ความคิดเห็นที่ 1
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
" " ที่ดินผืนนั้น " " - ภาค เจ็ด
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%% @@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@
บทที่ ๓๑ เกมชีวิต เกม ๑ ทอยลูกเต๋า
ย้อนกลับมาที่ช่วงทำไปรษณีย์ ข้าพเจ้าพยายามอย่างที่สุดที่จะดูแล ลูกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอถึงวันหยุดนั้นเหมือนขึ้นสวรรค์ หากพาลูก ไปเที่ยวได้ ข้าพเจ้าจะรีบพาไปทันที เหมือนอย่างครั้งหนึ่งได้พาสองคนนั่ง รถไฟไปบางปะอินสามคนแม่ลูก ...ตามเคย พ่อของลูกแทบจะไม่เคยมีเวลา ไปเที่ยวกับเรา เขากำลังยุ่งวุ่นวายกับวิถีการทำงานที่ใหม่ของเขา เหมือน อยู่กันคนละโลก
เรื่องการเรียนของลูกสาวนั้นไม่น่าเป็นห่วง ยังคงเรียนดี มีวินัยใน การเรียนและ ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี แทบจะไม่น่าเป็นห่วงอะไร
แต่สำหรับลูกชายแล้ว อาการป่วยไข้ที่เรื้อรังมาทำให้ช่วงหนึ่ง ต้องเปลี่ยนโรงเรียนให้ลูกชายอย่างกระทันหัน เพราะได้รู้ว่า ที่โรงเรียนเก่า ของเขานั้น อาจารย์พละ ใช้วิธีทำโทษ ให้ลูกชายยืนอยู่ตรงบันได ปากคาบ รองเท้าตัวเอง และ ให้เพื่อนของเขาเดินมาเตะก้นเขาได้
ถึงแม้จะรู้จักกับเจ้าของโรงเรียนเป็นอย่างดี แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถ ทนให้ลูกถูกทำร้ายขนาดนั้นได้ จึงต้องพาลูกย้ายโรงเรียนด่วน โดยขอให้คุณน้าของข้าพเจ้าซึ่งเป็นกรรมการหมู่บ้าน การเคหะแห่งชาติ ฝั่งคลองประปา ช่วยฝากกับท่านอาจารย์ใหญ่ขอให้ลูกย้ายโรงเรียน ข้าพเจ้ากล่าวกับอาจารย์ใหญ่ว่า ลูกจะเรียนไม่เก่งก็ไม่ว่า แต่ขอให้อยาก มาโรงเรียน ขอให้โรงเรียนเข้าใจว่าลูกเรามีโรคเรื้อรังประจำตัว กินยา แล้วออกอการเพี้ยนได้
ก็เพราะโรคหอบที่เขาเป็นอยู่จากการแพ้ตัวไรในฝุ่นบ้าน จำเป็น ต้องใช้ยาแก้หวัด แก้แพ้ที่ทำให้เขาง่วงและมีอารมณ์หงุดหงิดในบางครั้ง ขอให้อาจารย์ ช่วยดูแลให้ ด้วย ดังนั้น ลูกจึงย้ายโรงเรียนเป็นครั้งที่สาม และ ข้าพเจ้าก็แอบไปดูเขาบ่อย ๆว่าอยู่ที่โรงเรียนมีความสุขดีไหม
ตกเย็น ระหว่างที่ข้าพเจ้ายังติดภาระไปทำงานที่บริษัท ฯ ใน กรุงเทพฯ หรือ ช่วงที่ต้องทำไปรษณีย์ก็ตาม กว่าจะไปรับเขาได้ก็เกินห้าโมง หกโมงเย็นไปแล้ว จึงให้เขาเดินไปเมื่อเลิกเรียนแล้ว ให้ไปคอยที่บ้าน คุณน้าซึ่งคุณยายของข้าพเจ้าเป็นคุณทวดของลูก ยังอยู่ที่นั่น ผู้เฒ่าของ ข้าพเจ้า ท่านทำอาหารเย็นไว้รอเหลนทุกวัน เพราะกว่าข้าพเจ้าจะเลิกงาน ก็เย็น กว่าจะไปรับได้ก็ห้าหกโมงไปแล้ว
เมื่อจัดการเรื่องเรียนของลูกเข้าที่ไปแล้ว เจอพิษงานประจำ สองแห่งทั้งบริษัทของนาย ส. และบริษัทที่สาธรข้าพเจ้าก็ถอดใจคิดหา งานทำเอง
ช่วงนั้น เราเหลือรถบีเอ็มเก่า ๆ อยู่คัน เอาไว้ไปธุระซื้อข้าวของ หรือไปรับส่งลูกไปกลับโรงเรียนเป็นบางวัน ซึ่งข้าพเจ้ายังมีอีกหน้าที่ คือต้องนำรถไปซ่อมที่อู่ซ่อมถนนแจ้งวัฒนะ วัน ๆ ที่ว่าง ก็ต้องไปนั่งคอย ช่างซ่อมรถ หมุนไปหมุนมาหลายชั่วโมง จนกว่าเขาจะรักษาอาการงอแงนั้น ได้ ค่าซ่อมแต่ละครั้ง ก็หลัก พัน หลายพัน จนสุดท้ายมันเป็นหลักหมื่น
(ยังมีต่อ ) ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จากคุณ :
tiki_ทิกิ
- [
วันวิสาขบูชา 03:02:18
]
|
|
|