก็ยังคงอยู่ตรงนี้




    3ปีหลังจากนั้น

    ฉันเอนท์ติดในมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน


    ฉันพยายามศึกษาเล่าเรียน จนเรียนจบในคณะที่พ่อแม่ เห็นว่ามีหน้ามีตา ฉันเรียนจบ

    นิติศาสตร์




    เพื่อนมาชวนไปทำงานในเมืองหลวง ในตอนนั้น ฉันก็อยากหาประสบการณ์ให้ตัวเอง

    จึงตกลงตามเพื่อคนนั้นมาทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งรายได้ค่อนข้างดี และพ่อ

    แม่เห็นว่าฉันโตพอที่จะดูแลตัวองได้

    ก่อนมาพ่อและแม่กำชับว่า ถ้าฉันเบื่อเมืองหลวงเมื่อไหร่ให้กลับมาบ้านเรานะ

    “จ้ะ ให้ฉันหาประสบการณ์ และเมื่อฉันได้เรียนรู้แล้วฉันจะกลับมาดูแลพ่อแม่ เหมือน

    อย่างที่พ่อแม่ดูแลฉันดีมาตลอด”

    พ่อในวันนี้ ค่อนข้างจะเข้าใจในชีวิตฉันมากขึ้น

    “ลูกโทรมาหาพ่อบ่อยๆนะ พ่ออยากรู้ข่าวคราวของลูก มีปัญหาอะไรก็โทรมาอย่าเก็บไว้

    ใช้เงินไม่พอก็โทรมา”

    แม่ที่มักจะดูและฉันเป็นพิเศษเสมอๆ แต่วันนี้ แม่ภูมิใจที่ฉันโตขึ้นและเรียนจบ

    “กลับมาบ้านเรานะลูก โดนใครทำให้เสียใจก็กลับมา แม่ยังอยู่ที่นี่อยู่ตรงนี้ บ้านเรายังมีที่

    ๆ อบอุ่นเสมอ”

    ฉันยิ้มอย่างโล่งอกที่พ่อกับแม่ไม่เป็นห่วงฉันมาก



    ***********************************************************************




    2 ปีที่ฉันทำงาน ที่บริษัทแห่งนี้

    ฉันเจอกับเพื่อนเก่า โดยไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้

    “รุ้ง รุ้งทำงานที่นี่เหรอ เรามาทำสัญญาส่งสินค้ากับบริษัทเรา ดีใจจังที่ได้เจอรุ้ง เราไม่ได้

    เจอกันหลายปีแล้วนะ รุ้งดูดีมากเลย มีราศีขึ้นตั้งเยอะ เมื่อก่อนรุ่งยังเป็นเด็กเรียนใส่แว่น

    หนาเตอะอยู่เลย เรายังจำได้”

    ฉันได้แต่ยิ้ม ปนเขินเล็กๆ ก็เพราะว่าแอนพูดตรง และจริงทุกอย่าง ฉันขยันเรียนมากจน

    บางครั้ง ฉันก็ลืมสนใจเรื่องใกล้ ๆ ตัว แต่ตอนนี้เมื่อได้ทำงานแล้วฉันก็พยายาม

    ปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อภาพลักษณ์ที่ดี ในการติดต่อลูกค้าและเป็นนโยบายของบริษัทที่ฉัน

    ควรจะดูดีอยู่เสมอ

    “ดีใจที่ได้เจอแอนนะ ไปทานข้าวกับรุ้งมั้ยล่ะ พรุ่งนี้รุ้งว่าง หลัง 6 โมงเย็นไปแล้วนะ

    แล้วจะได้คุยกันมากขึ้นไง แอนว่าไงล่ะ แต่ถ้าแอนไม่ว่าง รุ้งก็ว่างอีกทีสัปดาห์หน้า วัน

    จันทร์ หลังจากนี้ก็ไม่ว่างอีกเลย เพราะว่างานเยอะมาก เดือนหน้าจะต้องบินไปสิงคโปร์

    บริษัทกำลังจะเปิดบริษัทลูก ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์เข้ามาใหม่ ๆ และรุ้งไม่แน่ใจว่า หลังจาก

    เดือนหน้า รุ้งจะมีงานต่อเนื่องแบบนี้หรืเปล่า เพราะบางครั้งรุ้งก็คาดคะเนไม่ได้ แล้วรุ่งก็

    ไม่ได้กลับบ้านมานาน เพราะรุ้งทำงานหนักมาก รุ้งดีใจนะ ที่รุ้งได้เจอแอนวันนี้”

    แอนยิ้ม และตอบตกลงที่จะทานข้าวกับฉันในวันพรุ่งนี้


    .


    .


    .
    .




    ความทรงจำเกี่ยวกับตัวแอนผุดขึ้นมาในสมอง แอนเป็นผู้หญิงที่น่ารักผิวขาว ผมสั้น

    อวบนิดๆ ปัจจุบันนี้ รูปร่างหน้าตาเธอก็ยังเหมือนเดิม แอนเป็นคนเรียนกลางๆ แต่ก็เอา

    ตัวรอดได้เสมอ เรามักจะได้นั่งสอบข้างๆกัน ฉันจำได้ เรามักจะลอกข้อสอบกันบ่อยๆ

    แต่เป็นเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษนะ เพราะแอนมักจะไม่เก่ง แต่วิชาอื่น แอนจะเก่งมาก เรา

    สนิทกัน และคุยกันถูกคอเสมอๆ เคยทำงานกลุ่มร่วมกันบ่อย ๆ



    ตั้งแต่จบมา ฉันก็ไม่ได้ติดต่อแอนอีกเลย เพราะแอนไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ คิดถึงเรื่อง

    เก่าๆ หัวใจก็ล่อยงลอยไป ย้อนกลับไป ตอนที่เคยคบกับหนึ่ง ตอนนี้หนึ่งจะเป็นยังไง

    บ้าง


    ถ้าเราบังเอิญได้เจอกันเหมือนที่ฉันเจอกับแอนก็คงจะดี ไม่ว่าหนึ่งจะแต่งงานแล้วหรือยัง

    ถ้าได้รู้ข่าวคราวบ้าง มันก็คงดีต่อความรู้สึกของฉันไม่น้อย ในเวลานี้




    ***********************************************************************





    1 ทุ่ม ที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง

    ร้านนี้ฉันคุ้นเคยมาก เพราะมักจะมาทานข้าวกับลูกค้าบ่อยๆ ฉันเดินมานั่งตรงโต๊ะที่จอง

    ไว้ มุมนี้ สวยดี มองออกไป เห็นบรรยากาศตอนค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร เป็นภาพที่

    สบายตา ฉันนั่งมองออกไปข้างนอกกระจก ฉันชอบวิวตอนนี้มาก เป็นบรรยากาศผ่อน

    คลายที่ฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาหลายปีแล้ว ไม่นานนัก เสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น




    “รุ้ง มาเร็วจัง แอนมาแล้วจ้า”

    ฉันหันมามองแอน และใครคนหนึ่งที่ยืนข้างๆแอน

    “เอ่อ..... . แฟนแอนเหรอ”

    ฉันพูดไม่ออกเมื่อคนตรงหน้าคือหนึ่ง

    “ใช่จ้า นี่แฟนแอนเอง ชื่อหนึ่ง “

    แอนแนะนำแฟนของแอนให้ฉันรู้จัก หนึ่งยิ้ม แต่สำหรับฉันมันเหมือนใครหยุดเวลาไว้

    ตรงนั้น และฉันก็ค้างกับภาพที่เห็นตรงหน้า อยู่นานมาก แอนนั่งลงตรงหน้าฉัน

    ส่วนหนึ่งก็นั่งเยื้องกับฉัน ฉันดีใจ แต่สีหน้าฉันตอนนี้ คงไม่ได้แสดงออกว่าดีใจ

    “รุ้ง เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้”

    ฉันพยายามทำตัวให้เป็นปรกติที่สุด และไม่พยายามสบตาหนึ่งเลย

    “เปล่าจ้ะ แล้วรู้จักกันนานแล้วเหรอ”

    แอนยิ้ม ไม่ตอบ แต่ใครอีกคนที่นั่งข้างๆแอน กลับตอบขึ้นมาแทน

    “ปีกว่า ๆ แล้วครับ แอนบอกว่าคุณทำงานเก่ง ผมดีใจที่ได้รู้จักกับคุณนะครับ”






    ค่ำคืนนั้น เราทั้ง 3 คน คุยกันเรื่องทั่วไปแต่ฉันมักจะแอบมองสายตาเขาเสมอทั้งๆที่

    พยายามห้ามตัวเองแล้วว่าให้นิ่งที่สุดท่าที่จะทำได้ แต่ตามันมักจะเหลือบไปมองเขาเสมอ

    จนเขาก็อาจจะรู้ในความหมาย ที่ฉันกำลังเป็น

    .

    .





    .


    .


    วันนี้ฉันได้รู้ข่าวดีอีกอย่าง ว่าแอนกำลังจะแต่งงานกับหนึ่ง ฉันดีใจแทนเพื่อน แต่ลึกๆ

    แล้ว ก็เป็นความรู้สึกที่ จี๊ด ๆ อยู่นิด ๆ เราลากลับกันด้วยความรู้สึกดี ๆ และฉัน

    รับปากว่าจะมางานแต่งงานของทั้ง 2 คน








    หลังจากเหตการณ์นี้ผ่านไป ฉันมีโอกาสได้เจอกับหนึ่งอีกครั้ง ในวันหยุดสุดท้ายที่ฉันมี

    ก่อนที่ฉันจะไปต่างประเทศ หนึ่งโทรมาหา และบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยด้วย ฉันตอบตก

    ลง เพราะลึก ๆ แล้ว ฉันอยากคุยกับเขา

    ฉันนัดเจอหนึ่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก หนึ่งนั่งรอฉันอยู่ที่

    โต๊ะอาหาร วันนี้หนึ่งดูดีมาก ใส่เสื่อแขนยาวสีฟ้า ผูกเนคไทต์ ตัดผมใหม่ หน้าตา

    สดใส แต่งตัวในชุดทำงานออฟฟิศของเขา แว้บแรกที่เห็น ฉันยิ้มมุมปาก และรู้สึกดีที่ได้

    เจออีกครั้ง เวลานี้ อาจจะเป็นเวลาแห่งการร่ำลา ความรู้สึกเก่าๆ เพื่อเผชิญหน้ากับความ

    เป็นจริง ฉันเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับยิ้มให้เขา 1 ครั้ง



    “รุ้งเปลี่ยนไปมากเลยนะ สวยขึ้น เราไม่กล้าชมรุ้งต่อหน้าแอน กลัวเอนเค้าจะหึง แต่เรา

    อยากจะบอกว่า เรายังรักและเป็นห่วงรุ้งเสมอ ถึงแม้ว่าในตอนนี้ เราไม่ได้เป็นเหมือนเดิม

    แล้ว”


    หญิงสาว อายุ 24 ผ่านการคบใครเพียงแค่คนเดียวอย่างฉันในตอนนี้ ก็รู้สึกเขินกันคำพูด

    นี้ของหนึ่ง มือเรียวบางของฉัน เอื้อมไปจับมือหนึ่ง บีบเบา ๆ มองหน้าหนึ่ง




    “เรายังเก็บหนึ่งไว้ในใจเสมอ แต่เราเข้าใจหนึ่ง เรายังเป็นเพื่อนกันได้ แล้วเรารู้ว่าหนึ่งก็

    ไม่ผิด ต่อไปเราคงได้เจอใครอีกหลายๆคน หนึ่งไม่ต้องกังวลนะ เรื่องระหว่างเราเป็นแค่

    ความหลัง เป็นความรู้สึกดี ๆ ที่เก็บไว้ในใจ หนึ่งยังเป็นหนึ่งคนเดิม ที่เราเคยจำได้ หนึ่ง

    ไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่วันนี้กับวันนั้นมันไม่เหมือนกันต่างหาก”




    หนึ่งมองหน้าฉัน นิ่งไปพักใหญ่ แล้วพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียง ราบเรียบ

    “หนึ่งขอบใจที่รุ้งเข้าใจหนึ่ง ขอบใจ ที่ไม่ทำให้หนึ่งรู้สึกว่า หนึ่งผิด ทั้ง ๆ ที่หนึ่งไม่ได้

    รักษาสัญญาระหว่างเรา หนึ่งไม่อยากให้รุ้งคิดมาก แต่ยิ่งพูดเหมือนหนึ่งจะเห็นแก่ตัว”

    ฉันยิ้มออกมาด้วยความจริงใจ

    “หนึ่งฟังรุ้งนะ เวลาเปลี่ยน บางอย่างก็ทำให้เราเปลี่ยน แค่หัวใจเรายังไม่เปลี่ยน ก็

    เพียงพอแล้ว รุ้งสัญญาว่า งานแต่งงานหนึ่ง รุ้งจะแต่งตัวสวยๆ แต่คงไม่สวยเท่าเจ้าสาว

    ของหนึ่ง แต่รุ้งอยากให้หนึ่งรู้ว่า รุ้งดีใจด้วยจริงๆ”










    3 เดือนต่อมา


    การ์ดเชิญรุปตุ๊กตาผู้หญิง ตุ๊กตาผู้ชายใบสีขาว ถูกส่งมาให้ฉันที่ทำงาน ฉันตื้นตันใจ

    ถึงแม้ว่า เราจะ ไม่ได้รักกัน ไม่ได้ลงเอยด้วยกัน แต่อย่างน้อยๆ ฉันก็รู้ว่า เขาอยู่ที่ไหน

    กำลังทำอะไรอยู่ น้ำตาไหลออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ แต่มันคือน้ำตาแห่งความยินดี จากใจ

    ของผู้หญิงคนนี้




    ปัจจุบันนี้เราทั้ง 3 คน ไปมาหาสู่อย่างเสมอๆ แอนกำลังตั้งท้อง และฉัน กำลังจะ

    แต่งงานกับลูกครึ่งสิงคโปร์-ไทย ที่เรารู้จักกัน ตอนฉันไปดูงานที่สิงคโปร์


    .


    .






    .

    .
    .


    หลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็ต้องพาตัวฉันและครอบครัว ไปอยู่ต่างประเทศพร้อมกับสามีของ

    ฉัน ความทรงจำยังอยู่ แม้ว่า ความเป็นจริงไม่สามารถ ที่จะเจอกันได้


    และเราจะเก็บมันไว้ จะไม่มีวันที่เรื่องที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตจะหายไปกับกาลเวลา ไม่ว่า

    จะอีกกี่สิบปี ทุกครั้งที่ได้นึกถึงเรื่องนี้ คงทำให้ฉันนั่งยิ้มได้นาน ๆ ตอนนี้ พวกเค้ากับ

    ลูกจะเป็นยังไงบ้างนะ...

     
     

    จากคุณ : Fluoxtine - [ 5 เม.ย. 51 23:13:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom