ความคิดเห็นที่ 1 เอาละ เข้าเรื่อง ทัวร์นี้เป็นทัวร์วันเดียวที่ไปมาเมื่อกลางเดือนก่อน แรกเริ่มเดิมทีไม่ได้มีความคิดจะไปเลย เพราะกลางเดือนมีนาที่อังกฤษปีนี้ มีทั้งลมทั้งฝน แถมอุณหภูมิใกล้ๆศูนย์ สาวไทยใจหาญไม่อยากจะไปไหนทั้งนั้นแหละ ไม่นับว่าการบ้านท่วมหัวอีกต่างหากนะ แต่ แต่ดันมี อีเมลล์ฉบับหนึ่งจาก Dean of student office เขาจะจัดทัวร์ ไป Sutton Hoo Sutton Hoo มีอะไร ไม่รู้ น่าเที่ยวไหม ไม่รู้ แต่มัน เจ็ด ปอนด์ นะ สำหรับคนที่เมืองไทย เจ็ดปอนด์ หรือสี่ร้อยกว่าบาทนี่ สำหรับทัวร์วันเดียวนี่ไม่ค่อยถูก แต่ที่นี่ นั่งรถเมลล์ไม่กี่ป้ายก็ปอนด์นึง  ไกลหน่อยสองปอนด์ ตั๋ววันสี่ปอนด์ นี่เที่ยวทั้งวัน มีไกด์ด้วย  แค่เจ็ดปอนด์ แถมค่าเข้าชมคนละห้าปอนด์หกสิบเพนน์ ก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม สรุปว่า งกค่ะ จ่ายตังค์จองทันที ของถูกแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ แต่ถูกและดีหรือเปล่าค่อยว่ากันอีกที และในเมื่อมันถูกขนาดนี้ จะไม่ชวนคนอื่นเดี๋ยวเขาจะหาว่าเราใจร้ายใจดำ ก็เลยไปป่าวประกาศ ได้เพื่อนร่วมชะตากรรม เอ๊ย ร่วมทัวร์มาอีกสอง สาวงามทั้งคู่ แต่เสียใจด้วยนะหนุ่มๆ มีแควนแล้ว จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันเดินทาง วันเดินทางเรานัดเจอกันที่ป้ายรถเมลล์ใหญ่ในมหาวิทยาลัย พอไปถึงก็มีผู้คนมารออยู่บ้างแล้วประปราย สามสาวทีมเดียวกันก็ตรงไปหาที่นั่งรอ พอนั่งปุ้บ ก็มีสาวจีน สวยเชียว แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมายืนใกล้ๆ ยังไม่ทันจะทักทาย ก็ปรากฏหนุ่มผมทองตามมาประกบสาวสวยอย่างใกล้ชิด แล้วไอ้หนุ่มก็เริ่มจีบสาว (แล้วมันเกี่ยวอะไรกะแกฟะ เขาไม่ได้จีบแกเสียหน่อย) ก็มันจีบเสียงดัง แถมมุขบ้านมาก ประเภท "ยูเป็นบ้างไหม ที่ไม่อยากเที่ยวกับใครเลย เวลาที่ปิ้งใครจริงๆ ไอนะ ตอนนี้เป็นอยู่แหละ บลา บลา บลา" สาวไทยอย่างเราก็เลยฟังไปวิจารณ์ไป แถมลุ้นระทึกว่าสาวจีนจะเลี่ยงไปท่าไหนหว่า ซึ่งเธอก็เก่ง เลี่ยงไปได้เรื่อยๆ ไม่มีผูกมัดตัวเอง ในขณะที่สาวไทยทั้งสามแอบสรุปกันเองว่า แค่หลวมตัวมาเที่ยวกะหมอนี่วันเดียวก็น่าจะแย่พอแล้ว ดีแล้วล่ะ ที่เธอเลี่ยงได้ลื่นขนาดนั้น (ต้องสารภาพว่า อคติกะเจ้าหมอนี่มาก ตอนเริ่มจีบสาวด้วยมุขบ้านๆ เราแค่หมั่นไส้เล็กน้อยถึงปานกลาง แต่พอร่วมทางไปนี่สิ พ่อมัวแต่จีบสาว มาขึ้นรถสายตลอด ทำเอาคนต้องรอกันทั้งคันรถทุกจุดที่จอด ตอนนี้เลยได้แต่เพี้ยง ขอให้ให้สาวเอาความสามารถในการรักษาเวลามาประกอบการพิจารณา) สักพักรถก็มา  ก็เข้าแถวขึ้นรถกันตามระเบียบ เที่ยวนี้รถจอดไกลจากที่นั่งรอไปหน่อย แถมเจ้าหนุ่มผมทอง มัวแต่เทคแคร์สาว ขวางทางเดิน จะหลบไปไหนก็ไม่ได้ ต้องรอจนหมอนั่นดึงกระเป๋าสาวมาถือ สำรวจโค้ท แล้วก็หยอดมุขบ้านๆอีกสองสามประโยคเสร็จนั่นแหละ ถึงจะเดินออกไปเข้าแถวกับเขาได้ (บอกแล้วว่าอคติกะหมอนี่จริงๆ) เลยได้ขึ้นทีหลัง แล้วก็ได้นั่งค่อนไปทางด้านหลังของรถ ซึ่งไม่ชอบเลยเพราะต้องรอคิวเวลาลงรถ แถมมองไม่เห็นไกด์ เขาชี้ชวนให้ดูอะไรก็ไม่ค่อยจะทัน พอขึ้นรถ ลุงไกด์ ชื่อไมค์ (นามสมมุติ) ก็เริ่มบรรยาย "วันนี้เราจะไปที่ Sutton Hoo ซึ่งเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์สมัยแองโกลแซกซอน ซึ่งแม้ว่า เราจะยังไม่รู้ว่าเขาคือใคร แต่นี่ก็ถือว่าเป็นหน้าแรกของประวัติศาสตร์อังกฤษ.." (ในที่สุดก็รู้สักที ว่าไปดูอะไร) รูปแรก หน้ากากทอง (รูปจากอากู๋นะจ๊ะ ที่ถ่ายเองมันมัวซัวมาก เดี๋ยวลงให้ดูอีกที) แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 04:33:23 จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "และวันนี้เราจะเดินทางลงใต้ไปที่ Sutton Hoo ก่อนเลย หลังจากนั้น เราจะแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ Malting หลังจากนั้นเราก็จะแวะไปทะเล .." ลุงชะงักไปแป็บนึง หันไปมองนอกหน้าต่าง ซึ่งถ้าเรามองตาม ก็จะเห็นสายฝนมันปรอยๆ ไม่ขาดสาย ลุงเลยพูดต่อ "แต่ว่า อากาศแบบนี้ การนุ่งบิกินี เล่นบอลชายหาด หรือเล่นน้ำทะเล คงไม่ค่อยเหมาะเท่าไร แม้ว่า พยากรณ์อากาศเขาจะบอกว่า ตอนบ่ายอากาศจะดีขึ้นก็เถอะ" "ลุ๊ง ต่อให้แดดออก แต่วันนี้อุณหภูมิสูงสุดเจ็ดองศา ยังไงหนูก็ไม่เล่นน้ำหรอก" อันนี้สาวไทยข้างหลังแอบโวย "พี่ๆ ต่อให้มันอุ่นกว่านี้ หนูก็ไม่อาบแดดเหมือนกันแหละ เที่ยวก่อนกลับบ้าน แม่ถามว่า ไปเมืองนอกยังไง ทั้งดำทั้งผอม คนอื่นเขาได้นมได้เนย กลับมาขาวๆอวบๆกันทั้งนั้น" รู้สึกว่า สาวไทยสามคน ไม่มีใครสนใจทะเลอังกฤษเลยแฮะ และลุงก็พูดต่อ "ชายหาดที่เราจะแวะนี่ เป็นอะไรที่ ordinary มาก...." ลุงแกเน้นเสียงจนสามสาวไทยชักจะสงสัย ว่ามันขนาดไหนหว่า แต่ก็ช่างเหอะ หลวมตัวมากะลุงเขาเพราะงกแล้ว ก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป ข้างล่างเป็นแผนที่การเดินทางจ๊ะ จริงๆลุงเขาแจกแผ่นใหญ่ แต่ขี้เกียจสแกน เลยหาจากอากู๋มาให้ดู รูป ๒ แผนที่จ๊ะ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 04:38:21 จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บนรถช่วงแรก