Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    *** นิยาย ๐๐๐ที่ดินผืนนั้น ๐๐๐๐ ภาคสี่ ****** บทที่ ๑๘ กรรม !

    บทที่ ๑๘
                              กรรมโอบล้อม



            ต่อมา ในบ้านคุณแม่ของสามีก็มีการเข้ามาของ หลานสาวมีตำแหน่งเป็น
    นางงามต่างจังหวัดอะไรคนหนึ่งของท่าน ที่ข้าพเจ้ารู้ด้วยจากกิริยาอาการของ
    คุณแม่ท่านเสมือนหนึ่งว่า
            "เตรียมไว้ให้ลูกชาย"  
               นอกจากจะบอกทั้งด้วยสายตาและท่าทางเย้ย ๆ อย่างไรพิกลบ่อย ๆ
    แล้วท่านยังเอ่ยเปรยให้ได้ยินหลายครั้งว่า เขาผูกพันสัญญากันกับผู้หลักผู้ใหญ่
    ไว้ตั้งแต่ยังไม่เกิดกันด้วยซ้ำไป !

             สามีข้าพเจ้านั้น พอกลับถึงบ้าน ก็ลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนั่งดูทีวี
    บนบ้านใหญ่ ช่วงคุณน้องสาวญาติเขามานั้น ข้าพเจ้าผ่านออกไปดูที่พวกญาติ
    ทั้งหลายของคุณสามี นั่งดูทีวีเฮฮากัน คุณสามีนั้นเวลารับประทานข้าว ได้ยิน
    เสียงคุณแม่สามีท่านสั่งให้ "คุณน้อง" นั้น ตักข้าวให้เขา ตักกับให้เขา เสิร์ฟน้ำ
    ให้เขา และพอเวลานั่งดูทีวีอีกห้องนั้น เธอก็นั่งอยู่ปลายเท้าเขานั่นเอง !

              จากนั้น ก็ดูเหมือนเป็นความพยายามของท่านอีก ที่จะให้นิคกี้นั้นไปฝาก
    งาน"คุณน้อง"กับคนในบริษัทฯของเขาเพื่อให้ "คุณน้อง" นั้นได้ไปทำงานด้วยกัน
        นึกภาพว่า เช้าเธอก็ไปด้วยกับรถเรา เย็นก็ต้องกลับด้วยค่ำก็ป้อนข้าวกันอยู่บน
    เรือนใหญ่ นั่งดูทีวีอยู่ปลายเท้า ก็พอทนอยู่ ข้าพเจ้าฮื่ม ๆ อยู่ในใจ เสมอ แต่พอ
    เรื่องหางานให้ ก็ยื่นคำขาดว่าไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเรา  พูดตรงประเด็นกับคุณสามีเลย
    ว่า ไม่ต้องการให้นั่งรถไปด้วยกัน เกิดวันไหนลูกเต้าป่วยเจ็บเข้าโรงพยาบาล สอง
    คนก็นั่งไปมา ต่อไปจะสนิทสนมเกินเหตุ เห็นทีจะรับไม่ได้

              เธอก็เลยไปทำงานกับญาติคุณแม่สามีที่ไม่ไกลบ้านนัก  คุณแม่ท่าน จะ
    ยอมแพ้ก็หาไม่ เห็นช่วงที่ข้าพเจ้า ถือศีลปฎิบัติธรรมอยู่บ่อย ๆ วันหนึ่งก็เดินมาพูด
    กับข้าพเจ้าว่า
             " ถ้าจะปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิให้ดีใกล้ ๆ สำนักอาจารย์นั้น     เธอก็น่าจะไป
    หาหออยู่เสียแถวนั้นท่าจะดีกว่า  จะได้ปฏิบัติธรรมได้บรรลุไปไง  "

             อืมม์ ข้าพเจ้ารู้เล่ห์เหลี่ยมลูกไม้นี้ดี     เข้าใจหาเรื่องไล่ออกจากบ้านทาง
    อ้อมดีเชียวนะ เพราะหลายหนที่  ท่านมักมาหยิบไม้กวาดกวาดใบไม้อยู่ข้างเรือน
    มักชอบ ไล่"สุนัข"หรืออะไรแถวนั้นก็ไม่ทราบ ทำเสียงดังลั่นเข้ามาในเรือน

             " ไป ไป๊ มาทางไหน ก็ไปทางนั้น ไป๊ "

              เอ..ฟัง ๆ ดู มันไม่ใช่ไล่สุนัขนะนั่นท่าทางจะไล่คนที่อยู่ในเรือนไม้ข้าง
    ล่างนั้นมากกว่า

            ข้าพเจ้าใช้วิธี เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับท่าน ในระหว่างอยู่ที่นั่น ยึดมั่น
    หน้าที่ตัวเอง คอยดูแลลูกสาวและ ลูกชาย ทั้งสองคน ให้ดีที่สุด พอมีเวลาก็ไหว้
    พระสวดมนต์ แผ่เมตตาอยู่เป็นประจำ  

