ความคิดเห็นที่ 1
บทที่ 20
ไม้ขีดไฟที่เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวของวิไลวรรณเหลือเพียงแค่สี่ก้านสุดท้ายเท่านั้น สถานการณ์ที่เมื่อครู่จะดูได้เปรียบถึงขนาดที่เด็กสาวคิดเลยเถิดไปว่าจะสามารถใช้ไม้ขีดไฟในกล่องเพื่อป้องกันตัวได้ตลอดทั้งคืนนั้น โครงการดังกล่าวเป็นอันต้องพับเก็บไป ทั้งนี้เพราะแค่สี่ก้านจะเอาตัวรอดออกจากห้องครัวได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย
ไฟที่หัวของไม้ขีดหรี่ลงเต็มทีเนื่องจากฟอสฟอรัสนั้นหมดเชื้อไปนานแล้ว เหลือเพียงเปลวเล็กๆที่ติดอยู่กับก้านไม้ซึ่งบัดนี้อ่อนแสงและลามลงใกล้มือของคนถือ
ปิศาจญี่ปุ่นในชุดขาวยิ้มแสยะ ดูเหมือนมันจะรู้สถานการณ์ในตอนนี้ดี มันเริ่มสืบเท้าเข้าใกล้เหยื่ออีกครั้งเนื่องจากเปลวไฟจวนเจียนจะดับเต็มทน
วิไลวรรณตัดสินใจหยิบไม้ขีดอีกก้านขึ้นมาจุดทันที นั่นเป็นหนทางเดียวที่คิดได้ในตอนนี้และนั่นทำให้ไม้ขีดในกล่องเหลืออีกเพียงสามก้าน
แคร่ก ! ไม้ขีดที่เด็กสาวจุดชนวนหักกระเด็นไปไกล ด้วยเพราะอารามตื่นเต้นทำให้เด็กสาวใช้แรงขีดมากเกินไป
ผีร้ายปรี่เข้ามาทันทีเมื่อไม้ขีดก้านแรกดับลงสนิท พรึ่บ ! ฟู่ !
ไม้ขีดก้านใหม่ถูกจุดขึ้น เกือบจะช้าไปเพียงเสี้ยวของวินาที ปิศาจสีขาวขยับถอยห่างออก แต่กระนั้นมันยังคงจ้องมองเหยื่ออย่างไม่ลดละด้วยเพราะรู้ว่าเขี้ยวเล็บสุดท้ายของเหยื่อกำลังจะหมดสิ้น
ไม้ขีดที่เหลือ ... เหลืออีกเพียงสองก้านสุดท้าย !
วิไลวรรณค่อยๆเดินวนออกจากมุมอับของครัว พร้อมกับใช้มือยื่นไม้ขีดออกไปให้ห่างตัวมากที่สุด ส่วนปิศาจผู้เป็นทาสกระจกแห่งมารค่อยๆเดินวนคุมเชิงอยู่ห่างๆ หากแม้นว่าเปลวไฟดับลงเมื่อไร คมเขี้ยวของมันก็พร้อมที่จะพุ่งขย้ำจุดตายของเหยื่อเมื่อนั้น
อดีตนักกรีฑาเดินวนจนถึงประตูห้องครัว พร้อมๆกับเปลวแสงที่เบาบางจวนเจียนจะดับ รันนึกในใจว่าอยากจะได้เทียนไขมาจุดแต่ก็นึกไม่ออกว่าเทียนนั้นเก็บไว้ตรงส่วนใดของบ้าน
สาวน้อยผู้มีชะตากรรมอันโหดร้ายหยิบไม้ขีดขึ้นมาอีกก้าน และนั่นทำให้ในกลักเหลือไม้ขีดอีกเพียงก้านเดียว เด็กสาวจุดไฟขึ้นด้วยความระมัดระวัง เมื่อจุดแล้วจึงนำไปวางไว้ตรงพื้นหน้าประตูห้องครัว ส่วนตัวของเธอรีบเปิดประตูหนีออกมา และเมื่อออกมาจากครัวได้เด็กสาวก็รีบปิดประตูทิ้งให้ปิศาจร้ายอยู่เพียงลำพัง เปลวของไม้ขีดคงช่วยถ่วงเวลาไม่ให้มันเข้าใกล้ประตูได้แค่ไม่กี่วินาที
คิดได้ดังนั้นสาวน้อยชื่อรันจึงรีบวิ่งด้วยความเร็วเท่าที่จะสามารถจะทำได้ ทั้งนี้เพื่อหนีออกห่างจากวิญญาณร้ายให้ไกลที่สุด เธอวิ่งเข้ามาในส่วนของห้องโถงอีกครั้ง
ปัง ! เสียงประตูห้องครัวถูกเปิดกระชาก คุณหนูรันนนนนน หนีปายหนายยยยยยยย ตามด้วยเสียงเรียกยานคางจากผีนรก วิไลวรรณพึ่งจะรู้เดี๋ยวนี้ว่าปิศาจร้ายสามารถพูดได้ หนำซ้ำยังแปลกใจที่มันรู้จักชื่อเธออีกด้วย ?
ปิศาจญี่ปุ่นออกมาจากครัวได้แล้ว !?