ลุงไมค์ก็บรรยายเรื่อง กษัตริย์ลึกลับในตำนานคนนี้ไปเรื่อยๆ  โดยเริ่มจากการที่เจ้าของที่ดินคนหนึ่งต้องการจะสำรวจเนินดินขนาดใหญ่ในที่ดินของตนเอง ก็เลยจ้างนักสำรวจมาขุด ขุดไปขุดมา ก็ค้นพบว่า ใต้เนินดินนั่น คือเรือทั้งลำ ก็เลยมีการขุดต่ออย่างจริงจังในปี 1939 ต่อมาก็เจอศพชายใส่หน้ากาก สันนิฐานว่าน่าจะเป็น Anglo-Saxon kings of East Anglia เมื่อ 1,300 ปีก่อน ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการขุดค้นอีกสองครั้ง ในช่วงทศวรรตที่ 60 กับ 80 ที่ๆเราจะไปกันก็คือ เจ้าเนินดิน และหลุมที่เขาขุดกันนี่แหละ” สามสาวไทยหันไปมองหน้าต่างอย่างพร้อมเพรียง ฝนมันยังตกจั๊กๆอยู่เลย แล้วตูจะเดินสำรวจยังไงฟะ ที่สำคัญ รถเลี้ยวเข้าถนนสายรอง น้ำเริ่มท่วมถนนแล้วอีกต่างหาก วันนี้ตูจะรอดไหมนี่ รูปจาก national trust จ๊ะ (อ่านต่อแล้วจะรู้ว่าทำไม ไม่เอาที่ถ่ายเองมาลง) จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากนั้น ลุงไมค์ก็เริ่มบรรยายลักษณะหลุมฝังศพที่พบ ซึ่งบรรดานักโบราณคดีลงความเห็นว่า ตรงกับลักษณะหลุมศพของ Scyld Scefing ในเรื่อง Beowulf เลย ว่าแล้วลุงก็เริ่มอ่านโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน อะไรสักอย่างของเรื่องนี้ในฟัง เอ่อ เสียงลุงก็ทรงพลังดีอยู่หรอก แต่ภาษาพูดปกตินี่ก็แย่แล้ว เจอร้อยกรองภาษาโบราณนี่ ไม่สามารถจับความมาเล่าต่อไปได้จริงๆ ขออภัยเป็นอย่างสูง หลังจากที่ ลุงอินกับร้อยกรองโดยไม่มีใครขัดคอ (ก็ถือไมค์อยู่คนเดียว ใครจะขัดแกได้) แกก็บอกว่า เรื่องนี้นะ ฮอลลิวู้ดเอามาสร้างหนังด้วยล่ะ และต่อไป ท่านทั้งหลายคงเดาได้ ลุงแกสปอยหนังอย่างเมามัน เฮ้อ ไม่ต้องเข้าเฉลิมไทย ก็โดนสปอยได้ เรื่องราวระหว่างเดินทาง หลักๆก็มีเท่านี้แล จะมีตื่นเต้นบ้างก็บางตอนที่รถผ่านบ้านในชนบทแถบนึงที่เป็นสีชมพูสวยเชียว แล้วลุงก็ชี้ในดูว่า ไอ้เจ้าสีชมพูหวานๆที่เห็นนั้น มันทาด้วยเลือดหมู ไม่ผิดหรอกจ๊ะ เลือดหมูจริงๆ แต่ผสมอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะ เป็นเทคนิคโบราณ สำหรับปอ้งกันแมลงเข้าบ้าน (สงสัยมันจะเกาะอยู่นอกบ้านหมด - อันนี้สาวไทยสรุปเอง) แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 04:46:36 จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถึงแล้วจ๊ะ ฝนหยุดแล้ว แต่อากาศมัวซัวมาก แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 04:52:14 จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 (ต้องแก้รูป เอามาแปะใหม่) แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 04:57:01 แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 51 04:54:34 จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แก้รูปรอบที่สาม ขออภัย จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 04:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่อยากจะบอกเลยว่าไปถึงแล้ว เคืองคนวางแผนเดินทางมาก ก็จุดนี้จะจอดหนึ่งชั่วโมง Walking Tour ก็ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ไม่แค่นั้น ดันไปถึงตอนกลางของ Walking Tour รอบแรก และรอบที่สองก็จะเริ่มหลังจากที่เราไปถึงแล้วครึ่งชั่วโมง แล้วตูจะได้ดูอะไรหว่า ก็ได้มาแค่นี้ จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้เป็นรูปจำลอง ในเรือที่อยู่ใต้เนิน จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลักษณะศพที่เจอ จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพถ่ายของภาพคนขุดอีกที มีหลายท่า แต่ดูภาพเดียวพอ เดี๋ยวโหลดนาน เขาโชว์ตำราที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วนนะ แต่มันก็เหมือนชั้นหนังสือในห้องสมุดนั่นแหละ จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:14:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พวกเครื่องประดับก็มี แต่อยู่ในกล่องกระจก รูปเลยมีแต่แสงสะท้อน จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากกดชัตเตอร์อย่างเมามัน ก็เริ่มไปอ่านป้ายที่อยู่ข้างๆบ้าง ปรากฏว่า ของที่อยู่ในมิวเซียมนี้ เป็นของจำลอง ของจริงอยู่ที่ British Museum ของจริงที่เหลือก็คือ เนินดิน กะหลุมขุดที่เขาไม่มีปัญญาขนไปลอนดอน ซึ่งไม่ได้ไป เพราะ มันกึ่งกลางช่วง Walking Tour พอจะเดินเอง น้องๆอีกสองคนก็ "พี่ ลมมันแรง ฝนตกด้วย เหลือเวลาอีกสิบห้านาทีเอง แถมหนูหิว เรานั่งกินกาแฟในคาเฟ่กันเหอะ" โธ่ ทัวร์ของตู จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต่อไป ก็จุดแวะพักกินข้าว Snape Malting อันว่า Snape Malting นี้ ลุงไมค์แกเล่าว่า มันสร้างมาตั้งแต่กลางๆศตวรรษที่สิบเก้า แต่พอถึงช่วงราวๆปี 50 ก็ขาดทุนแบบไม่เห็นอนาคต พอถึงปี 65 ก็เลยเปลี่ยนมาเป็น Concert Hall ซึ่งกิจการก็รุ่งเรืองดี มีนักแต่งเพลงชื่อดังหลายคนเริ่มต้นจากที่นี่ (ลุงเขาเอ่ยชื่ออยู่ แต่ไม่ได้เอาอะไรไปจด ลืม) เกริ่นเสร็จ ลุงก็เปิดโอเปราเลย ดนตรีอารมณ์ประมาณทะเลคลุ้มคลั่ง ฟังตอนฝนตกหนัก แถมนน้ำท่วมข้างทางนี่ได้อารมณ์มากขอบอก พอไปถึง อืมม Concert Hall ปิด เพราะเป็นวันอาทิตย์ ชมนิทรรศการไม่ได้ Farmer market จัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน แล้วเราไปวันอาทิตย์กลางเดือนทำไมฟะ Nature walk ฝนตกอยู่จ๊ะ แม้จะเปลี่ยนจากจั๊กๆ เป็นปรอยๆ แล้วก็เหอะ River trip เวลาไม่พอจ๊ะ ถึงพอ เรือมันก็ออกไปแล้ว อืมม ลุงเขาแวะกินข้าวจริงๆจ๊ะ แต่สาวไทยอิ่มตั้งกะคาเฟ่จุดจอดที่แล้ว ก็เลยเดินช้อปอย่างเดียวค่ะ ขอยืนยัน วินโดว์ ช้อปปิ้งเท่านั้น เพราะสาวที่มีแฟนเขาชวนไปดูเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน กะเครื่องครัว ถึงมีเงินซื้อก็ไม่มีปัญญาหอบกลับจ๊ะ แต่เดินดูอย่างเดียวนี่ก็สนุกดี โดยเฉพาะเครื่องครัว ไปลูบๆคลำๆซิลิโคนที่ใช้ได้ทั้งในเตาอบและในฟรีซเซอร์ มีตั้งแต่แบบกล่องสี่เหลี่ยมสำหรับอบขนมปัง จนถึงตุ๊กตาตัวเล็กตัวน้อย เรื่องราคาอย่าไปพูดถึง รับรองตัดสินใจไม่ยากหรอกว่าเก็บตังค์ไว้ทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า อ้อ มีอยู่อย่างที่เห็นแล้วสงสัยมากว่า ที่เมืองไทยราคาเท่าไร แล้วเดี๋ยวนี้มีกี่แบบ ของที่ว่า ก็คือ ครกหิน ของที่นี่ ครกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสักแปดนิ้ว ดีไซด์อ่างศิลาราคาสิบแปดปอนด์ แต่อีกอันขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสักสี่นิ้ว แต่กลึงแบบมีดีไซน์ มันดูอรชรอ้อนแอ้น ไม่แลดูหนักอึ้งเหมือนดีไซน์อ่างศิลา แต่ต่างกันแค่นี้ ราคามันขึ้นไปที่สี่สิบถึงหกสิบปอนด์ อ่างศิลาบ้านเราทำส่งออกหรือยังหว่า เดินวนกันได้ไม่เท่าไร แล้วก็ต้องเดินทางต่อ คราวนี้จะไปทะเลละนะ จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เที่ยวทะเลคราวนี้ บอกได้เลยว่า ไม่ต้องเสียดายที่ไม่ได้มา นี่หาดของเขา นี่ทะเลของเขา(ดูรูปจ๊ะ) แถมด้วยอุณหภูมิใกล้ๆศูนย์ ลมแรงแบบต้องเดินเอียงๆ อย่าเอาหน้าต้านลม ไม่อย่างนั้นจะไปข้างหน้าลำบากมาก บอกตรงๆ คิดถึงหัวหิน ชะอำ เกาะเสม็ด ฯลฯ สุดท้าย หนีไปเดินตะเวนชมเมืองชายทะเลอยู่เกือบชั่วโมง เพราะอยู่ชายหาดไม่ไหว จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อะ เห็นรูปหาดไม่ชัด เอาอีกรูปละกัน ว่ามันเป็นหาดกรวด ไม่ใช่หาดทราย ขอย้ำ คุณไม่ได้พลาดอะไร ที่ไม่ได้มา จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เที่ยวกลับลุงมีแถม พาไปโบสถ์เก่าแห่งนึง ชื่อ Holy Trinity Church, ณ Blythburgh เป็นโบสถ์เล็กๆที่สร้างตั้งแต่ยุคกลาง ลุงให้เวลาเดินดูแค่สิบห้านาที นับตั้งแต่เดินลงรถเข้าซอย ฝ่าสุสาน เข้าโบสถ์ แล้วก็เดินกลับมาอีกที ก็เลยได้ดูแต่ร่อยรอยการต่อเติมระหว่างยุคกลางกับยุคหลังที่ลุงชี้ให้ดู รอยเหมือนเล็บตะกุยที่ประตูโบสถ์ ที่เขาว่า เป็นมือปีศาจที่พยายามหนีออกมา ตอนนี้มีเรื่องเล่าประกอบนิดนึงว่า สมัยศตวรรษที่สิบห้า หลังคาโบสถ์เคยถล่มจนแท่นพิธีพัง ชาวบ้านเขาก็ว่าเป็นเพราะปีศาจนี่แหละที่พยายามหนีออกมาจนสำเร็จ แล้วที่แปลกอีกอย่างก็คือ หลังคาโบสถ์ส่วนนี้ไม่เคยได้รับการซ่อมแซมอย่างเหมาะสมมากว่าสี่ร้อยปี ว่ากันว่า เมื่อสักห้าหกสิบปีก่อน บาทหลวงยังต้องถือร่มทำพิธีอยู่เลย จนท่านบิชอปในสมัยนั้นต้องสั่งปิด เพราะอันตราย มาได้ซ่อมแซมกันจริงจังก็ตอนที่ทางการให้ความสำคัญในฐานะที่เป็นอาคารโบราณนั่นแหละ ตอนที่เข้าไป โบสถ์เขากำลังมีกิจกรรมอะไรสักอย่าง ก็เลยได้เยี่ยมๆมองๆ ไม่กี่ส่วน คว้าโปสการ์ดมาได้สามใบ ไม่ได้ถ่ายรูปเลย ได้แค่นี้ก็หมดเวลาอีกรอบ ถึงเวลากลับบ้านเสียที สำหรับทัวร์เจ็ดปอนด์ ถือว่าคุ้มเกินราคา แต่มันน่าเสียดายที่ไม่ดูหลายๆส่วนที่น่าจะได้ดู ถ้าวางแผนดีๆ นึกไปนึกมาก็ห่วงเพื่อนร่วมชะตากรรมที่เราไปชวนเขามา จะเซ็งหรือเปล่าหว่า ปรากฏว่า "พี่ แค่หนูได้นั่งรถเที่ยวก็มีความสุขแล้ว มองหน้าต่างไปเห็นทุ่งนา แล้วคิดถึงบ้านที่ศีรสะเกษอ่ะ สงกรานต์นี้หนูกลับบ้านดีกว่า" เออ โล่งไปที เที่ยวสงกรานต์เผื่อพี่ด้วยนะไอ้น้อง ปล จบแค่นี้แหละ ไม่นึกว่าเที่ยวแค่วันเดียว จะเขียนได้ยาวขนาดนี้ แล้วทัวร์ลอนดอนที่ติดไว้อีกหนึ่ง จะทำเสร็จเมื่อไหร่หว่า เมื่อเอยก็เมื่อนั้นละกันนะ จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 51 05:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านแล้วประหนึ่งว่าได้ติดตามร่วมขบวนการชลุกขลักทัวร์ไปด้วยเลยครับ และคุณ Deckard เล่าได้อารมณ์ทัวร์มากเลย แนจบผมก็เออออห่อหมกเอาเองว่า อิมม์.....หน้าแรกของประวัติศาสตร์อังกฤษ คือหน้ากากทองนี่เอง ซึ่งดูแล้วแปลกพิลึกดี จินตนาการต่อได้หลายแบบเชียว ....^___^..... น้องศรีษะเกษทีเล่าให้ฟังเขาก็มีแนวคิดที่น่ารักดีนะครับ สั้นๆแต่ลงตัว จาก พี่ แค่หนูได้นั่งรถเที่ยวก็มีความสุขแล้ว มองหน้าต่างไปเห็นทุ่งนา แล้วคิดถึงบ้านที่ศีรสะเกษอ่ะ สงกรานต์นี้หนูกลับบ้านดีกว่า" ...^__^.... ทำเอาอมยิ้มได้เลย ครกหินของที่โน่นไม่มีทางสู้ของไทยเราได้หรอกครับ ยิ่งของไทยเราเรามีส้มตำนานาชนิดเป็นปัจจัยเสริม กับครกยิ่งชนะไม่เห็นฝุ่นครับ ส่วนอิตาฝรั่งผมทองที่จีบสาวจีนนั่นนึกถึงภาพ คำพูดและพฤติกรรมแล้ว ก็ฮาดีครับ สงสารแต่สาวจีนคนนั่น เธอจะอยู่อย่างปกติสุขไหมหนอในการทัวร์กับพฤติกรรมการรุ่มร่ามน่าเตะของหนุ่มคนนี้ .......^___^....... จากคุณ : Psycho man - [ 21 เม.ย. 51 08:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อันที่จริงเจ้าหน้ากากนี่น่าสนใจนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำไมมีเรือตรงนั้น ทะเลกลายเป็นแผ่นดินหรือยังไง น่าเสียดายจริงๆ แหละที่ไม่วางแผนให้ร่วมฟังบรรยายได้ตลอด จากคุณ : scottie - [ 21 เม.ย. 51 17:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมได้ไอเดียล่ะ โตขึ้นไปผมจะทำอาชีพส่งออกครก  ^ ^ จากคุณ : ปฤษณะ - [ 22 เม.ย. 51 00:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะ คุณ Psycho man และจะบอกน้องเขาให้ว่ามีคนบอกว่า เขา(มีแนวคิด)น่ารัก ตอนนี้บอกให้เขาเข้ามาอ่านเองไม่ได้ เพราะแถวบ้านเธอถ้าจะใช้เนตต้องเข้าอำเภอ หรือไม่ก็ต้องอาศัยอินเตอร์เนตโรงเรียน ซึ่งช้ามาก.... คุณ scottie จริงอย่างที่คุณว่าเปี๊ยบ ถึงได้มีเคืองตอนที่รู้ว่าไม่ได้เดินกะทัวร์ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปตะลุยบริติทมิวเซียมเอง จะได้ดูของแท้ที่เขาเอาไปไว้ที่ลอนดอน ไม่ใช่ของจำลองอย่างเที่ยวนี้ น้อง ปฤษณะ (ก็บอกว่า จะโตขึ้น คงเรียกน้องได้นะ) จะส่งครกออกนอกจริงอะ จะบอกให้ว่า แถวบ้านมีคนทำครกแตกไปสามใบแล้ว เธอว่า ไม่ใช่ของไทยไม่ได้คุณภาพ ตอนนี้ ฝากให้ใครๆหอบมา คนโดนฝาก อึ้งกันทุกคน (เห็นว่าจะยอมหอบปลาร้า แจ่วบองมาให้แทนครกน่ะ) นะโม โตเร็วๆ นะน้อง (จะได้รีบส่งครกมาขาย) พี่กลัวโดนฝากตอนกลับบ้านงวดหน้า ^ ^ จากคุณ : Deckard - [ 22 เม.ย. 51 03:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ลงชื่อไว้ก่อนนะคะ แต่ต้องรีบออก ฝนตกหนัก จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 เม.ย. 51 02:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาฮากับทรมานทัวร์ จากคุณ : Canossa - [ 25 เม.ย. 51 14:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เอ่อ...ยาวจัง นึกเม้นไว้ตั้งแต่อ่านช่องแรกๆ แต่อ่านยาวไปหน่อย ตอนนี้เลยจำไม่ได้แล้วว่าจะเขียนว่าไง วุ๊ย...ลืม จากคุณ : BestChild - [ 25 เม.ย. 51 19:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ดีใจที่มี เม้นท์ เพิ่ม จะมาอ่านเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : Deckard - [ วันแรงงาน 03:08:58 ]