                ส่วน"คุณน้อง"หลานสาว นั้น เธอก็มีพี่สาวอีกคนที่เคยอยู่ที่บ้าน ก็ดู
    ซุบซิบกันอยู่เสมอ      ทว่าข้าพเจ้านั้นก็ได้สาวใช้มาอีกสองคนจากอีสาน มาช่วย
    ดูลูกคนละคน  จากนั้นเมื่อสองคนนั้นลาออกไปทำงานที่บ้านคุณแม่    ข้าพเจ้าก็
    ได้อีกคนมาแทน คนหลังนี้ มักแอบมาบอกข้าพเจ้าเรื่องพี่น้องสองคนนี้ แอบคิดจะ
    ทำอะไรกับข้าพเจ้าบ้าง อยู่เสมอ  

                 ดังนั้น เราจึงต้องมีเกมแมวไล่หนูกันอยู่เรื่อย ๆ ความที่บ้านติดกันแค่
    หลังคาเพิงต่อกัน อะไร ๆที่เขาเฮฮากันในครัวก็ดังถึงหูข้าพเจ้าให้ได้ยินสม่ำเสมอ
    อะไรที่เขานินทา ข้าพเจ้าก็ได้ยินทั้งนั้น บางครั้งก็ร้อนใจ บางครั้งก็ร้อนหู
             
                    แต่นิสัยส่วนหนึ่งที่สำคัญของข้าพเจ้าคือแม้นว่าจะเป็นนักคิด นัก
    เขียน แต่ไม่ค่อยพูดมาก     ยิ่งถือศีลไว้ในใจ ยิ่งไม่ค่อยพูดคำหยาบ พูดโกหก  
    พูดเพ้อเจ้อ  แถมมีหลักการคิดดีที่หลวงพ่อเสือฯ พระวิรุณหผล วัดไผ่สามกอ
    ซึ่งข้าพเจ้าได้ไปฟังธรรมจากร่าง ฯ ท่านให้ไว้ ว่าเวลาได้ยินใครเขาพูดไม่ดี ทำไม่
    ดีให้รีบ "กำหนด" ไว้ในใจเลยว่า

            " เจ้าประคู้น บุคคลนี้กำลังทำกรรมไม่ดีข้าพเจ้าขออธิษฐาน
          เกิดชาติใดฉันใด อย่าได้เป็นคนไม่ดีอย่างบุคคลนี้เลย"

            แต่บางครั้งก็หลุดได้เหมือนกันหากโทสะคือความโกรธนั้นเข้าแทน

             แต่ช่วงนั้น วิบากกรรมมีจริงเพราะลูกชายเกิดป่วยเป็นโรคหอบแพ้ตัวไรใน
    ฝุ่นบ้าน ซึ่งน่าจะมีมากมายจากการที่เรือนไม้ล่างนั้นเคยเป็นที่เลี้ยงกระต่าย เลี้ยง
    ไก่ ลูกชายข้าพเจ้าก็หอบเป็นประจำ   ข้าพเจ้าก็ต้องนำส่งโรงพยาบาล เข้าอ๊อก
    ซิเยน ให้น้ำเกลือ นอนที่โรงพยาบาล วิภาวดีบ้าง นนทเวชบ้าง บ่อยมากและ
    ข้าพเจ้าก็ต้องไปนอนเฝ้าลูกชาย ทิ้งลูกสาวไว้ที่เรือนอยู่อย่างนั้นบ้าง บางครั้งก็
    ต้องพาเธอไปฝากที่บ้านคุณแม่

                มีคืนหนึ่ง ที่สามีบอกว่า ไปงานเลี้ยงที่บริษัทฯ และกลับดึก ข้าพเจ้ามอง
    ดูเห็นลูกชายนอนหลับในเตียงที่โรงพยาบาล โทรฯถามไปที่บ้าน ตีสองยังไม่มีคน
    รับสาย ก็เลยขับรถกลับไปที่บ้านฯ ระหว่างลงไปกดกริ่งเรียกให้คนในบ้านมาเปิด
    ประตูนั้น แต่ภาพที่เห็นคือ "คุณน้อง" เปิดประตูเรือนไม้ ของเรานั้นออกมา และ
    คุณสามีข้าพเจ้ากำลังอยู่ในห้องน้ำ เพราะได้ยิน เสียงกดชักโครก

                     " คุณน้อง" เดินมาเปิดประตูรั้วให้ข้าพเจ้าขับรถเข้าไป ส่วนเขากำลัง
    ตามออกมาจากบ้านเรือนล่าง   ข้าพเจ้ามองภาพดังกล่าวแล้วสอบถามเขาว่าทำไม
    ถึงกลับจากงานเลี้ยงจนดึกขนาดนั้น  เขาซึ่งกำลัง อารมณ์แสนดีกับการไปผ่อน
    อารมณ์มา ก็ไล่ให้ข้าพเจ้ารีบกลับไปเฝ้าลูกชายที่โรงพยาบาล และเขาก็เข้านอน
    !!         "คุณน้อง" นั้น เดินกลับไปเรือนใหญ่ !!  ภาพที่เห็นเป็นปริศนาคาใจ
    ข้าพเจ้ามาหลายปี

    แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 51 11:16:35

    แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 51 23:48:36

    จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 เม.ย. 51 23:42:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom