~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
%%%%%% +++ นิยายชีวิต ๐๐ ที่ดินผืนนั้น +++ %%%%%%
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
" " ที่ดินผืนนั้น " " - ภาค สี่
@@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@@
นิยาย ที่ดินผืนนั้น ภาคสี่ บทที่ ๑๙
บุญยังมี
๑ บารมีลูกชาย
พี่น้องของข้าพเจ้า นาน ๆ ที ก็หมุนเวียนกันมาเยี่ยม ในวันเกิดลูกชายครบ หนึ่ง
ขวบ คุณพ่อมาแวะเยี่ยมที่บ้านเรือนชั้นเดียวหลังนั้น นำสร้อยทองคำพร้อมพระมา
หนึ่งองค์ มาสวมคอให้ลูกชายด้วย
ลูกชายหัดพูดยากไม่เหมือนลูกสาว นับขวบกว่าเกือบสองขวบที่เขาไม่ยอมพูด
อะไร เหมือนเด็กคนอื่น แต่พออายุได้สองขวบ เขาก็พูดออกเป็นประโยคยาว ๆ อย่าง
เรียบเรียงความสามารถในการพูดได้อย่างน่าทึ่ง
พอลูกชายโตขึ้นพูดได้ เป็นขวัญใจของบ้าน ก็ถึงเวลาฝึกให้เขา รู้จักสังคม และ
ระเบียบวินัยอะไรนิดหน่อย บางช่วงข้าพเจ้าก็ให้เขา ไป "เข้าคอร์ส" กินนอนเล่น
กับพวกเด็กวัยเดียวกัน ที่เนิร์สเซอรี่ตรงข้ามบ้านอยู่ในซอยเดียวกัน ที่ใช้หลัก "มอนเตสเซอรี่"
ดูเขาก็อาการดีขึ้น
แต่ต่อมา เมื่อจะนำเขาไปฝากเลี้ยงที่เนิร์สเซอรี่ที่เพื่อนของสามีเป็นเจ้าของอยู่ เพื่อ
ให้เขารู้จัก "สังคม" ซึ่งอาจต้องมีระเบียบอะไรบ้างในชีวิต เช้าแรกที่เพื่อนข้าพเจ้ามารับที่บ้าน
คุณแม่สามีท่านออกไป ต่อสู้ ดึงขาลูกชายข้าพเจ้าลงมาจากรถเอาทีเดียว ร้อนถึงข้าพเจ้า
ต้องออกไปช่วยเขานำตัวส่งขึ้นรถไป ซึ่งพ่อเจ้าประคุณตัวดี นั้น ร้องไห้ขี้มูกโป่งออกจากบ้าน
ไป ทำเอาคุณแม่เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับข้าพเจ้า ราวกับพรากเอาของรักของหวงไปจากอก
การไปอยู่เนิร์สเซอรี่ไกลบ้าน ทำให้เขาเริ่มรู้จักการปรับตัวในการใช้ชีวิตขึ้นบ้าง
ต่อมาก็นำเขาไปฝากเรียนอีกช่วง ที่ " ผึ้งน้อย" โรงเรียนมีชื่อทางการแสดงใน ซอยวัดบัวขวัญ
ทางที่จะไปยังบ้านคุณแม่ของข้าพเจ้านั่นเอง
ขณะนั้นข้าพเจ้าก็ถึงเวลาจะต้องเคลียเงินค่าที่ดินที่ทำขายฝากไว้กับเจ้าหนี้ราย
สำคัญที่สนิทกับที่ทำงานข้าพเจ้า ยังเหลือเป็นแสนกว่า เมื่อ บ่นเรื่องนี้กับสามีว่าจะทำ
อย่างไร เขาก็เอ่ยถึง คุณแม่เขาขึ้นมา ว่า น่าจะไปคุยกับท่าน
คุณแม่สามีนั้น เห็นท่าน สวมผ้าถุง เสื้อคอกระเช้าอยู่บ้าน ตวาดหมา ตวาดแมว
ก้มหน้าก้มตาทำกับข้าวงก ๆ นั้น อย่าไปหมิ่นท่านเชียว
แม่บ้านธรรมดา ธรรมดา คนหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าชอบนึกดูถูกว่า 'บ้านน้อก บ้านนอก' นั้น
เป็นปึกแผ่นมั่นคงเหนียวแน่นเป็นหลักของบ้านของเขาจริง ๆ
ไม่นับเงิน "ดอกเบี้ย" ที่ได้รับแล้วเบิกมาเป็นก้อน ๆ ฝากประจำไว้บ้าง ฝากเผื่อเรียก
ไว้บ้างตามธนาคารที่มีอยู่ ท่านมีเงินเก็บกับ "แบ๊งค์ชาติ" เป็นพันธบัตร อยู่หลายใบ !!
นายแช้มป์ เจ้าลูกชายตัวน้อยนั้น .. เขาจะมาฟังแม่คุยกับพ่อเมื่อไหร่ ข้าพเจ้าไม่ได้
สังเกตเลย แต่เมื่อได้ยินแม่พูดกับพ่อเรื่องจำเป็นเช่นนั้น พ่อเจ้าประคุณ เขาทำอีท่าไหน
ข้าพเจ้าจำไม่ได้ เห็นแต่พ่อที่อุ้มไปนั่งตักคุณย่าของเขา แล้วสักพัก เจ้าตัวดี ก็เขย่าตัว
คุณย่าเขา พูดอ้อนวอนเซ้าซี้ขอคุณย่าให้ จ่ายเงินให้แม่
" ชวยแม่หน่อยนะ ย่านะ " !
ข้าพเจ้าเห็นหน้าตาหล่อ ๆ ของเด็กน้อยที่กำลังทำตาแป๋วใส่ย่า เขย่าตัวย่าอยู่นั้น
เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ลืมไม่ลง ว่า เขาทำได้อย่างไร ?
พอถูกเซ้าซี้อยู่หลายหน คุณย่าใจอ่อน ตอบตกลงว่าจะช่วยก็ได้ แต่ยังไม่วาย สะบัด
เล็กน้อยว่า
"นี่ชั้นช่วยเพราะเห็นแก่หลานชั้นหรอกนะ "
อืมม์ เอากับเขาซี่ บารมีเจ้าตัวเล็กนั้นไม่เบาเลย ไปขอเงินคุณย่ามาให้ข้าพเจ้า
ไถ่ถอนโฉนดออกมาได้
หากให้ข้าพเจ้าเอ่ยปากกับท่านเอง เห็นจะไม่มีวัน !
เมื่อคุณสามีนำเงินสด แสนกว่าบาทมาให้นั้น ข้าพเจ้าก็ไปทำการ ไถ่ถอนโฉนด
นั้นที่กรมที่ดิน นำโฉนด ที่ผ่านมือไปมาหลายครั้งหลายหน แต่ไม่ได้เก็บไว้กับตัวมานานแล้ว
ไปให้คุณย่าเจ้าลูกชายท่านเก็บไว้ เขียนบันทึกใส่กระดาษไว้ว่า เป็นหนี้ท่านอยู่สักแสน
บาท ตั้งใจให้เงินค่าดอกเบี้ยท่านแทนเจ้าหนี้อยู่...
เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นรายเดือนเพิ่มขึ้น เวลาที่ข้าพเจ้า
นำเงิน "ค่าดอกเบี้ย" ใส่ซองไปให้ท่านช่วงนั้น จึงดูเป็นเวลาที่รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมาก..
~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~
จากคุณ :
tiki_ทิกิ
- [
18 เม.ย. 51 01:06:21
]