วิไลวรรณไม่มีเวลาคิดสงสัยต่อ เธอรีบหนีเข้าไปในส่วนของห้องรับแขกที่อยู่ติดกัน คราวนี้เด็กสาวไม่ลืมที่จะลงกลอนประตู และนอกจากปิดล็อกแล้ว คราวนี้เธอยังลากเอาโซฟาและโต๊ะรับแขกเข้ามาขวางไว้ที่บานประตูอีกชั้นหนึ่ง
เสร็จสรรพจึงรีบเหลียวมองรอบๆเพื่อหาทางหนีทีไล่ โอ.เค.ยังมีประตูหน้าบ้านที่สามารถหนีออกไปข้างนอกได้หากว่าผีร้ายสามารถบุกพังประตูเข้ามา วิไลวรรณเข้าไปตรวจดูประตูหน้าที่เตรียมไว้สำหรับเป็นทางหนีว่าล็อกแล้วหรือยัง ส่วนหน้าต่างแม้จะเปิดอยู่แต่ก็มีเหล็กดัดและมุ้งลวดซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร
แกร๊กๆๆ !! ลูกบิดประตูห้องรับแขกถูกหมุนจากอีกฝั่งของบานประตู ไม่ใช่ใครอื่นแน่นอกเสียจากอมนุษย์ที่พยายามตามมาเอาชีวิตของเธอตามคำสั่งของกระจกปิศาจผู้เป็นนายของมัน
แกร๊กๆๆ ลูกบิดทำหน้าที่ปิดกั้นได้อย่างดี ปิศาจร้ายไม่อาจผ่านเข้ามาได้ เด็กสาวคิดว่าตัวเองอาจจะปลอดภัยด้วยสักพักลูกบิดก็หยุดขยับราวกับปิศาจร้ายที่อยู่อีกฝั่งของประตูได้ถอดใจเสียแล้ว
ทว่าโสตสัมผัสของรันได้ยินเสียงงึมงำอะไรบางอย่างแว่วมา ... เป็นภาษาแปลกๆที่เด็กสาวไม่เคยได้ยินมาก่อน
พลัน ! ผึง !
ปุ่มลูกบิดเด้งออกมาเอง บัดนี้ประตูไม่ได้อยู่ในสภาพล็อกเสียแล้ว มันเปิดล็อกได้ ?? รันหน้าซีด ใจสั่นเหมือนจะเป็นลม
กึงๆ ... กึงๆ ... บานประตูที่ถูกปลดล็อกพยายามจะเปิดเข้ามา ติดแต่บรรดาเฟอร์นิเจอร์ที่เด็กสาวนำไปขวางไว้ วิไลวรรณผวาเข้าไปเอามือจับลูกบิดและทุ่มน้ำหนักทั้งหมดเข้าไปดันประตูไว้อีกแรง หากปราการแนวรับสุดท้ายพังทลาย เห็นทีจะต้องหนีออกไปข้างนอกบ้าน
เป็นการประลองกำลังระหว่างคนกับผีโดยมีบานประตูเป็นเครื่องกั้น เด็กสาวทุ่มแรงทั้งหมดเพื่อที่จะปกป้องพื้นที่สุดท้ายของบ้านไว้ ขณะที่วิญญาณร้ายที่หิวโหยก็พยายามดันบานประตูเต็มที่เช่นกัน ทั้งนี้เพราะด้านหลังของประตูนั้นมีเลือดหวานๆที่มันต้องการลิ้มลอง บางคราวที่ประตูเปิดแง้มออกเป็นช่องเล็กๆ ผีนรกได้สอดลิ้นยาวแดงของมันเข้ามาแลบเลียแขนที่มีเลือดแห้งเกรอะกรังด้วยความเอร็ดอร่อย เล่นเอาวิไลวรรณทั้งกลัวทั้งขยะแขยงไปพร้อมกัน
ฮึบบบบบบ ..... !! รันใช้แรงเต็มที่ดันประตูให้ปิดสนิทจนได้ นาทีวิกฤตผ่านพ้นอีกคำรบหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเธอยังไม่สามารถปล่อยมือออกจากประตูด้วยเพราะยังคงรู้สึกถึงแรงดันจากฝ่ายตรงข้ามแม้ว่าแรงจะผ่อนลงบ้างแล้วก็ตาม
หรือผีก็เหนื่อยเป็น ?
วิไลวรรณคิดติดตลกแต่เธอก็ไม่ประมาท เด็กสาวเอาไหล่ดันบานประตูไว้พร้อมนั่งพิงเป็นลักษณะกึ่งๆพักไปในตัว พออีกฝั่งใช้แรงดันเข้ามาเธอก็จะเพิ่มแรงกดให้เพียงพอไม่ให้บานประตูเปิดออก แรงดันของอีกฝั่งมีเพียงเบาๆ และไม่ค่อยถี่เช่นตอนแรก มีเพียงห่างๆนานๆทีเท่านั้น
สงสัยผีจะเหนื่อยจริงๆ ??
สาวนักกรีฑานั่งพักเหนื่อยโดยที่แผ่นหลังยังคงเอนพิงกับบานประตูทั้งนี้เพื่อจะได้สัมผัสถึงแรงที่กระทำต่อประตูได้
จากคุณ :
Luckard
- [
11 เม.ย. 51 16:37:46
]
|
|
|