ผมนึกถึงคำถามของเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง พี่จะจำ...ได้ไหม ช่องว่างนั้นคือชื่อของเธอ ซึ่งตอนนั้นผมตอบเธอไปว่า จำได้ เพราะผมคิดและมั่นใจว่าผมจะจำเธอได้แน่นอน เพราะอะไร? คือคำถามที่ผมกลับมาถามตนเองเนื่องจาก ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมจะจำเธอได้หรือไม่ เหตุผลของความไม่แน่ใจคือผมแน่ใจว่า กฎทุกกฎนั้นมีข้อยกเว้นนั่นหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน แม้แต่ความไม่แน่นอนก็เช่นกัน
น่าคิดว่าถ้าเธอถามผมอีกครั้ง พี่จะจำ...ได้ไหม ผมควรจะตอบเธอไปตามความจริงว่า ไม่แน่นอน หรือไม่
ผมลองคิดกลับกันว่าถ้าผมเองเป็นคนถามเธอด้วยคำถามเดียวกัน หากผมได้รับคำตอบว่า ไม่แน่นอน ผมจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเทียบกับคำตอบว่า จำได้ แน่นอนผมพอใจมากกว่า ถ้าได้รับคำตอบว่า จำได้ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่แน่นอน และ ในความคิดของผมมันเป็นคำตอบที่เกินเลยจากความเป็นจริง ไม่ต่างกับ รักเท่าฟ้า รักที่สุดในโลก
นั่นทำให้ผมลังเลว่าควรจะตอบเธอว่าอย่างไร ระหว่างตอบไปตามความจริงว่า ไม่แน่นอน หรือตอบไปว่า จำได้ เพียงเพราะให้เธอพอใจ อย่างที่ผมพอใจ
ผมจึงลองค้นหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาดูเนื้อหาเก่าที่เคยเรียนเพื่อที่จะหาคำตอบว่าผมควรตอบเธออย่างไร
ผมพบว่าความจำของคนเรานั้นแบ่งได้ 3 ระดับ คือ ความจำจากการรับสัมผัส ความจำระยะสั้น และความจำระยะยาว ผมจำเป็นต้องดูรายระเอียดทุกระดับเพื่อจะวิเคราะห์ว่า เธอ อยู่ในความจำระดับใดของผม ขั้นแรกผมตัดความทรงจำจากการรับสัมผัส ออก เพราะเธออยู่ในความจำของผมนานมากกว่า ชั่วขณะแล้ว
ผมจึงมั่นใจว่าเธออยู่ในความจำของผมที่ระดับ ความจำระยะยาว เพราะในความจำระยะสั้นผมจะลืมเธอได้ง่ายมากถ้าความจำถูกรบกวนหรือถูกแทรก และถ้ามีการทบทวนความจำระยะสั้นบ่อยเพียงใด ความจำระยะสั้นจะมีโอกาสเปลี่ยนเป็นความจำระยะยาวได้มากเพียงนั้น
แล้วผมก็ได้คำตอบว่าผมควรจะตอบเธออย่างไร
ผมจะตอบเธอว่า ผมจะทบทวนเธอบ่อยๆ
จากคุณ :
ป.ปิยวุโฒ
- [
17 เม.ย. 51 13:28:16
]