ตอนที่ 4
นภาเริ่มศึกษาเรื่อง การจัดการเรียนการสอนเองที่บ้าน หรือที่เขาเรียกกันคือ โฮมสคูล แต่น่าเสียดายที่ช่วงเวลานั้น ระบบโฮมสคูลไม่เป็นที่ยอมรับในประเทศไทย ดังนั้นนภาจึงได้ข้อมูลน้อยมาก ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นข่าวที่ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หัวสี เรื่องคุณหมอที่ไม่ยอมส่งลูกเข้าโรงเรียน จนเป็นที่ร่ำลือว่าคุณหมอเพี้ยนบ้างละ คุณหมอใจร้าย
สุดท้ายหนังสือพิมพ์มาสัมภาษณ์จึงพบว่า คุณหมอไม่ชอบระบบการเรียนในประเทศไทย จึงทำการสอนเอง และให้ลูกสอบเทียบหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน เพื่อจบระดับชั้น
และนอกจากนั้นก็ไม่มีข่าวอื่น นอกจากมีการบ่นพัมเรื่องการเรียนการสอน การกวดวิชา แต่ไม่มีใครทำอะไร นอกจากเล่นตามเกม
นภาจึงค้นหาหลักสูตรการเรียนโฮมสคูลของอเมริกา ดูตัวอย่างหลักสูตรและนำมาปรับใช้กับลูกของเธอ
เมื่อตัดสินใจว่าจะสอนลูกเอง ดังนั้นนภาจึงตัดสินใจจ้างผู้จัดการร้านเพื่อทำงานแทนเธอ นภาคัดเลือกคนที่เธอเชื่อว่า เขาจะทำหน้าที่ได้ดีกว่าเธอในแง่ของการเป็นมืออาชีพ
มองคนผิดไปคน ทำลายทุกอย่างได้เสมอ
ผู้จัดการที่นภาเลือกมา เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี กิริยาสุภาพ มีการศึกษา และที่สำคัญ นภารู้สึกประทับใจกับการวิจารณ์ร้านตรงไปตรงมาและแนวทางปรับปรุงร้าน
หลังจากทดลองงานประมาณ 3 เดือน นภาจึงวางใจปล่อยกิจการให้อยู่ในความดูแลของวิชัย ผู้จัดการร้านของเธอ โดยนภาจะหาโอกาสไปดูร้านเมื่อว่างจากการสอนลูก โดยพยายามไม่ก้าวก่าย ในใจเธอคิดว่า การผูกมัดใจลูกน้องคือ การให้สิทธิการตัดสินใจ และการให้เกียรติกัน
เมื่อวางใจในธุรกิจ นภาจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อน้องซัน สิ่งแรกที่เธอสอนคือ หัดเขียนชื่อและนามสกุลตัวเองได้ เพราะประดยคหนึ่งที่ติดในใจเธอคือ จะเรียนมัธยมได้ยังไง ชื่อยังเขียนไม่ถูก ตอนนั้นน้องซันมีชื่อจริงที่ยาวและมีการันต์ นภาจึงไปเปลี่ยนชื่อลูกให้สั้นลง ส่วนนามสกุลลูกยังใช้ของอดีตสามี
"ชื่อนี้เพราะและสั้น ซันจะเขียนได้ง่าย"
นภาอธิบายให้ลูกฟัง และดูน้องซันจะชอบอกชอบใจชื่อใหม่ที่สั้นและเขียนง่าย
"แม่ครับ ซันเขียนได้ถูกหมดแล้ว" เด็กชายวัย 11 ยื่นสมุดที่มีชื่อและนามสกุลตัวเล็กนิดเดียว ให้เธอดู สีหน้าแห่งความมั่นใจของลูกทำให้เธอตื้นตัน นั่นนะสิ นภาจะต้องการให้ลูกเก่งเท่าคนอื่นได้อย่างไร ทุกคนเกิดมาล้วนมีบางสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วทั้งสิ้น
"เก่งมากเลย ทีนี้น้องซันต้องหัดเขียนที่อยู่บ้านเรา " เธอลูบแก้มอิ่มแดงอย่างเด็กสุขภาพดีอย่างอดไม่ได้ น้องซันเป็นเด็กหน้าตาดี ผิวพรรณขาวอมชมพู ปากแดงเป็นรูปกระจับ ดวงตากลมใส ใครเลยจะคิดว่า เด็กคนนี้จะเขียนหนังสือไม่ได้
โรงเรียนที่บ้านจะเริ่มตอน 9.00 ในช่วงเช้า เด็กชายมีหน้าที่จะต้องจัดห้องเรียนให้เรียบร้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ นภาสอนลูกเป็นภาษาอังกฤษตลอดเวลาที่พูดกับเขา แม้แรกๆน้องซันจะงอแงขอตอบภาษาไทย แต่นภายังยืนยันว่า ต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ชั่วโมงแรกที่เรียนคือ เรื่องเกี่ยวกับตัวเอง ชื่อนามสกุล ที่อยู่ ทั้งภาษาไทย อังกฤษ (เธอใช้เวลากว่า 1 เดือน เพื่อให้ลูกเขียนชื่อนามสกุลได้) วันเดือนปีเกิดของตัวเอง
จากนั้นจะเรียนเรื่องในชีวิตประจำวัน อีก 1 ชั่วโมง เธอสอนลูกให้จำวันต่างๆทั้งเจ็ดวันและฝึกเขียน เรื่องนี้ยากเย็นนัก เพราะซันไม่เคยนับวันได้ถูก
ตอน 11 นาฬิกา นภาสอนลูกทำอาหาร เธอสอนวิธีทำอาหาร หุงข้าวและเรียนรู้พืชผักต่างๆ ชื่อและประโยชน์ของมัน จากนั้นสองแม่ลูกจะมาชื่นชมกับอาหารที่ช่วยกันทำ
ในช่วงบ่าย โรงเรียนบ้านจะเริ่มเรียนตอนบ่ายสอง โดยเธอจะจัดตารางสอนออกมาในแต่ละวันที่ลูกต้องเรียนรู้ เช่นถ้าเธอจะสอนประวัติศาสตร์ลูก เธอจะพาเขาไปพิพิธภัณฑ์ บางครั้งสองแม่ลูกจะไปอยุธยา แล้วแกล้งแสดงละครเป็นคนนั้นคนนี้ เพื่อให้ลูกจดจำประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นได้ ตำราที่ใช้นภาจะดูตามหนังสือเรียนของกระทรวงและหลักสูตรของโฮมสคูลที่อเมริกาว่า เด็กวัยนี้ควรรู้เรื่องอะไรบ้าง
จากคุณ :
สาริสา
- [
8 เม.ย. 51 20:15:03
A:124.122.133.157 X: TicketID:113562
]