Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    บัวบกแก้ร้อนใน...แต่เติมใจให้กรุ่นรัก [Yuri]

    “ฮือ ๆ”

    เสียงสะอึกสะอื้นของคนขี้แยดังมาตั้งแต่หน้าประตูร้านรวยรินกลิ่นโกปี้ ทำให้สายตาสองคู่ในอิริยาบถที่แตกต่างกันตรงเคาน์เตอร์กาแฟต้องเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงแทบจะพร้อมกัน

    เสียง “หึหึ” ค่อย ๆ ดังขึ้นมา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงระเบิดหัวเราะดัง “ก๊าก ๆ” คับร้าน ซึ่งนั่นก็เป็นเสียงของคนนั่งดื่มเอสเปรสโซ ขณะที่มือชงเอสเปรสโซกลับทำหน้าเหยเก ดูเหลอ ๆ ด้วยไม่รู้ว่าจะหัวเราะแบบยัยบ้าที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์นี้ดี หรือจะร้องไห้ตามยัยขี้แยนั่นแทน เพราะภาพที่เมื่อคือ ใบหน้ากับแก้มโย้ ๆ ข้างหนึ่งของยัยขี้แยเปรอะไปด้วยน้ำมูกและน้ำตา

    “ฮือ ๆ ไม่นึกว่าแก่ปูนนี้แล้วยังจะเป็นคางทูมได้อีก ฮึกๆ ฮือๆ ช่วยหน่อยสิ ฉันไม่อยากไปหาหมอน่ะ ฮือ ๆ”

    เสียงพูดสะอื้นนิด ๆ ของยัยแก้มโย้ดังใกล้เข้ามา จนยัยบ้าปล่อยพลังเสียงหัวเราะต้องรีบหุบปาก พลางหันหน้าไปมองมือชงเอสเปรสโซอย่างขอความเห็น แล้วสุดท้ายก็เป็นคนแสดงความเห็นเสียเอง

    “โห แก้มโย้ขนาดนี้ ถ้าไม่ไปหาหมอแล้วจะทำไงล่ะ จะเขียนคำว่า เสือ เป็นภาษาจีนแทนหรือไง”

    ยัยบ้าพลังเสียงหัวเราะเอ่ยน้ำเสียงระรื่น มองแก้มโย้ ๆ ที่เปรอะน้ำตา พลางยื่นมือที่จับแก้วกาแฟเมื่อครู่ออกไปหมายจับแก้มโย้ ๆ เพื่อพิจารณาดูว่า ใช่คางทูมหรือต่อมทอนซิลอักเสบกันแน่ แต่เจ้าของแก้มโย้รีบเบี่ยงแก้มหลบ พูดน้ำเสียงขุ่น ทำแก้มที่โย้อยู่แล้วให้ตุ่ยยิ่งขึ้น

    “มือสกปรก ห้ามจับ”

    “เอ้า ไม่ให้แตะดู แล้วจะรู้เหรอว่า ใช่คางทูมหรือเปล่า ยัยขี้แย” น้ำเสียงคะนองเอ่ยสวนกลับมา และก่อนจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เสียงพูดอย่างห่วงใยก็ดังมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์ชงกาแฟ

    “ไหนลองอ้าปากดูสิ ว่าเจ็บไหม”

    ได้ผล คนแก้มโย้รีบปาดน้ำมูก น้ำตาออก แล้วพูดคำว่า “อ้า” ยาว ๆ ดัง ๆ แถมพ่นลมปากใส่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเต็ม ๆ

    “เฮ้ย ยัยขี้แย ไม่แปรงฟันนี่หว่า มิน่าล่ะ แก้มโย้เลย ก๊ากฮ่า ๆ” พูดพลางยกมือขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะออกมาเต็มเสียง

    “นี่ยัยบ๊อง ถ้าเหม็นขี้ปากฉัน ต้องเอามือปิดจมูก ไม่ใช่ปิดปาก เชอะ หรือว่ากลัวฉันเห็นและรู้ว่าฟันเธอหลอกี่ซีกล่ะ เชอะๆ” พูดเสียงจิกกัดเสร็จ แล้วหันไปพูดกับคนที่ยืนหลังเคาน์เตอร์ต่อ

    “อ้าปากแล้วไม่เจ็บจ้ะ อ้อ ไม่มีใครด้วย สงสัยไม่ใช่คางทูมแล้วแหละ น่าจะเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ” พูดและวินิจฉัยแทนพร้อมสรรพ จนคนฟังทั้งสองยิ้มกว้าง

    “ฉันว่า ต่อมทอนซิลไม่ได้อักเสบหรอก พูดเสียงแจ้วซะขนาดนี้ ไหนเข้ามาให้ฉันดูใกล้ ๆ หน่อยซิ”

    พูดแล้วก็กวักมือเรียก จนคนถูกเรียกรีบกระโดดขึ้นนั่งบนเก้าอี้สูงอีกตัวที่อยู่ใกล้ ๆ ยัยบ้าพลังเสียงหัวเราะที่นั่งมองแก้มที่โย้เพียงเล็กน้อย ไม่ได้ทำให้รูปหน้าดูน่าเกลียดเลยสักนิด แต่เจ้าตัวดันร้อนตัวโวยวายไปเองอย่างขำ ๆ

    นัยน์ตาคมกลมโตของคนหลังเคาน์เตอร์มองแก้มโย้นิด ๆ นั่นอย่างห่วงใย ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างขบขันออกมาเบา ๆ แล้วผละออกจากหลังเคาน์เตอร์ หันหลังก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็เจอตู้แช่เย็นที่มีน้ำสมุนไพรสารพัดสัญชาติแช่อยู่ชั้นบนสุดในตู้

    สายตาไล่มองฉลากที่ติดอยู่ข้างขวด ปากก็เอ่ยพึมพำเบา ๆ แต่ความเงียบของร้านรวยรินกลิ่นโกปี้ก่อนเปิดบริการ ทำให้สองสาวที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ได้ยินเต็มสองหู

    “แก้มโย้อย่างนี้เขาเรียกว่า ร้อนใน ต้องดื่มอะไรที่เป็นธาตุเย็นแก้”

    เพราะได้ยินถนัดชัดเจนนี่แหละ ทำให้ยัยแก้มโย้กับยัยบ้าพลังเสียงหัวเราะต่างหันมามองหน้ากันเอง พลางขมวดคิ้วใส่กันอย่างสงสัย

    “เฮ้ย เพื่อน ไอ้ธาตุเย็นที่นายว่านี่ มันคืออะไรวะ”

    คนบ้าพลังเสียงหัวเราะทำหน้าสงสัย ส่วนสายตาก็มองชั้นบนสุดของตู้แช่ที่มีน้ำสมุนไพรจำนวนมากแช่อยู่...หรือว่า ธาตุเย็นที่ได้ยินหมายถึง น้ำที่อยู่ในตู้แช่เย็นนั่น

    “ก็น้ำสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่ายลดอาการร้อนในนะสิ อย่างเธอน่ะ”

    คำตอบเอ่ยต่อทันควัน พร้อมกับหยิบน้ำสมุนไพรขวดหนึ่งติดมือออกจากตู้แช่ แล้วหันมาประจันหน้าคนทั้งสอง สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของคนแก้มตุ่ย

    “แก้มโย้นิดเดียวทำเป็นงอแงไปได้ สาเหตุคงเป็นเพราะร้อนใน เอ้า เอานี่ไปดื่มซะ ดื่มบ่อยหน่อย เดี๋ยวแก้มก็หายโย้แล้ว”

    ขวดน้ำสมุนไพรถูกยื่นมาวางตรงหน้า ขณะที่สายตาของยัยแก้มโย้มองฉลากชื่อน้ำสมุนไพรนั้นตาไม่กะพริบ เช่นเดียวกับยัยบ้าพลังเสียงหัวเราะ แต่ยัยนี่มีอาการปากอ้า ตาค้างเป็นของแถม และตามด้วยเสียงพูดดังขึ้นพร้อมกัน แต่เสียงของคนถูกบอกให้ดื่มกลับเบาหวิว

    “น้ำใบบัวบกนี่นะ”

    “เฮ้ย ! เพื่อน น้ำใบบัวบกนี่มันสำหรับแก้ช้ำใน อกกลัดหนองนะเว้ย” ตามด้วยเสียงเอ่ยเย้าแต่ไร้แววขำ

    “ใช่ ๆ ให้เราดื่มน้ำใบบัวบกนี่ก็เท่ากับ เธอกำลังบอกฉันเป็นนัย ๆ ใช่ไหมว่า ฉันจะอกหักน่ะ” เสียงคนแก้มโย้รีบพูดต่อประโยคของคนพูดก่อนทันที และนั่นก็ทำให้ทั้งยัยบ้าพลังเสียง กับคนภูมิใจเสนอให้ดื่มน้ำแก้ร้อนในยี่ห้อใบบัวบกมองอย่างเหนื่อยหน่าย

    คนหนึ่งไม่คิดว่าคำพูดของตัวเองจะกระตุ้นให้ยัยขี้แยทึกทักและคิดตาม ส่วนอีกคนไม่เคยคิดเลยว่า ยัยขี้แยจะมีความคิดหรือคำพูดแบบนี้อยู่ในหัวสมอง

    มือที่วางอยู่บนขวดจึงเปลี่ยนเป็นเอื้อมไปแตะแก้มตรงส่วนที่โย้อย่างเบามือ ยิ้มพรายอย่างผู้หญิงใจดียิ้มให้สาวน้อย แม้จริง ๆ แล้วเจ้าหล่อนจะไม่ใช่สาวน้อยก็ตาม แต่ก็เป็นหญิงเดียวในใจของคนยิ้มพราย

    “ช่างคิดนะ แม่เจ้าประคู้น อะไรทำให้เธอคิดอย่างนั้นน้า”

    พูดแล้วก็เหล่ตามองเพื่อนที่นั่งอมยิ้มแก้มตุ่ยอีกคน แต่ตุ่ยเพราะกลั้นยิ้มอย่างคาดโทษ...ส่วนสายตาถ้าพูดได้คงพูดออกมาแล้วว่า...

    ‘เอ็งน่ะ พูดเหมือนไม่เคยเรียนวิชาสมุนไพรไทยพื้นฐานมาก่อนเลยนะเอ็ง’

    ก่อนจะเบือนสายตากลับมามองหญิงเดียวในใจแต่แก้มโย้อีกครั้ง คราวนี้ลดมือออกจากแก้ม เปลี่ยนเป็นลูบแตะต้นคอ แล้วเลื่อนขึ้นไปแตะหน้าผากเบา ๆ

    “ตัวไม่ร้อน แสดงว่าไม่มีไข้ แก้มก็โย้เล็กน้อย เป็นเพราะร้อนในนั้นแหละ อย่างนี้ต้องดื่มหรือกินอาหารที่เป็นธาตุเย็น จะได้ช่วยแก้ร้อนใน” ปากด็พูด ส่วนมือก็เปลี่ยนจากแตะเช็กอุณหภูมิมาเป็นคว้าแก้ว ตักน้ำแข็งใส่เล็กน้อย แล้วเทน้ำใบบัวบกลง พร้อมกับยื่นส่งให้ตรงหน้า

    “ดื่มซะหน่อย จะได้ชื่นคอ ใบบัวบกแก้วนี้ไม่ขมมีแต่หวาน เพราะฉันทำให้ด้วยใจ”

