หนาวไหมพี่ ฉันถามคนข้างๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะหันไปมองแผ่นฟ้ากว้าง ผ่านกระจกบานใหญ่ เพื่อสำรวจว่าอากาศข้างนอกเป็นอย่างไร
ขนลุกตลอดเลยพี่ หาไรร้อนๆมากินหน่อยดีกว่า ว่าแล้วฉัน ก็เดินเข้าครัว เปิดตู้ดูของกินที่ว่าอย่างตั้งใจ....ไม่นานแก้วเซรามิคสีขาวขุ่นก็ถูกประคองออกมาจากที่ของมัน
เฮ้ยไอ่ผึ้ง แกกินอะไร
ชาร้อน....พี่เอาม่ะ .....เธอส่ายหน้าเป็นคำตอบ.....
หลักการจิบชาข้อแรก ของฉัน คือ คุณต้องหลับตา จากนั้นก็ค่อยๆสูดเอาไออุ่นที่ลอยอ้อยอิ่งบนปากแก้ว....หายใจเข้าลึกๆ......แล้วคุณก็จะรู้สึกถึงกลิ่นหอมจางๆ ของชาแก้วนั้นๆ
อื่มมม....กลิ่นหอมจางๆ ของดอกมะลิแห้ง ที่ลอยมาเตะจมูก ทำให้ฉันนึกถึงภาพ การจิบชาสมัยเด็กๆ บนดอยแม่สลอง ท่ามกลางอากาศที่หนาวจับใจในตอนนั้น หลายปีมากแล้วที่ฉันไม่ได้เดินทางไปที่นั่น ฉันจำชื่อของสถานที่ที่ไปไม่ได้หรอกนะ แต่ภาพของมันยังชัดเจน และติดตรึงใจฉันเสมอมา
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศจากมุมไหนสักแห่งในห้องสี่เหลี่ยมนี้ ทำฉันขนลุกซู่อีกครั้ง มันหนาวอยู่ข้างในแปลกๆ และมันก็ทำให้ฉันกลับมามีสติอีกครั้ง
Jasmine Green Tea แก้วนี้ จะว่าไปแล้วก็เหมือนชาจีนธรรมดา มากกว่าที่จะเป็น ชาเขียว...เพราะรสชาดของมันฝาด แข็งกร้าว และดุดันแบบชาจีน ไม่เหมือนกับเวลาดื่มชาเขียว ในร้านอาหารญี่ปุ่นที่รสชาดอ่อนละมุล นุ่มลิ้น...เป็นไปได้ว่า ชาเขียวในแก้วของฉัน เป็นชาเขียวฝรั่ง ไม่ใช่ชาเขียวจีน หรือญี่ปุ่นที่นิยมดื่มกัน
นักดื่มชาย่อมรู้ดีว่า ชาเขียวที่มีขายอยู่ทั่วไปนั้นมีหลายแบบมาก แม้ว่าจะใช้ชื่อเหมือนๆ กัน แต่รสชาดนั้นต่างกันเหลือเกิน เพราะขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต และวิธีการชงที่แสนจะอ่อนหวานและพิถีพิถัน
ถึงแม้ว่าฉันจะหลงรักการดื่มชามากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่ได้เป็นผู้รู้ หรือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องชามากนัก ออกจะดิบๆ ด้วยซ้ำไป เพราะการดื่มชาของฉัน เน้นไปทางการเสพบรรยากาศ และซึมซับเรื่องเล่าของคนตรงหน้าเสียมากกว่า
แก...ฉันเริ่มหนาวแล้วหละ แกกินชาอะไร เสียงของคนข้างๆ ดังขึ้นอีกครั้ง
ชาเขียวมะลิพี่...ที่จิ๊กมาจากโรงแรมกะพี่จูนตอนนั้นไง
เอ่อ พวกแกนิ...แล้วมีอย่างอื่นอีกม่ะ
แป๊ปค่ะ.... แล้วฉันก็เปิดลิ้นชัก หยิบซองชาอีก 2 แบบที่เหลือออกมา
มีนี่อีก..CEYLON SUPREME TEA กับ DARJEELING TEA เอาแบบไหน
อร่อยม่ะ........แต่เอาแบบแกก็ได้ แล้วรอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏขึ้น
ฮ่าๆๆ เอาอะไรที่คุ้นเคยดีกว่าเนอะพี่เนอะ....รอแป๊ป... แล้วฉันก็ลุกไปที่ที่ฉันเพิ่งเดินกลับมา พร้อมกับแก้วเซรามิคสีขาวขุ่น ที่เหลือเพียงซองกระดาษเล็กๆ สีน้ำตาลที่ยับยู่ยี่ นอนแน่นิ่งอยู่ข้างในแก้ว
...ถ้าเติมน้ำร้อนอีกคงไม่อร่อยแล้วหละ...พอละ...ฉันรำพันในใจ....
แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 51 23:20:58
แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 51 23:11:53
แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 51 23:01:56
จากคุณ :
รวยระรินกลิ่นชา
- [
30 เม.ย. 51 17:50:47
]