ผม นั่งอยู่บนรถไฟ และกำลังเดินทางไปยังปลายทางที่อยู่ห่างไกลจากที่นี่
ไปเพื่อตามหาหัวใจ ที่ได้จากไปพร้อมกับการจากไปของคนที่รักผม
เสียงของล้อเหล็กกระทบราง มันบาดหูจนต้องเพิ่มโวลลุ่มของเครื่องเล่นเพลงที่เสียบอยู่ในหู บางครั้งเพลงบางเพลงก็ฟังแล้วน้ำตาไหลแม้ในเวลานั้นจะมากมายไปด้วยใครๆ แต่เหมือนโลกทั้งโลก ไร้แม้ใครสักคน... อ่านหนังสือบางเล่มซ้ำไปซ้ำมาในบรรทัดเดิมแต่ไม่รู้ในเนื้อหาของมัน สายลมพัดปะทะผิวกายก็หนาวเยือกไปทั้งใจทั้งที่อยู่ในท่ามกลางแสงแดดจัดจ้า
ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆ เหมือนวันที่เราเคยเดินข้ามผ่าน
ทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างมาด้วยกัน นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด
แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน... เพราะเธอ
เพลงนี้เองที่ทำให้ต้องฟังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าจนจำได้ขึ้นใจ... อาจเพราะเรื่องราวในเพลงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้นั้นมันตรงกันเกินไปก็ได้
ผมไม่ได้ชอบการอยู่คนเดียวแต่ผมคุ้นชินกับการอยู่คนเดียว ตื่นเช้า ไปทำงาน ตั้งใจทำงาน กลับบ้าน ดูหนัง ฟังเพลง และในบางวาระเวลาก็หาโอกาสสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนฝูงตามประสาหนุ่มโสดที่มีชีวิตเกือบตลอดเวลาอยู่กับความโดดเดี่ยว... หลังจากผู้หญิงคนที่อยู่ด้วยกันนานที่สุดในชีวิตหิ้วกระเป๋าเดินจากไปด้วยเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ "มีคนอื่นที่เขารักฉันเท่าๆ กับคุณ แต่เขาสามารถรับผิดชอบชีวิตของฉันได้มากกว่าคุณ เวลานั้นผมหูอื้อที่ความโง่เง่ากระโดดตีเข่าใส่เข้าหน้าท้องเต็มๆ จนจุกร้าวไปถึงสันหลัง
แล้วความเดียวดายก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมความอิสรเสรี ผมใช้ชีวิตเต็มที่อีกครั้ง โดยไม่แยแสอะไรในโลกนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่ผมจะเชื่อว่าเธอจริงใจ ไม่เคยมีใครทำให้ผมเอ่ยคำว่ารักด้วยความรู้สึกนั้นจริงๆ อีกเลยสักครั้งนับแต่นั้น เธอทุกคนเป็นเพียงเครื่องมือในการแบ่งเบาปัญหาเรื่องสัมพันธภาพเพื่อทดสอบศักยภาพความเป็นผู้ชายของตัวเองเท่านั้น
จนกระทั่งผมได้พบกับเธอและกลายเป็นตัวประกอบในฉากที่ไม่มีพระเอกของเรื่องราวในชีวิตเธอ เธอบอกเล่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ฟังขณะที่เดินอยู่ริมทะเลไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชายหาดที่ทอดยาวไม่ได้ทำให้ความเศร้าเธอลดลงไป และผมก็เป็นได้เพียงตัวประกอบเดินอยู่ข้างๆ ฟังเรื่องราวที่เธอเล่าถึงอีกคน ในเวลานั้นผมเพียงแค่ความรู้สึกหมิ่นแคลนในความอ่อนแอของเธอ ความรักที่มากเกินไปจนดูกลายเป็นความงมงายและโง่เง่า ผมไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงสิ่งที่เธอบอกว่า เขาเป็นทุกอย่างในชีวิตของฉัน ในเวลานั้นผมไม่ได้คิดจะรับเธอเข้ามาในชีวิตสักนิดเดียว แต่ผมก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้ ผู้หญิงบางคนก็อ่อนไหวจนน่าเตะ ดังนั้นต่อมาผมจึงกลายเป็นพลาสเตอร์ยาที่คอยปิดแผลปกป้องเชื้อโรคเท่านั้น... อาจเพราะผมหวงแหนความโดดเดี่ยว แต่ก็ลิงโลดใจเมื่อมีเธออยู่ใกล้ ผมไม่อยากให้ใครมาเกี่ยวข้องผูกพันกับชีวิต แต่ผมก็คิดถึงเธอ เมื่อไม่ได้เจอหน้า
คนเหงาสองคนมาพบกัน...พวกเขาเหมือนรู้จักกันมาทั้งชีวิต
เธอไม่มีใครแล้ว และคนที่ผมมีก็จากไปแล้ว นั่นจึงเป็นเรื่องง่ายต่อการสานสัมพันธ์ นานชั่วลมหายใจเข้าออกเพียงไม่ถึงเดือน เราก็กลายเป็นคู่รักที่เดินจูงมือกันริมทะเลได้โดยไม่เหลือรอยน้ำตาเปื้อนอยู่บนใบหน้าของเธออีก แต่บางครั้งความรักก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดและยิ่งยากเข้าไปอีกเมื่อความรักคือการมีใครอีกคนเข้ามาในชีวิต เราอาจต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างเพื่อแลกกับอะไรสักอย่าง และแม้สิ่งที่หายไปบ้างจะหมายถึง โลกส่วนตัว ก็ตาม สำหรับผมกับเธอ กว่าที่เราจะก้าวข้ามเรื่องราววุ่นวายต่างๆ มาด้วยกันถึงวันนี้ เราต่างก็ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งความไม่เข้าใจ การปรับความเข้าใจ ความสับสนมาจนถึงเหตุผล หลายอย่างเราปรับตัว หลายเรื่องเราต่างฝืนใจก็เพื่อใครอีกคน
แต่ท้ายที่สุดต่างก็ไม่สามารถที่จะยอมรับได้ในสิ่งที่อีกคนเป็นจริงๆ
ขอผมได้หยุดหายใจบ้างเถอะ วันหยุดทั้งที ผมก็อยากพักผ่อนบ้าง แต่นี่ผมต้องทำในสิ่งที่ผมไม่ได้อยากทำเลยสักนิด ผมเบื่อ เธอเป็นศิลปิน บ่อยครั้งที่เธอต้องไปแสดงผลงานศิลปะและผมต้องเป็นใครสักคนที่คอยติดสอยห้อยตามเธอไป... เพียงเพราะไม่อยากขัดใจเธอ
นะค้า...คนดี ไปเป็นเพื่อนกันเดี๋ยวเดียวเอง แล้วเราค่อยไปดูหนังกัน ดีมั้ย และจากที่ไปเป็นเพื่อน ก็กลายเป็นไปรู้จักเพื่อนๆ ของเธอ ที่ผมมักจะกลายเป็นมนุษย์ต่างดาวในทุกครั้งที่พวกเธอคุยกัน ไม่ใช่ว่าเธอจะทำให้ผมกลายเป็นส่วนเกิน แต่ผมเองต่างหากที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งที่เกินมา เธอคุยเรื่อง Abstract Art เรื่องประกวดภาพเขียนที่ชิคาโก ราคาภาพเขียน ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความสนใจและยุ่งยากต่อการทำความเข้าใจ ผมต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของผมตลอดมา
เพียงเพราะไม่อยากขัดใจเธอ
จนกระทั่งเมื่อเธอย้ายเข้ามาอยู่กับผม ใช้เตียงนอนร่วมกัน ใช้ห้องน้ำด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ใช้แก้วน้ำใบเดียวกัน เรากลายเป็นครอบครัวโดยพฤตินัย ผมรู้ว่าเธอรักผมมาก และนั่นกลายเป็นข้อต่อรองลึกๆ ที่ทำให้ผมใช้เป็นเครื่องมือเมื่อรู้สึกว่าเธอ ไม่ได้ดั่งใจ
ตื่นเถอะนะคะ สายแล้ว คุณต้องไปทำงานนะ
ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะ
ทานข้าวหรือยังคะ เที่ยงแล้ว เดี๋ยวจะหิวนะ
ทุกประโยคนั้นมาจากความรัก ความหวังดี อย่างแท้จริง นานแล้วที่ไม่มีใครคอยพูดประโยคเหล่านี้ กับผม แรกๆ ก็ฟังดูเข้าท่าดีเหมือนกันที่มีคนคอยเป็นห่วงเป็นใย แต่นานเข้าประโยคดีๆ เหล่านั้นกลับกลายเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ น่าเบื่อ และท้ายที่สุดผมก็ทนไม่ได้
เมื่อก่อนตอนที่ไม่มีคุณผมก็ตื่นเวลานี้ตลอด
ผมรู้ว่าเวลาไหนต้องอาบน้ำ ต้องไปทำงาน ไม่ต้องพูดซ้ำซากได้มั้ย
จะโทฯ มาทำไมทุกวัน ถ้าหิว ผมก็ไม่หิ้วท้องรอใครทั้งนั้นแหละ
ผมได้เธอมาโดยไม่คิดว่าจะมีวันที่เธอจะจากผมไป...ผมเชื่อว่าอย่างนั้น เธอเจ็บปวดในประโยคเหล่านั้น แต่เธอก็อดทนกับมันเพราะคำเพียงคำเดียว ความรัก ผมไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงถึงได้ให้ความสำคัญกับคำๆ นี้มากมายเหลือเกิน สำหรับผมแล้ว คำคำนี้มันได้ล้มหายตายลงไปตั้งแต่เธอคนก่อนจากไปแล้วโน่นแล้ว และสำหรับเธอคนนี้ก็เพียงแค่ความเหงาที่ทำให้เราสองคนมาพบกัน ไม่ได้เริ่มต้นที่เรารักกัน ทั้งหมดเป็นแค่เกมวัดใจของพระเจ้าเพียงเพื่อจะทดสอบความอ่อนโยนในหัวใจผมเท่านั้น แต่แล้วพระเจ้าก็ชนะขาดลอย เพราะไม่ว่าใครก็เปลี่ยนหัวใจที่แข็งกระด้างของผมไม่ได้ ไม่ว่าอะไรก็เปลี่ยนความกร้านหยาบของหัวใจผมไม่ได้ แม้แต่สิ่งที่เรียกว่า ความรัก ก็ตาม
และสุดท้าย... ผมก็รักษาเธอเอาไว้ไม่ได้
เธอไม่ได้จากผมไปเพราะเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่เพราะมีใครคนใหม่ที่รักเธอได้เท่าๆ กับผม แต่รับผิดชอบชีวิตเธอได้ดีกว่าผม หากแต่เป็นเพราะเธอรู้ว่าความจริงใจของเธอที่ให้ผมมานั้นไม่ได้ต่างไปจากการถมทะเลด้วยน้ำตา เธอบอบช้ำมาและผมเป็นยาสมานใจ แต่สุดท้ายเธอก็เจ็บหนักกว่าเดิม เพราะนอกจากแผลเก่าจะไม่หายแล้วเธอยังได้แผลใหม่เพิ่มมาอีกรอย
เธอ นั่งอยู่บนรถไฟ และกำลังเดินทางไปยังปลายทางที่อยู่ห่างไกลจากที่นี่
ไปเพื่อหนีให้พ้นจากความร้าวรานใจ จากการถูกทำร้ายหัวใจโดยคนที่เธอรัก
เสียงของล้อเหล็กกระทบราง มันบาดหูจนต้องเพิ่มโวลลุ่มของเครื่องเล่นเพลงที่เสียบอยู่ในหู บางครั้งเพลงบางเพลงก็ฟังแล้วน้ำตาไหลแม้ในเวลานั้นจะมากมายไปด้วยใครๆ แต่เหมือนโลกทั้งโลก ไร้แม้ใครสักคน... อ่านหนังสือบางเล่มซ้ำไปซ้ำมาในบรรทัดเดิมแต่ไม่รู้ในเนื้อหาของมัน สายลมพัดปะทะผิวกายก็หนาวเยือกไปทั้งใจทั้งที่อยู่ในท่ามกลางแสงแดดจัดจ้า
ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆ เหมือนวันที่เราเคยเดินข้ามผ่าน
ทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างมาด้วยกัน นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด
แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน... เพราะเธอ
..........................
...ท้ายที่สุดเราต่างก็กลับมาอยู่กับตัวเอง
ที่จริง ความเหงามันก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่นักหรอก ถ้าคุ้นเคยกับมันดีพอ... /
จากคุณ :
ดาริกามณี
- [
14 พ.ค. 51 09:41:00
]