    พูดแล้วก็หยุดเว้นระยะ เมื่อเห็นคนตรงหน้ามองตาแป๋ว ทำตาเยิ้ม ใบหน้าดูเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากยิ้มหวานแม้ว่าตอนฉีกยิ้มจะรู้สึกเจ็บบ้าง แต่ก็ทน ส่วนมือก็รับแก้วที่มีน้ำแก้ช้ำใจมาดื่มไปยิ้มไป พลางพึมพำในใจ

    ‘อืม...ถ้ารู้ว่าน้ำใบบัวบกทำให้หวานได้ ฉันคงดื่มไปนานแล้ว รู้งี้เชื่อแฟนฉันแต่แรก คงไม่แก้มโย้เพราะร้อนในแบบนี้หรอก เฮ้อ’

    และเสียงพึมพำตอบออกมานี้ทำราวกับรู้ว่า เดี๋ยวสาวหล่อจะยิงคำถามนี้

    “เป็นไง คำพูดของฉันหวานซึ้งพอจะทำให้เธอลืมไปเลยไหมว่า กำลังดื่มน้ำใบบัวบกแก้วนี้อยู่”

    แทนที่จะได้คำตอบจากคนที่ตนถาม กลับกลายเป็นคำพูดจิกกัดแบบหยอก ๆ จากอีกคนแทน

    “ก๊าก ๆๆ ฮ่า ๆๆ ใช่ ๆ ลืมไปเลยว่ะว่า เอ็งจะพูดอะไรได้หวานเลี่ยนจนความขมของไอ้น้ำใบบัวบกนั่นน่ะยังต้องชิดซ้ายชะแวบหายไปเลยว่ะฮ่า ๆ”

    เสียงเพื่อนบ้าพลังเริ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่โคลงศีรษะแล้วหัวเราะเท่านั้นแต่เป็นหัวร่องอหายทั้งตัว...เมื่อนึกได้ว่า นาน ๆ จะเห็นสาวหล่อคนนี้ปล่อยคำหวานแบบเลี่ยน ๆ ออกมาสักที

    “เออ แต่ก็ดีเหมือนกันนะ” พูดพร้อมกับหันหน้ามาพยักพเยิดกับคนแก้มตุ่ยที่ตอนนี้ทำท่าเหมือนกำลังกลั้นใจดื่มน้ำใบบัวบก

    “ปกติใบบัวบกจะขมจนฝื่นคอ และนิยมใช้แก้อาการช้ำใจ แต่สำหรับยัยนี่เหมาะใช้แก้ร้อนใน แต่ให้ใจช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ความรักแทน ฮ่า ๆๆ โอ๊ย ! เห็นแล้วก็อิจฉาวุ้ย”

    พูด หัวเราะ และพยักพเยิดจนเมื่อยคอแล้ว จึงลุกจากเก้าอี้ วางเงินค่าเอสเปรสโซลงบนเคาน์เตอร์ พร้อมกับกระซิบเบา ๆ เป็นการทิ้งท้ายข้าง ๆ หูยัยแก้มโย้ขี้แย

    “ถ้าอยากได้รักอุ่น ๆ รสหวานเจี๊ยบแบบนี้อีก ก็เป็นร้อนในบ่อย ๆ นะ ยัยสาวแก้มโย้ ไปละนะ บ๊ายบาย”

    จากนั้นก็รีบเดินตัวปลิวออกนอกร้านไป ก่อนที่ร้านจะเปิด แล้วตนต้องอยู่ทำหน้าที่เป็นลูกมือ คอยช่วยบริการลูกค้าเหมือนทุกครั้ง...

    เพราะวันนี้...คนที่เพิ่งจะเดินออกจากร้าน อยากให้ยัยสาวแก้มโย้เพราะร้อนใน แต่เป็นหวานใจของเจ้าของร้าน...ได้ทำหน้าที่เสิร์ฟหัวใจอุ่น ๆ และเติมความหวานให้ความรักของกันและกันบ้าง

    ..... จบ ........

    จากคุณ : อักขราษร - [ 22 เม.ย. 51 23:37:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom