ใจกลางกรุงเทพที่คลาคล่ำไปด้วยตึกอาคารที่ดูเหมือนว่าจะแข่งกันสูงขึ้นไปทุกทีและในจำนวนนั้นก็มีอาการหรูถึงแม้จะไม่สูงจนละฟ้าแต่ก็ดูสูงอยู่ไม่น้อยในสายตาของคนทั่วไป
เดี๋ยวพ่อต้องเข้าประชุมแพรวไปรอพ่อที่ห้องก่อนนะลูก คุณไพศาลหันมาสั่งลูกสาวทันทีที่ออกจากตัวลิฟต์ชั้นที่ 18 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของตัวอาคารและเป็นชั้นที่ถูกจัดให้มีเพียง 3 ห้องเท่านั้นคือ ห้องของประธานกรรมการ, ห้องรองประธาน และห้องประชุมที่ใช้สำหรับประชุมระดับผู้บริหารเพียงเท่านั้น
แพรวาหันมายิ้มรับคำสั่งพ่อบางๆ ก่อนจะเดินแยกไปคนล่ะทางเพื่อไปยังห้องทำงานของพ่อ ที่ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่วิ่งเล่นของเธอมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย และด้วยความเป็นเด็กร่าเริง อัธยาศัยดีจึงทำให้เธอเป็นที่รู้จักกันดีของทุกคนในบริษัท แม้ว่าระยะหลังเธอจะไมได้มาที่นี่เกือบปีแล้วก็ตาม
มือเรียวค่อย ๆ เปิดประตูกระจกบานใหญ่ช้าๆ พลางกวาดสายตาไปจนรอบห้องกว้าง ซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่เธอคุ้นเคยมาตังแต่เด็กเลย โต๊ะทำงานตัวใหญ่ตั้งเด่นอยู่กลางห้องหันหน้ามาทางประตู ด้านข้างของโต๊ะเต็มไปด้วยชั้นวางแฟ้มเอกสารต่างๆ มากมายที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ชุดรับแขกขนาดไม่ใหญ่นักสีดำตัดกับผนังสีครีมของห้องถูกจัดวางไว้ยังมุมหนึ่งของห้อง หญิงสาวเดินเข้าไปหยิบแฟ้มจากชั้นมา 2-3 แฟ้มก่อนที่จะยึดที่นั่งตรงโซฟารับแขกเป็นที่นั่งอ่านเพื่อเป็นการฆ่าเวลา
ร่างบางขยับตัวอีกครั้งเมื่ออ่านเอกสารในแฟ้มที่2จบ พลางละสายตาจากกองเอกสารเบื้องหน้า กวาดสายตามองรอบห้องกว้างอีกครั้งเพื่อพักสายตา หากสายตากลับไปหยุดที่รูปของชายหนุ่มคู่หนึ่ง เธอยังจำคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี เพราะเธอเองก็ได้รับฟังเรื่องราวและมักคุ้นกันเป็นอย่างดีกับบุรุษทั้งสองในรูปนี้มาตั้งแต่วัยเด็ก
เพื่อนสนิทที่เริ่มคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนทั้งช่วยกันเริ่มก่อตั้งบริษัทเล็กๆ จนเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน แน่นอนหนึ่งในรูปนั้นคือ คุณไพศาล ส่วนอีกคนคุณลุงศักดาหุ้นส่วนผู้ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกันกับคุณไพศาล หญิงสาวมองภาพเบื้องหน้าพร้อมยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
สวัสดีค่ะคุณลุง ต่อไปนี้แพรวจะเข้ามาช่วยงานพ่อ คุณลุงช่วยเป็นกำลังใจให้แพรวด้วยนะคะ แพรวฝากตัวด้วยนะคะคุณลุง หญิงสาวยิ้มให้กับภาพอีกครั้งเมื่อระลึกถึงความใจดีของเพื่อนสนิทพ่อ
เสียงหัวเราะเบาๆ จากทางประตูเรียกสายตากลมโตให้หันไปมองยังต้นเสียง ดวงตากลมโตคู่เบิกกว้างขึ้นทันทีที่เห็นอาคันตุกะผู้มาเยือน หากพอตั้งหลักได้ก็เปลี่ยนเป็นส่งตาดุๆ ไปให้ทันทีที่
พี่เพิ่งรู้นะว่าเราฝากเนื้อฝากตัวกับรูปก็ได้ เสียงทุ้มที่เหมือนกับจะพยายามกลั้นหัวเราะเอ่ยล้อเลียน
ตาคู่โตมองสำรวจคนตัวโตตรงหน้าอีกครั้ง แพผมและคิ้วเข้มหนาสีดำสนิท วางพาดเฉียงบนดวงตาสีนิล จมูกโด่งเป็นสันรับริมฝีปากบางหยักลึก ทำให้เจ้าของโครงหน้าแลดูคมเข้มตัดกับผิวขาวดูเด่นเป็นสง่า ที่ค่อนข้างจะคุ้นตา จะเป็นใครไปไม่ได้
พี่ธีร์ คนที่เพิ่งหาเสียงตัวเองเจอวิ่งเข้าไปหาคนที่ยืนอ้าแขนรอรับอยู่อย่างแสนจะคิดถึง
พี่ธีร์กลับมาเมื่อไหร่คะ ทำไมไม่บอกแพรว แล้วนี้จะกลับมาอยู่เลยหรือเปล่าคะหรือว่าจะกลับไปอีกคนตัวเล็กยิงคำถามเป็นชุดจนแถบจะลืมหายใจ
ถามเยอะจังแล้วพี่จะตอบคำถามเราหมดหรือนี่ คนตัวโตทำเสียงอ้อน แต่หากได้รับความเห็นใจจากเจ้าของคำถามไม่
ไม่รู้ล่ะพี่ธีร์ต้องตอบแพรวมาให้หมด ไม่งั้นก็ไม่ต้องมาพูดกลับแพรวเลย
ขอไม่ตอบ ไม่ได้เหรอ หน้าใสงอง้ำพร้อมกลับผละออกจากอกร่างหนาในทันทีจนชายหนุ่มต้องรีบคว้ามือเรียวเอาไว้
O.K.ครับพี่ยอมแพ้แพรวก็ได้ แต่ให้พี่นั่งก่อนได้ไหมขืนให้ยืนพูดอย่างนี้มีหวังเมื่อยกันพอดี มือเรียวหนาจูงมือเล็กกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม
ตอบแพรวได้หรือยังคะ คนอยากได้คำตอบเร่งเร่า
ใจร้อนจัง คนถูกถามแกล้งบ่นและก็ได้ค้อนวงเล็กจากคนถามตามมาสมใจ พี่กลับมาได้... เขาอ้ำอึ้งอย่างหาทางออก ถ้าบอกจะโดนว๊ากไหมนี่ แต่จากสายตาที่เหลือบไปมองคนข้างๆ ทำให้คิดตกว่าถึงไม่บอกก็โดนเหมือนกันนั้นล่ะ
ได้เกือบ 4 เดือนแล้วครับ
เกือบ 4 เดือน นั้นไงว่าแล้วเสียงแหลมมาเชียว พี่ธีร์กลับมานานขนาดนี้ทำไมไม่บอกแพรวสักคำเลยคะ หน้าสวยเริ่มฉายแววน้อยใจทำเอาคนตัวโตหน้าเสีย
หรือว่าพี่ธีร์ไม่ได้คิดถึงแพรวเลยคะ
ใครว่าล่ะเขาเองก็คิดถึงเธอแถบจะขาดใจ คิดถึงทุกลมหายใจเลยด้วยซ้ำ แต่เขาไม่กล้าพอที่จะกลับมาเผชิญกับความจริงที่มันอาจจะทำให้เขาเสียใจไปตลอดก็ได้ เขาจึงเลือกที่จะไม่เผชิญกับมัน ดังนั้นเขาการหนีจึงเป็นวิธีที่เขาคิดว่าดีที่สุดดีกว่าที่จะเผชิญหน้า แม้ว่าในใจจะเรียกร้องสักเพียงใด
ว่าไงคะพี่ธีร์ หรือว่าพี่ธีร์รำคาญแพรวกลัวว่าแพรวจะมากวน พี่ธีร์ถึงได้ไม่ยอมบอกแพรว ม่านน้ำตาที่เริ่มจะคลอหน่วยเปลี่ยนเป็นน้ำตาเม็ดโตที่ค่อยๆ ไหลอาบแก้มเนียน จนคนถูกต่อว่าไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกรีบดึงร่างบางมากอดไว้แนบอกอย่างปลอบประโลม
อย่าร้องนะครับคนดีพี่ขอโทษ พี่ไม่เคยรำคาญหรือกลัวว่าแพรวจะมากวนพี่เลยนะ แต่พี่เห็นว่าแพรวกำลังยุ่งกับฝึกงานเทอมสุดท้ายอยู่ แล้วพี่ก็เพิ่งเริ่มต้นทำงานด้วย เขารีบละล่ำละลักบอกหวังว่ามันจะช่วยให้คนในอ้อมกอดหายโกรธลงได้บ้าง
เห็นแพรวยุ่งหรือไม่อยากเจอแพรวกันแน่คะ ร่างบางแหงนหน้ามามองคนตัวโตด้วยความไม่แน่ใจ
ใครว่าพี่ไม่อยากเจอแพรวล่ะ เนี้ยะพอคุณลุงบอกว่าแพรวมาพี่ก็รีบมาหาแพรวก่อนเลยนะ
หลบแพรวไม่ได้แล้วต่างหากก็เลยรีบมาก่อนที่แพรวจะไปเจอเอง คนในอ้อมกอดต่อว่าอย่าวแสนงอน
ธีรวัฒน์ได้แต่ถอนหายใจพลางขยี้แพผมหนาเบาๆ แล้วเขาจะทำยังไงล่ะนี่ ดูท่าคงจะต้องอธิบายกันอีกนาน
ยังไม่ทันที่จะซักฟอกอะไรกันต่อ ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง เขาจำต้องปล่อยร่างบางออกจากวงแขนอย่างแสนเสียดาย
อ้าว ธีร์ลุงกำลังจะให้คนไปตามอยู่พอดีเลย คุณไพศาลเลือกที่จะร้องทักบุตรชายของเพื่อนและแกล้งที่จะมองไม่เห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองรู้สึกอย่างไรต่อกันและเขาก็ยินดีที่จะให้มันเป็นเช่นนั้น แต่ทางเขาก็เป็นผู้หญิงจะให้เปิดทางสะดวกมากมันก็คงจะดูไม่งามอยู่ไม่น้อย
ครับ คุณลุงมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ เขาขานรับอย่างนอบน้อมต่อผู้ที่เคารพเสมือนเป็นพ่ออีกคนหนึ่งหลังจากที่เขาสูญเสียพ่อไป
นิดหน่อย ลุงว่าจะให้เรามาช่วยปวดหัวรับมือกับเด็กดื้อแทนลุงสักหน่อย คุณไพศาลส่งยิ้มให้พลางปลายตามองร่างบางที่ยังคงนั่งนิ่งไม่กล้าขยับ
ไม่เป็นไรครับคุณลุงผมคิดว่าน่าจะรับมือไหว ชายหนุ่มตอบรับอย่างกระตือรือร้น
หญิงสาวคนเดียวในห้องกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันเมื่อรู้สึกว่าสิ่งที่ผู้ชายทั้งสองกำลังสนทนาอยู่นั้นจะพลาดพิงมาถึงตน
เดี๋ยวนะคะคุณพ่อ พี่ธีร์ แพรวรู้สึกว่ามันจะเข้าตัวแพรวยังไงไม่รู้
อ้าว ! เหรอพี่ถึงว่าทำไมคุณลุงถึงบอกว่าต้องช่วยกันปวดหัวที่แท้ก็เด็กดื้อแถวนี้เอง ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ เมื่อได้รับค้อนวงโตจากร่างบางรู้สึกว่า ตนเองจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
พ่อว่าแพรวไปดูงานกับพี่ธีร์ได้แล้วล่ะจะได้ไม่เสียเวลาพี่เค้า คุณไพศาลตัดบท
นั้นสิแพรวไปดูห้องกับพี่ดีกว่าพี่ให้คนจัดโต๊ะไว้ให้แล้ว
แพรวากวาดสายตามองรอบห้องสี่เหลี่ยมกว้างซึ่งการตกแต่งไม่ได้แตกต่างไปจากห้องทำงานคุณไพศาลผู้เป็นบิดานักจะต่างกันก็แค่ห้องนี้มีโต๊ะทำงานถึงสองตัว ตัวหนึ่งหันหน้าประชันกับประตูทางเข้า ส่วนอีกตัวหันข้างให้กับประตู ฝั่งตรงข้ามมีชุดรับแขกตั้งอยู่ แพรวาขมวดคิ้วเข้าหากัน พร้อมกับหันหน้าไปมองร่างสูง
ตัวนี้ของพี่ ธีรวัฒน์ผายมือไปยังโต๊ะตัวใหญ่ที่หันหน้ามาทางประตู
ส่วนตัวนี้ เขาผายมือมายังอีกตัวที่เหลือ ของแพรว
ทำไมต้องอยู่ห้องเดียวกันด้วยล่ะคะ
ห้องอื่นมีเจ้าของหมดแล้วครับ แล้วแพรวก็มากะทันหันด้วยก็เลยเตรียมห้องให้ไม่ทัน
ให้แพรวนั่งหน้าห้องพี่ธีร์ก็ได้นี่คะที่ยังพอมีว่าง ก็ตอนที่เดินมาหน้าห้องของเขามีเพียงโต๊ะเลขาเพียงตัวเดียว ยังพอมีที่ว่างอีกตั้งเยอะมันคงพอจะมีที่ พอที่จะเอาโต๊ะของเธอไปวางได้อีกสักตัวสิน่า
ชายหนุ่มสายหน้าช้าๆ เป็นการปฏิเสธ แพรวมาเป็นผู้ช่วยพี่นะครับ ไม่ได้มาเป็นหน้าห้องซะหน่อย จะได้ไปนั่งเฝ้าประตูให้พี่
ก็แพรวเกรงใจพี่ธีร์ เพื่อพี่ธีร์ต้องรับแขก แพรวาบอกเสียงอ่อย
ก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่ แขกพี่ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกที่ต้องติดต่อเรื่องงานทั้งนั้น แพรวจะได้อยู่คุยด้วยไง น่าถือว่าเป็นการศึกษางานไปด้วย เขาหว่านล้อม หญิงสาวจึงทำได้เพียงพยักหน้าเพราะไม่รุ้จะหาเหตุอะไรมาถียง ( แถมเถียงไปก็ไม่ชนะอยู่ดี )
พี่ว่าตอนนี้ แพรวศึกษางานไปก่อนดีกว่าไหม คิ้วเข้มยกขึ้นสูงเป็นเชิงถาม
ดีค่ะ พี่ธีร์จะให้แพรวเริ่มจากอะไรดีคะ แพรวาส่งยิ้มใสไปให้ ในที่สุดก็ได้ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้สักที่
เดี๋ยวแพรวเอาสัญญาที่เราทำกับลูกค้ามาลองอ่านดูก่อนแล้วกันนะครับ เอาย้อนหลังสัก 5-6 ปีก็พอ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ได้เลย เขาว่าพลางเดินไปค้นหาแฟ้มจากชั้นหลังโต๊ะทำงาน
ครับผม หญิงสาวตะเบะรับคำสั่งอย่างแข็งขัน เรียกรอยยิ้มจากคนตัวโต
จากคุณ :
ไดนิ
- [
9 เม.ย. 51 13:40:01
]